'มันม่วง' เปิดตลาดอาหารฟังก์ชัน

'มันม่วง' เปิดตลาดอาหารฟังก์ชัน

ซองเดอร์เปิดตลาดอาหารฟังก์ชันรับสังคมสูงวัย จับมือสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พัฒนา “เครื่องดื่มมันม่วง” ปราศจากน้ำตาล ครีมเทียม สารก่อภูมิแพ้ พร้อมเปิดตลาดกลางปี 2562 หวังโต 25% เตรียมตบเท้าเข้าโครงการวิจัยเชิงลึกอาหารฟังก์ชันในคน สร้างความเชื่อ

ตลาดอาหารฟังก์ชันโลกมีมูลค่า 4.5 ล้านล้านบาท เติบโตปีละ 8-9% โดยเอเชียครองส่วนแบ่งมากถึง 40% จากการเพิ่มจำนวนของทั้งผู้ป่วยโรคเรื้อรังและกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมถึงผู้สูงอายุ ที่มีความต้องการเฉพาะสำหรับอาหาร

ไม่ผสมน้ำตาลและครีมเทียม

ซองเดอร์ เป็น 1 ในผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจในตลาดอาหารฟังก์ชัน ภญ.ภาคินี จิวัฒนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซองเดอร์ ไทยออร์กานิคฟูด จำกัด กล่าวว่า จากไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มซีเรียล และฐานลูกค้ากลุ่มเบาหวาน ซึ่งต้องการผลิตภัณฑ์ที่อร่อย แต่จืด จึงเริ่มคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้

“โจทย์คือ ต้องจืด ไม่มีน้ำตาล ไม่มีครีมเทียม ไม่มีสารก่อภูมิแพ้ และไฟเบอร์สูง ความยากคือ ถ้าไม่มีครีมเทียมก็จะไม่อร่อย ไม่หอม หวาน มัน จึงต้องหาสิ่งที่จะมาทดแทน และพบว่า มันม่วงมีคุณสมบัติที่จะทดแทนได้” ภญ.ภาคินี กล่าว

จึงเป็นที่มาของการเพื่อพัฒนาเครื่องดื่มมันม่วงให้มีลักษณะเป็นผลิตภัณฑ์ชงดื่มที่ไม่เหลวจนเกินไป มีอินนูลินช่วยย่อยและให้รสหวาน ใช้ถั่วแดง ถั่วดำ ในประเทศที่ไม่มีสารก่อภูมิแพ้ ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายทั้งกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน โรคไต ผู้สูงอายุรวมถึงผู้ที่มีปัญหากลืนลำบาก ย่อยยาก แพ้ถั่วเหลืองและนมวัว ทั้งยังสามารถเข้าสู่ตลาดผู้รักสุขภาพตลอดจนผู้บริโภคที่คำนึงถึงน้ำหนักและรูปร่างอีกด้วย

“เราวางแผนที่จะทดลองตลาดในช่วง เม.ย. จากนั้นจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน มิ.ย.2562 พร้อมกับการรีแบรนด์ดิ้งซองเดอร์ ที่ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์พร้อมกับแตกไลน์ผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างชัดเจน ด้วยมองว่า ตลาดอาหารสุขภาพรวมถึงอาหารฟังก์ชันมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งตรงกับเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพให้กับคนไทย โดยไม่ต้องพึ่งพาสินค้านำเข้า พร้อมทั้งสนับสนุนวัตถุดิบในประเทศ”

จากรายได้ 85 ล้านบาทในปี 2561 ที่โตจากปีก่อนหน้านั้นกว่า 10% การรีแบรนด์ดิ้งซองเดอร์และเปิดไลน์ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ทำให้ตั้งเป้าโตถึง 25% ด้วยตั้งใจทำการตลาดและสร้างแบรนด์ในประเทศให้เข้มแข็งก่อนที่จะเดินหน้าสู่ตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังในปี 2563

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจากข้อมูลทางวิชาการและการวิจัยพัฒนา ทำให้ผู้บริหารซองเดอร์มุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยหวังที่จะเข้าเป็น 1 ใน 8 รายในโครงการ “การวิจัย พัฒนา และทดสอบทางคลินิก สำหรับอาหารฟังก์ชัน” จะทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มมันม่วงเข้าสู่การทดสอบวิเคราะห์ค่าความหวาน (GI) เพื่อขึ้นทะเบียน เปิดตลาดอาหารฟังก์ชันแบรนด์ไทยในตลาดโลก

20 เอกชนลุยอาหารฟังก์ชัน

เฉลิมพล ตู้จินดา ผู้อำนวยการโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า โครงการ “การวิจัย พัฒนา และทดสอบทางคลินิก สำหรับอาหารฟังก์ชัน” โดยโปรแกรมไอแทป ร่วมกับทีเซลส์ หรือศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (องค์การมหาชน)

วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารฟังก์ชัน หรืออาหารมีวัตถุประสงค์พิเศษสำหรับสังคมผู้สูงอายุ และการวิจัยทางคลินิก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ มุ่งรองรับความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้แท้จริง พร้อมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน

การสนับสนุนนำร่องปีแรก 20 ผู้ประกอบการ แบ่งเป็น กลุ่มที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ 12 ราย กลุ่มวิจัยและทดสอบทางคลินิก 8 ราย จัดสรรงบประมาณสนับสนุนที่ 80% ของมูลค่าโครงการ ไม่เกิน 8 แสนบาท เพิ่มขึ้นจากเดิม 50% ของมูลค่าโครงการ ไม่เกิน 4 แสนบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงงบประมาณและผู้เชี่ยวชาญ สำหรับเป็นข้อมูลที่สามารถพิสูจน์ได้ ในการขอขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

ทั้งนี้ จากการดำเนินโครงการ 3 ปี ได้ต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารที่พร้อมจำหน่าย เช่น เยลลี่สำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาการกลืน ซุปข้นสำหรับรับประทานระหว่างมื้อ เครื่องดื่มมันเทศผสมธัญพืชที่มีค่า GI ปานกลาง และไข่ขาวผงพร้อมชง สำหรับผู้ที่ต้องการโปรตีนสูง เป็นต้น