เอกชนผนึกกำลังเปิดแพลตฟอร์มข้อมูลโควิด-19 เรียลไทม์ภาษาจีน

นายชิต ลี (เต๋อ) ผู้ร่วมก่อตั้ง วิชั่นไทย(VISION THAI) สื่อภาษาจีนเกี่ยวกับประเทศไทย กล่าวว่า ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับนายอาพร พลานุเวช ประธานเจ้าหน้าที่สายเทคโนโลยี (ซีทีโอ) 5Lab ผู้พัฒนา “โควิด แทร็กเกอร์  (COVID Tracker)” แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบเรียลไทม์เจ้าแรกในไทย ต่อยอดโครงการไปสู่แพลตฟอร์มภาษาจีนเพื่อให้เป็นสื่อเผยแพร่ข้อมูลแบบเรียลไทม์ให้แก่กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนในไทยที่ไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้  

โดยบริษัทรับผิดชอบแปลข้อมูลเป็นภาษาจีนประยุกต์และภาษาจีนดั้งเดิม ให้แก่กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนที่อาศัยอยู่ในไทย หรือชาวจีนที่ต้องการทราบถึงสถานการณ์ในไทยได้เข้าใจ และติดตามสถานการณ์ได้สะดวกมากยิ่งขึ้นผ่าน https://covidtracker.5lab.co/zh-hant และhttps://covidtracker.5lab.co/zh-hans

แพลตฟอร์มดังกล่าวเปิดให้บริการเป็นภาษาจีนมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้สนใจมีทั้งกลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนที่อยู่ในจีน ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย ที่ต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย รวมไปถึงคนไทยที่สามารถอ่านภาษาจีนได้ก็สามารถเข้าใช้งานได้เช่นกัน

สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับหลังจากนี้ ผู้ใช้งานจะสามารถสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ติดเชื้อเพื่อนำไปวิเคราะห์แนวทางรับมือให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนเหล่านี้สามารถเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19ในไทยเป็นภาษาจีนได้ง่ายมากขึ้น

นอกจากนี้ ได้เปิดตัวรายการ “WHAT THAI SAY” ทางยูทูปซึ่งเป็นการไปสัมภาษณ์คนไทยตามสถานที่ต่างๆ ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 เพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองของคนไทยในแต่ละพื้นที่ และให้ทุกคนได้มองเห็นอีกมุมหนึ่งของสังคมที่มีความจริงที่แตกต่างไปจากสื่อต่างประเทศอื่นๆ ที่เผยแพร่ออกไป 

โดยหวังจะทำให้ทุกคนได้เห็นประเทศไทยในมุมต่างๆ ซึ่งนอกเหนือไปจากด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีวัฒนธรรมไทย รวมถึงเป็นสื่อในการสะท้อนปัญหาสังคม ซึ่งอาจนำไปสู่การแก้ไขอย่างยั่งยืน

พร้อมกันนี้ จัดสัมมนาออนไลน์การแพทย์ไต้หวัน-ไทย เพื่อแบ่งปันข้อมูลการป้องกันโรคระบาด โดยบริษัทได้รับความไว้วางใจ จากโรงพยาบาลจางฮั่วคริสเตียน ให้จัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์ของรัฐบาลไต้หวัน ภายใต้หัวข้อ “The Likely Economic Impact of COVID-19 on Global and Southeast Asia Countries” ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 63 ถึง 3 ก.ค. 63 โดยมีผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน รวมถึงการประยุกต์ใช้สมาร์ทเฮลท์แคร์ในการป้องกันโรคระบาด การดูแลป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ และการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่(บิ๊กดาต้า) ในการวิเคราะห์และหารือเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจจากโรคระบาด

นางแองเจิ้ล เฉิน ผู้ร่วมก่อตั้งวิชั่นไทย กล่าวเสริมว่า ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 6 ปี วางจุดยืนเป็นสื่อกลางในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารของประเทศไทยให้แก่กลุ่มผู้ใช้ภาษาจีน 

สำหรับวิกฤติโรคโควิด-19 ครั้งนี้ตัดสินใจที่จะไม่กลับบ้านเกิดที่ไต้หวัน และเดินหน้าทำงานต่อ โดยนำเอาจุดแข็งของบริษัทด้านการสร้างเนื้อหาภาษาจีนให้คนเข้าใจได้โดยง่าย และการนำเนื้อหากับเทคโนโลยีมาผสานกัน เพื่อให้บริการโซลูชั่นต่างๆ ซึ่งสอดคล้องไปการแพร่ระบาดของโรค

อย่างไรก็ดี หากย้อนกลับไปในช่วงที่โควิดยังไม่แพร่กระจายไปทั่วโลก ตนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติจากประสบการณ์ที่ไต้หวันเคยเผชิญกับโรคซาร์ส ประกอบกับการติดตามสถานการณ์ในจีนอย่างต่อเนื่อง จึงได้เริ่มให้ความรู้แก่พนักงานในบริษัทและย้ำเตือนถึงความสำคัญของการป้องกันโรคระบาด พร้อมติดตามและให้ความสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดมากยิ่งขึ้น ตนนั้นอาศัยอยู่ในไทยมากว่า 10 ปี ประเทศไทยจึงเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง จึงมีแนวคิดว่าน่าจะสามารถทำอะไรให้ได้บ้าง และขอมีส่วนร่วมในการต่อสู้ไปพร้อมกับคนไทย