มือถือย้อนยุคกำลังจะกลับมา 'อินเทรนด์'

โทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าๆ ไม่ว่าจะโนเกีย อีริคสัน หรือโมโตโรล่า เตรียมหวนกลับสู่สังเวียนอีกครั้งหลังผู้ใช้งานเริ่มเบื่อหน่ายกับโทรศัพท์มือถือที่บอบบาง พังง่าย และเทรนด์ของการใช้ของย้อนยุคที่กำลังมา

ของเก่าราคาแพง

แต่ทั้งนี้ก็ลืมไปได้เลยสำหรับการใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ การคุยโทรศัพท์แบบเห็นหน้าฝ่ายตรงข้าม รวมถึงอีโมติคอนต่างๆ เพราะในโทรศัพท์มือถือ เช่น โนเกีย 3310 หรือโมโตโรล่า สตาร์เทค 130 มีฟังก์ชั่นการใช้งานเพียงแค่ส่งข้อความตัวอักษรธรรมดา และโทรเข้า-รับสาย

ทว่าความต้องการโทรศัพท์มือถือย้อนยุคเหล่านี้ก็ยังทวีขึ้่นอย่างต่อเนื่อง และบางรุ่นที่ขายกันอยู่เป็นมือสองก็ยังราคาสูงลิ่วถึง 1,000 ยูโรต่อเครื่อง

"บางคนก็ไม่ได้สนใจราคาสักเท่าไร เรามีรุ่นที่ขายกันราคามากกว่า 1,000 ยูโรด้วยซ้ำไป และที่แพงก็เพราะเป็นรุ่นหายาก เนื่องจากตอนนั้นผลิตจำนวนจำกัด" นายแจสเซม ฮัดแดด เจ้าของเว็บไซต์ vintagemobile.fr ที่เริ่มเปิดมาตั้งแต่ปี 2552 กล่าว

ทั้งนี้ เดิมจะเน้นขายตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมายอดขายก็เริ่มทะยานขึ้น

นานาเหตุผลคนใช้มือถือเก่า

โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาสามารถขายมือถือรุ่นเก่าไปแล้วกว่า 10,000 เครื่อง และเริ่มพุ่งกระฉูดตั้งแต่ต้นปี 2556

"คนสูงอายุก็เริ่มหันมองว่ามือถือที่ใช้งานง่าย และก็ยังมีบางกลุ่มที่อยากได้มือถือมือสองราคาถูกๆ ไว้ใช้งาน" นายฮัดแดด ว่า

รุ่นที่ขายดีที่สุดบนเว็บไซต์คือ โนเกีย 8210 จอขนาดเล็กขาวดำ และปุ่มกดพลาสติก ราคาอยู่ที่ 59.99 ยูโร

อย่างไรก็ตามแนวโน้มดังกล่าวเป็นเพียงระยะเริ่มต้นหลังอุตสาหกรรมโทรคมจัดการกับโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าเหล่านี้ด้วยการนำกลับไปรีไซเคิลใหม่ และหันไปให้ความสนใจกับสมาร์ทโฟนที่เป็นเทรนด์มากกว่า

ขณะที่ยักษ์ใหญ่ในวงการมือถืออย่าง "โนเกีย" ซึ่งครั้งหนึ่้ง เคยเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกก่อนที่จะถึงยุคของไอโฟนและกาแล็คซี่ ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทตัดสินใจขายกิจการมือถือให้ไมโครซอฟท์หลังไม่สามารถไล่ตามกระแสนิยมของสมาร์ทโฟนได้สำเร็จ

แต่ก็ดูเหมือนว่าโนเกียก็ไม่สามารถปรับตัวสู่ยุคสมาร์ทโฟนได้ซึ่งทำให้มือถือรุ่นเก่าๆ ก็ไม่เป็นที่คาดหวังด้วย

กระแสย้อนยุคกำลังมา

สำหรับนายเดเมียน ดาวนี ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีใหม่จากฟาดา เอเจนซี่ ให้ความเห็นว่า เทรนด์ที่เห็นชัดตอนนี้คือ การใช้มือถือย้อนยุค

