'ไฮโซ'แมลงทอดขึ้นห้าง

'ไฮโซ'แมลงทอดขึ้นห้าง

สแน็คนอกกระแสติดป้ายชื่อ"ไฮโซ"ผลิตภัณฑ์แมลงทอดกรอบบรรจุถุงฟอยด์ยกระดับเมนูบ้านๆขึ้นห้างพร้อมส่งออกตปท.

สแน็คนอกกระแสติดป้ายชื่อ "ไฮโซ" ผลิตภัณฑ์แมลงทอดกรอบบรรจุถุงฟอยด์ ยกระดับเมนูบ้านๆ จากไอเดียธุรกิจของอดีตนิสิตจุฬาฯ พร้อมเงินลงทุนเริ่มแรก 10 ล้านบาท สร้างความเชื่อมั่นเรื่องความสะอาด ปลอดภัยและถูกสุขอนามัยด้วยมาตรฐานจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ครบทั้ง อย. จีเอ็มพีและเอ็นเอสเอฟ

"แนวคิดของเราคือ การทำสินค้าที่ไม่ซ้ำกับใคร สินค้าทุกอย่างเน้นความคิดสร้างสรรค์ อาทิ แมลงทอดบรรจุซอง เป็นตัวอย่างที่ใช้พลังงานการขับเคลื่อนน้อย แต่จะเหนื่อยช่วงแรกเพราะกว่าจะคิดออกมาเป็นภาพความสำเร็จ ต้องใช้เวลา แต่เราเชื่อว่านวัตกรรมเกิดขึ้นได้เสมอ" นี่คือคอนเซปต์ธุรกิจของ ปณิธาน ตงศิริ ผู้บริหารบริษัท สไมล์บูลมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์แมลงทอดกรอบแบรนด์ไฮโซ

สวนกระแสบุกเบิกตลาดใหม่

ปณิธานแท็กทีมกับเพื่อนสนิททำธุรกิจแมลงทอดเมื่อปลายปี 2556 อาศัยประสบการณ์การทำงานและทำธุรกิจตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ค้นพบว่า การทำธุรกิจตามกระแสหรือเห็นคนอื่นทำแล้วได้เงิน แม้จะเป็นผู้บุกเบิกรายแรกแต่ความต้องการเทียมที่เกิดขึ้น "ไม่ใช่" ความต้องการที่แท้จริง เป็นแค่กระแสการตลาด สุดท้ายธุรกิจจะไม่ยั่งยืน

เหตุผลที่เขาลงทุนทำผลิตภัณฑ์แมลงทอดกรอบอย่างจริงจัง เรื่องแรกเพราะมองเห็นโอกาสจากบริษัทนำเข้าแมลงจากจีน อาทิ ดักแด้ จิ้งหรีด เรื่องที่สองคือ แมลงทอดที่ขายอยู่ทั่วไปยังมีจุดอ่อนคือ ไม่มีมาตรฐานทั้งในเรื่องของกระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์และราคาขึ้นลงตลอดเวลา จึงคิดยกระดับเมนูแมลงทอดให้มีมาตรฐานความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับ หารับประทานง่าย เพื่อรองรับตลาดคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น วัยทำงาน โดยขายผ่านช่องทางระดับโมเดิร์นเทรด และคอนวีเนียนสโตร์

“เราใช้วิธีไปซื้อวัตถุดิบ 2 ชนิด ดักแด้หนอนไหม และจิ้งหรีดจากฟาร์มเลี้ยงระบบปิดที่ปราศจากสารเคมี โดยไม่ใช้แมลงจากจีน เนื่องจากต้องการสร้างความมั่นใจกับผู้บริโภคถึงคุณภาพและความปลอดภัย”

นี่คือแนวคิดของเจ้าของผลิตภัณฑ์แมลงทอดกรอบ "ไฮโซ" ซึ่งยอมควักทุนครั้งแรก 10 ล้านบาท ปรากฏว่า ได้รับผลตอบรับที่ดีจนผลิตส่งขายตามร้านขายส่งไม่ทัน เพราะมีกำลังผลิตอยู่ที่ 1 หมื่นซองต่อวัน ถ้าเทียบเงินลงทุนคงอีก หลายปีกว่าจะคืนทุน แต่ถ้าโรงงานสองที่ใช้งบลงทุน 20 ล้านบาทเสร็จในอีก 6 เดือนข้างหน้ายอดการผลิตเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว พร้อมขยายไลน์แมลงรวมทั้งรสชาติใหม่ จากปัจจุบันมี ดักแด้หนอนไหมและจิ้งหรีด อย่างละ 4 รสชาติ รสโนริสาหร่าย ดั้งเดิม บาร์บีคิว และ ชีส ในขนาด15 กรัม จากแพ็กเกจจิ้งกระป๋องก็เปลี่ยน มาใส่ซองฟอยด์ กระแสการตอบรับดีขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัว

"ขณะนี้เริ่มดิวกับห้างสรรพสินค้าและช่องทางโมเดิร์นเทรนด์ก็ยอมรับว่า แมลงทอดกรอบเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและขายได้ เราจึงรีบลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันในครึ่งปีนี้"

สร้างมาตรฐานเพิ่มความมั่นใจ

จากประสบการณ์ 1 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าหลักคือ วัยรุ่นและหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ ปณิธาน วิเคราะห์ว่าคนรุ่นใหม่ติดตามข่าวสารและรับรู้ว่าแมลงเป็นแหล่งอาหารไขมันต่ำ อุดมไปด้วยโปรตีนและแร่ธาตุหลายชนิด ถือเป็นแหล่งอาหารในอนาคตสำหรับมนุษย์ หลังจากที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ รณรงค์ให้คนทั้งโลกหันมาบริโภคแมลงเป็นอาหาร

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ปริมาณแมลงทอดที่คนไทยรับประทานแต่ละปีประมาณ 2 ตัน แมลงที่นิยมอันดับต้นๆ ได้แก่ ดักแด้หนอนไหม หนอนไม้ไผ่ แมลงดานา ตั๊กแตน แมลงกระชอน จิ้งโกร่ง และจิ้งหรีด ขณะที่ทั่วโลกคนบริโภคแมลงมีจำนวน 2 พันล้านคน จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจ

"เรามองเห็นโอกาสว่า ผลิตภัณฑ์สามารถจำหน่ายได้ทั่วโลก บวกกับความได้เปรียบที่บ้านเราเป็นเขตร้อน มีแมลงเยอะ เลี้ยงง่าย ต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันพยายามสร้างความเชื่อมั่นเรื่องคุณภาพด้วยมาตรฐานจากหน่วยงานของรัฐและเอกชนอย่าง อย. GMP NSF และพยายามผลักดันให้โรงงานผลิตได้รับ ISO และ HACCP พร้อมกับพัฒนาระบบฟาร์มที่มีมาตรฐานไปเป็นโมเดลให้เกษตรกรเลี้ยงแมลงในปีนี้ คาดว่าภายใน 5 ปีจะคืนทุน"

สำหรับการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านเฟซบุ๊กและการออกร้านตามงานต่างๆ เนื่องจากช่องทางการจำหน่ายและกำลังการผลิตยังไม่เต็ม100% แต่หลังจากที่โรงงานแห่งที่ 2 เสร็จจะเพิ่มการสื่อสารในรูปแบบอื่นๆพร้อมกับการขยายตลาดออกไปต่างประเทศ