'เอไอเอส' วีดีโอคอล 'ไทย-สิงคโปร์-เกาหลีใต้' เอ็มโอยูรุก 'อีสปอร์ต'
กำหนดการเดิม คือ นัดหมายซีอีโอทุกโอเปอเรเตอร์ เอไอเอส สิงเทล และเอสเคฯ พบกันที่งานอีเวนต์ในต่างประเทศ เพื่อถ่ายภาพข่าวความร่วมมือ แต่เจอพิษโควิด-19 เอไอเอส เลยปรับรูปแบบ เซ็นสัญญาผ่านวีดิโอ คอล ข้ามประเทศระหว่าง ไทย-สิงคโปร์-เกาหลีใต้ แทน
นับตั้งแต่ที่ธุรกิจไทยเผชิญหน้ากับการระบาดของไวรัส โควิด-19 ตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลายบริษัทต้องพับแผนการแถลงข่าว การจัดอีเวนท์ต่อสื่อมวลชน เพื่อหลักเลี่ยงการอยู่ในที่ชุมชน มองมาที่ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคม "เอไอเอส" หลังจากที่เป็นรายแรกและรายเดียวที่จ่ายค่าคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อเปิดให้บริการ 5จีเป็นบริษัทแรกในไทยอย่างเป็นทางการ
เอไอเอสก็ยังคงเป็นผู้นำในการพลิกวิกฤติ ให้เป็นโอกาสในการโชว์เทคโนโลยีเพื่อแสดงความเป็นที่ 1 ตัวจริง โดยเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้แถลงข่าวแบบไลฟ์ บรอดคลาสผ่านเฟซบุ๊ค พูดถึงความคืบหน้าการให้บริการ 5จี และพื้นที่ที่ให้บริการ
ต่อมานายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส ที่ เดิมจะมีนัดหมายซีอีโอทุกโอเปอเรเตอร์พบกันที่งานอีเวนท์ในต่างประเทศ เพื่อถ่ายภาพข่าวความร่วมมือบริษัทลูกของเอไอเอส คือ บริษัท ไวร์เลส ดีไวซ์ ซัพพลาย จำกัด หรือ WDS ที่ เดินหน้าขยายธุรกิจเกมและอีสปอร์ตสู่ระดับภูมิภาค ผนึก Singtel และ SK Telecom ประกาศการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจด้านเกมและอีสปอร์ตระดับภูมิภาค ตอกย้ำการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตให้ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาค อีกทั้งการลงทุนครั้งนี้ยังเป็นการสานต่อความร่วมมืออีกขั้นระหว่าง Singtel และ SK Telecom ตามที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ในการร่วมพัฒนาอีโคซิสเต็มของเกมและอีสปอร์ต
"ตั้งแต่เจอพิษโควิด-19 เลยปรับรูปแบบ มาเซ็นสัญญาผ่าน Video Call ข้ามประเทศระหว่าง ไทย-สิงคโปร์-เกาหลีใต้ สะท้อนการทำงานที่ทันสมัย ปรับตัวในทุกสถานการณ์ เดินหน้าธุรกิจ ให้บริการลูกค้า การปรับตัว และเดินหน้าทำงานต่อ ในสถานการณ์นี้ จัดอีเวน ไม่ได้ ก็พลิกรุปแบบ แถลงข่าวและเปิดตัวบนออนไลน์แทน"นายสมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการผนึกความแข็งแกร่งของผู้นำด้านโทรคมนาคมในเอเชียมายกระดับอุตสาหกรรมอีสปอร์ตของภูมิภาค ทั้ง Singtel ที่เป็นผู้ให้บริการดิจิทัลและโทรคมนาคมระดับภูมิภาค, SK Telecom ผู้นำด้านเกมและความบันเทิงของเกาหลี และ เอไอเอส ที่มากด้วยประสบการณ์ในด้านอีสปอร์ตและดิจิทัล คอนเทนท์ พร้อมร่วมมือกับผู้พัฒนาเกมและอีสปอร์ตรายใหญ่ระดับโลก ในการสนับสนุนเหล่าเกมเมอร์ทั่วทั้งภูมิภาคกว่า 800 ล้านคนให้สามารถเข้าถึงการเล่นเกมและคอนเทนท์ต่างๆ ของเกมที่พวกเขาชื่นชอบ เพื่อสร้างความคึกคักให้กับตลาดเกมและอีสปอร์ตยิ่งขึ้น
นายอลิสแตร์ เดวิด จอห์นสตั้น กรรมการผู้จัดการหน่วยธุรกิจพัฒนาธุรกิจใหม่ AIS กล่าวว่า “ตลาดเกมและอีสปอร์ตในเมืองไทยมีการเติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งในแง่ผู้เล่นเกมที่แอคทีฟอยู่ในทุกแพลตฟอร์มกว่า 27 ล้านคน และมูลค่าตลาดที่มีกว่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มเป็น 27,000 ล้านบาทในปีนี้ โดย AIS เป็นผู้บุกเบิกวงการอีสปอร์ตไทยด้วยการนำนวัตกรรมเครือข่ายมือถือและเน็ตบ้านมามอบ
ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา ตลอดจนจัดทัวร์นาเม้นท์การแข่งขันอีสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จมากมาย เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกกำลังกับ Singtel และ SK Telecom ในการพัฒนาธุรกิจใหม่ เราตั้งเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับคนไทยและคอเกมเมอร์ในภูมิภาคนี้ทุกคน”
นายอาเธอร์ แลง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม Singtel International กล่าวว่า “อุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตกำลังเติบโตและได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของเรา โดยมีเกมเมอร์ประมาณ 200 ล้านคนในตลาดของเรา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับภูมิภาคที่หลากหลายในอีโคซิสเต็มเกม เช่น การจัด PVP Esports เพื่อเชื่อมโยงกับกลุ่มเจน Z และกลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งได้รับการสนับสนุนที่ดีเยี่ยมจากคอมมูนิตี้ และกระตุ้นให้เรามีส่วนร่วมเชิงลึกที่มากไปกว่าการจำหน่ายคอนเทนท์เกมและอีสปอร์ต รวมถึงได้สร้างทีมด้านเทคโนโลยีและเกมในการผลักดันการพัฒนาอีโคซิสเต็มของตลาดเกมและอีสปอร์ตไปอีกขั้น ซึ่งเมื่อผนวกจุดแข็งของเรากับ SK Telecom และAIS สองผู้นำในอุตสาหกรรมความบันเทิง, เกมและอีสปอร์ต เราจะสามารถสร้างความตื่นเต้นให้สาวกอีสปอร์ตและคอเกมเมอร์อย่างแน่นอน เตรียมพบกับโครงการใหม่ของเราได้ภายในปีนี้”
ขณะที่นายชาร์ล เฮอร์ รองประธานกรรมการบริหารSK Telecom กล่าวว่า “SK Telecom มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงทุนกับกลุ่ม Singtel และAIS โดยเราเป็นผู้บุกเบิกในธุรกิจเกมและอีสปอร์ตที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นผู้นำในการจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนเกมมิ่งในประเทศเกาหลีใต้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมลงทุนในการนำเกมคอนเทนท์ยอดฮิตจากเกาหลีใต้มาให้บริการแก่คนไทยและคอเกมเมอร์ในเอเชีย เชื่อว่าเราจะได้ร่วมการสร้างแพลตฟอร์มเกมที่ให้คอเกมเมอร์สนุกได้ทั้งการรับชมและเล่นเกมได้ในที่เดียว”
ทั้งนี้ คาดว่าการร่วมทุนดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะการเงินของกลุ่มสิงเทล