ทั้งนี้เพราะเป็นความรู้สึกดีที่สามารถหาสิ่งของที่เคยฮิตกันในยุคหนึ่งมาได้ ซึ่งให้อารมณ์เหมือนกับหาซื้อรองเท้าผ้าใบแบบที่เคยใส่ตอนเด็ก

นอกจากนี้ก็ยังเป็นตรรกะของวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่มีอยู่ในสังคม ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบกลับสังคมที่เชื่อมต่อกันมากเกินความจำเป็นด้วยเทรนด์การปิดการเชื่อมต่อที่เป็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งก็รวมถึงความจำเป็นที่ต้องหวนคืนกลับหาสิ่งสำคัญ และโทรศัพท์มือถือรุ่นเบสิกที่มีไว้สำหรับการใช้โทรออก-รับสาย และส่งเอสเอ็มเอสได้เท่านั้น

ทั้งยังเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ "การสร้างความแตกต่าง" ซึ่งทุกวันนี้ทุกคนแทบจะมีสมาร์ทโฟนเพียงเพื่อให้มีเหมือนกับที่คนอื่นมี ต่างกับเมื่อ 10 ปีก่อนที่แบรนด์จะต้องมีนวัตกรรมสร้างสรรค์มากกว่าจึงจะถูกเลือก

โดยลูกค้าไฮเอ็นด์ส่วนใหญ่จะช็อปปิ้งบนเว็บไซต์ออนไลน์ของฝรั่งเศส "Lekki" ซึ่งจะขายของจำพวกวินเทจ และมือถือที่ซ่อมแล้วนำมาขายใหม่

"โซเชียล เน็ตเวิร์คจำนวนมาก อีเมล และแอพพลิเคชั่นต่างๆ อีกมากมายที่ทำให้ชีวิตเราทุกวันตกเป็นทาสเทคโนโลยี แต่บนเว็บ Lekki มีทางเลือกให้เราสามารถกลับไปหาของเก่าๆ และความบันเทิงพื้นฐานทั่วไป"

ทั้งนี้เช่น โทรศัพท์โมโตโรล่า สตาร์เทค 130 ที่เปิดตัวเมื่อปี 2541 และนำกลับมาเพ้นท์สีใหม่เป็นสีส้มสว่างไสว ขายในราคา 180 ยูโร นอกจากนี้ก็ยังมีอีริคสัน เอ2628 ปุ่มกดสีทองราคา 80 ยูโร

"เรามีลูกค้า 2 กลุ่มๆ แรกคืออายุระหว่าง 25-35 ปี ที่มักจะชื่นชอบของย้อนยุค และมือถือที่ดูแตกต่างจากปกติเล็กน้อย กับอีกกลุ่มคือ คนที่ชอบของเก่า และชอบมือถือที่เคยใช้เมื่อตอนเป็นเด็ก" เจ้าของเว็บไซต์ Lekki ว่า

นอกจากนี้ก็ยังมีคนบางส่วนที่เลือกมือถือย้อนยุคเหล่านี้เพื่อเป็นเครื่องสำรองกับการใช้สมาร์ทโฟน และบางส่วนก็ใช้เพราะแสดงความวินเทจ รวมถึงบางส่วนที่เบื่อหน่ายกับการแข่งขันกันอวดนวัตกรรมที่โดดเด่นกว่ากันระหว่างผู้ผลิตมือถือ

รุ่นรำลึกความหลัง

ขณะที่เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ของโลกขณะนี้อย่าง "ซัมซุง" ก็สวนกระแสกลับมาผลิตโทรศัพท์รุ่นฝาพับอีกครั้ง ใช้ชื่อรุ่นว่า "มาสเตอร์ ซีรีส์" ราคาราว 234 ดอลลาร์ วางขายในเกาหลีใต้เท่านั้น เพื่อเจาะกลุ่มคนใช้มือถือมีอายุ

โดยยังคงคุณสมบัติเด่นคือ เสียงเรียกเข้าแบบดั้งเดิม ซึ่งซัมซุงให้เหตุผลว่า เพื่อเอาใจคนรุ่นเก่าที่ยังหวนคิดถึงช่วงเวลาสมัยยังเป็นเด็ก และคุณสมบัติของมือถือที่ง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อน