Space Camp เปิดรายชื่อ 4 เด็กไทยได้ตั๋วทัวร์นาซ่า
Space Camp ประกาศผลอย่างเป็นทางการสำหรับ 4 เยาวชนไทยที่ได้เป็นตัวแทนไปศึกษาดูงานที่ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ และดูงานครั้งประวัติศาสตร์ที่ NASA’s Marshall Space Flight Center มลรัฐแอละแบมา สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 4-12 เมษายน 2563
นายกฤษณ์ คุนผลิน ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ และ ศูนย์ข้อมูล NASA ประจำประเทศไทย กล่าวว่า นักเรียนและผู้ปกครองไทยสนใจการศึกษาด้าน STEM-SPACE เป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เข้าชมโครงการกว่า 250,000 คน เมื่อปี 2558 จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้มีการจัดตั้งโครงการทุนการศึกษาค้นพบ นักบินอวกาศไทยขึ้นมาในปีต่อมา และมีนักเรียนจากทั่วประเทศมาสมัครแข่งขันปีละกว่า 1,000 คน ซึ่งหลักสูตรที่ไปเรียนมีชื่อว่าการสำรวจอวกาศเบื้องต้น โดยนักเรียนที่เข้าร่วมจะต้องใช้ความสามารถด้าน STEM อย่างเต็มที่ทั้งในทางทฤษฎีและปฏิบัติในภารกิจต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ
การแข่งขัน STEM CAMP 2019 เยาวชนที่ผ่านเข้ารอบ 24 คนสุดท้ายที่ผ่านการสอบข้อเขียน จะต้องสอบวัดความสามารถพื้นฐานด้านอวกาศ (SCAT – Space Camp Aptitude Test) ไปจนถึงความเข้มข้มทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์และศิลปะ โดยผู้แข่งขันต้องผ่านการทดสอบในการสร้างเกราะกันความร้อนสำหรับยานอวกาศ (Venus Landing Mission) ภารกิจเก็บกู้ยานอวกาศ (Spacecraft Rescue Mission) การสร้างยานอวกาศจำลองที่สามารถทนแรงกระแทกสูง (Deep Impact Challenges) และ การกล่าวสุนทรพจน์แสดงวิสัยทัศน์การนำความรู้ที่ได้จากทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทยมาพัฒนาประเทศไทย การคัดเลือกในรอบสุดท้ายนี้ใช้ระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยที่คะแนนเสียงเลือกตั้งจากเพื่อนร่วมค่าย (Popular Vote) คิดเป็นร้อยละ 40 คะแนนที่ทำได้ในภาระกิจทั้ง 3 คิดเป็นร้อยละ 30 และ คะแนนเสียงเลือกตั้งจากคณะกรรมการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย (Electoral Vote) คิดเป็นร้อยละ 30
ทางด้านนางสาวปราณปริยา วงค์ษา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า กล่าวว่า กิจกรรมค่าย STEM Camp เป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่งในการทดสอบทักษะความสามารถในหลายๆ ด้านของเยาวชนไทย ซึ่งอนาคตข้างหน้าจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะเป็นผู้ที่มีความสามารถในด้านวิทยาศาสตร์ ความเข้าใจในเทคโนโลยี ความสามารถในการแก้ปัญหาทางวิศวกรรม การคำนวณ การทำงานเป็นทีมตลอดจนมีความสามารถในการเป็นผู้นำ เด็กๆ จะได้เกิดการเรียนรู้ STEM อย่างเต็มที่ทั้งในทางทฤษฎีและปฏิบัติในภารกิจต่างๆ เช่น การขับยานอวกาศไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ การซ่อมแซมระบบวิศวกรรมของสถานีอวกาศนานาชาติ การวางดาวเทียมเข้าวงโคจร การทำงานในสภาวะไร้น้ำหนักร่วมกับทีมงาน การควบคุมภารกิจอวกาศของศูนย์อวกาศภาคพื้นดิน เป็นต้น
ผลการแข่งขันในครั้งนี้ได้เยาวชนไทยที่ได้รับทุน ได้แก่ นักเรียนทุนอันดับที่ 1 นางสาวชนิศา พร้อมพัฒนภักดี จากโรงเรียนกำเนิดวิทย์ รับทุนการศึกษาจาก Gistda นักเรียนทุนอันดับที่ 2 นักเรียนนายเรืออากาศ จิรภัทร คำนิล จากโรงเรียนนายเรืออากาศ รับทุนการศึกษาจาก บริษัท Frasers Property (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นักเรียนทุนอันดับที่ 3 นายถิรวัฒน์ บุญสร้าง โรงเรียน เบญจมราชรังสฤษฎิ์ รับทุนการศึกษาจาก บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) นักเรียนทุนอันดับที่ 4 นายกันตพิสิฐ ลิ้มศุภพุฒิกุล รับทุนการศึกษาจาก บริษัท OnDemand Education จำกัด นักเรียนทุนสำรองอันดับที่ 1 นายภูวิศ เชาวนปรีชา โรงเรียนสาธิตประสานมิตร และ นักเรียนทุนสำรองอันดับที่ 2 นายคณธัช คูสุวรรณ โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม
ทั้งนี้ กิจกรรมและทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย ปีที่ 3 (Discover Thailand’s Astronauts Scholarship Program) จัดโดย Space Camp Thailand ร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน), บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), อสมท, OnDemand Education นำการศึกษา STEM – SPACE ไทยสู่ระดับโลก จับมือศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ (US Space and Rocket Center – USSRC) และศูนย์ข้อมูลองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA Visitor Center) เปิดตัวกิจกรรมและทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย ปีที่ 3 (Discover Thailand’s Astronauts Scholarship Program)
ส่วนสถานที่ทัศนศึกษาในสหรัฐ ที่ตัวแทนเยาวชนไทยจะได้เยี่ยมชมนั้นมีความพิเศษคือ NASA’s Marshall Space Flight Center ซึ่งเป็นศูนย์อวกาศที่ใหญ่ที่สุดของนาซา คณะจะได้เข้าไปดูแท่นทดลองจรวดศูนย์ขนส่งอุปกรณ์ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ และ โครงการ Space Launch System ซึ่งเป็นจรวดที่จะเดินทางไปดาวอังคาร ทางด้านศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ จะได้ดูการฝึกใช้ชีวิตบนดาวอังคาร พิพิธภัณฑ์จรวดและยานอวกาศที่ใหญ่ที่สุดของโลก และไปดูสุสานจรวด ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามเข้าอีกด้วย
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาคภูมิใจที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการ ‘ทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย ปี 3’ ซึ่งสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของบริษัท ฯ ที่ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาชุมชนและสังคมที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ ทุนนี้คือโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ตรงซึ่งหาไม่ได้ง่าย ๆ ในการศึกษาเทคโนโลยีขั้นสูงด้านการบินและอวกาศจากองค์กรระดับโลก ณ ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ (U.S. Space and Rocket Center – USSRC) จึงเชื่อว่าความรู้และประสบการณ์ที่เด็ก ๆ ได้รับจะเป็นประโยชน์กับการศึกษาและการประกอบอาชีพต่อไปในอนาคต
ด้านนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทยปี 3 นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อเยาวชนไทยในแง่ของการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในด้าน STEM ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักสูตรพื้นฐานของระบบการศึกษาทั่วโลก และเป็นทักษะที่มีความจำเป็นสำหรับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แล้ว ภารกิจในการสนับสนุนเยาวชนไทยในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของ อสมท ในการส่งเสริมสังคมฐานความรู้ซึ่งเป็นฐานรากในการพัฒนาศักยภาพของคนและสังคมอย่างยั่งยืน อสมท ในฐานะองค์กรสื่อมวลชนของรัฐ เราพร้อมสนับสนุนโครงการดี ๆ เช่นนี้ เพื่อสร้างเยาวชนไทยให้มีทักษะด้านวิทยาศาสตร์ให้มีความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต
ขณะที่นายสุธี อัสววิมล ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น กล่าวร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีกับน้องๆ ที่ผ่านการทดสอบรอบ STEM CAMP จะทำให้มีโอกาสฝึกฝนและเรียนรู้ทักษะ STEM พร้อมการพัฒนาทักษะ EQ จากองค์กร STEM ระดับโลก และที่สำคัญทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับไปจากค่ายนั้นเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่หาไม่ได้จากที่อื่น และจะเป็นทักษะที่ติดตัวไปให้สามารถต่อยอดผลสำเร็จได้ในอนาคตอย่างแน่นอน