'เทคโนโลยีเสมือนจริง' หนุนจีดีพีโลก โต 1.5 ล้านล้านดอลล์ ปี 73
พีดับบลิวซี คาดเทคโนโลยี 'เออาร์-วีอาร์' หนุนขับเคลื่อนจีพีดีโลกในปี 73 ให้เติบโตถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมจะหันมาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพิ่มประสิทธิภาพทำงาน
ขณะที่ เมื่อเปรียบเทียบเทคโนโลยีทั้ง 2 ประเภท พบว่า เออาร์จะผลักดันให้จีดีพีโลกเติบโตมากสุดในปี 2573 หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ จากมูลค่ารวมทั้งสิ้นที่ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยวีอาร์และเออาร์จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญในทศวรรษหน้า ปัจจุบันมีงานจำนวนน้อยกว่า 1 ล้านตำแหน่งที่ได้ผลกระทบจากเทคโนโลยีทั้ง 2 ประเภท แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น 23 ล้านตำแหน่งในปี 2573 จะกระทบมากที่สุดในกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเยอรมนี
เมื่อลงลึกถึงการประยุกต์ใช้วีอาร์และเออาร์ในแต่ละธุรกิจ มีส่วนสำคัญในการผลักดันจีดีพีโลกให้เพิ่มในปี 2573 เช่น ธุรกิจดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยผลักดันจีดีพีโลกได้ถึง 3.51 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2573 ผ่านการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยปัจจุบันมีการนำวีอาร์มาใช้เพื่อช่วยให้นักศึกษาแพทย์เข้าถึงการจำลองการผ่าตัด และช่วยให้คำปรึกษาแบบทางไกลจากสถานที่ที่แตกต่างกัน รวมถึงหารือเกี่ยวกับขั้นตอนผ่าตัดที่จะเกิดขึ้น
ขณะที่ การใช้งานวีอาร์และเออาร์กลุ่มธุรกิจค้าปลีกและบริโภค ช่วยผลักดันจีดีพีโลกให้เติบโตได้ราว 2.04 แสนล้านดอลลาร์ปี 2573 ผู้ค้าปลีกสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้ ผ่านการให้ลูกค้าสามารถลองสวมใส่เสื้อผ้าแบบเสมือนจริง หรือใช้แอพพลิเคชั่นเออาร์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเห็นภาพว่า เมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นๆ ที่บ้านของตัวเองแล้วจะออกมาเป็นอย่างไร ก่อนการตัดสินใจซื้อ ทั้งนี้ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกเข้าใจพฤติกรรมของผู้ซื้อมากขึ้นผ่านการวิจัยผู้บริโภคขั้นสูง
การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ จะช่วยผลักดันจีดีพีโลกให้เติบโตได้ราว 3.59 แสนล้านดอลลาร์ ผ่านการใช้งานทั้งวีอาร์และเออาร์ โดยทำให้เกิดการทำงานร่วมกันในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ซึ่งจะช่วยให้องค์กรประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
‘วิไลพร’ กล่าวเสริมว่า สำหรับประเทศไทย พบว่าลูกค้าในหลายอุตสาหกรรมมีการนำวีอาร์และเออาร์เข้ามาประยุกต์ใช้ในธุรกิจ บางรายนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาช่วยในงานที่มีความเสี่ยงสูง งานด้านการฝึกอบรม หรืองานทางด้านการแพทย์
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า ขอบเขตของการประยุกต์ใช้ยังอยู่ในวงจำกัด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อจำกัดเรื่องความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่ยังไม่รองรับ อย่างไรก็ดี หากเข้าสู่ยุค 5จีที่อินเทอร์เน็ตมีความเร็วสูง หนุนการรับส่งและการประมวลผลข้อมูลเร็วขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า เชื่อว่าจะมีการนำเทคโนโลยีทั้ง 2 ประเภทมาใช้ในแวดวงธุรกิจไทยอย่างแพร่หลายขึ้น