วว.โชว์ 'นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์' หนุนขายออนไลน์ผลไม้สด

ล็อกกลิ่นราชาผลไม้ไทย

พัชทรา มณีสินธุ์ ผู้อำนวยการ ศูนย์การบรรจุหีบห่อไทย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กล่าวว่า ศูนย์ฯ ร่วมกับบริษัท เซฟเฟอร์แพค ประเทศไทย จำกัด พัฒนาบรรจุภัณฑ์เทอร์โมฟอร์ม หรือ “กล่องเก็บกลิ่นทุเรียน100%" สำหรับใช้บรรจุทุเรียนสดตัดแต่ง โดยออกแบบขอบล็อกพิเศษ ป้องกันการผ่านเข้าออกของก๊าซและไอน้ำ จึงสามารถกักเก็บกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกสู่ภายนอก และยังสามารถกันความชื้นจากสภาพแวดล้อมภายนอกไม่ให้เข้าสู่ภายในอีกด้วย

เซฟเฟอร์แพคฯ ได้นำผลงานวิจัยดังกล่าวไปผลิตเพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในชื่อทางการค้า “Ozone Box” ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั้งผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกภายในประเทศ ที่วางจำหน่ายตามโมเดิร์นเทรดและบริการเดลิเวอรี่ถึงบ้าน ตลอดจนผู้ส่งออกทุเรียน

“การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวใช้แนวคิดการออกแบบแบบองค์รวม หรือ Holistic Design and Development คำนึงถึงปัจจัยหลายประการ 1.ความสะดวกในการบรรจุและใช้งาน 2.ความสวยงามในการวางจำหน่ายที่มีรูปลักษณ์ใสเป็นพิเศษเพื่อดูสินค้าได้รอบด้าน และ 3.ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามหลักการ Eco-Package Design ทำให้กล่องแข็งแรงขึ้นโดยไม่จำเป็นต้นเพิ่มความหนาของแผ่นพลาสติกซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกทางหนึ่ง” 

ลดเสียหาย“มะม่วง” ออนไลน์

ส่วนบรรจุภัณฑ์เพื่อการจำหน่ายผักผลไม้ออนไลน์ ที่นำร่อง “มะม่วง” เป็นการรองรับผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ที่ปีนี้คาดว่าจะล้นตลาดกว่า 2 หมื่นตัน โดยมีจุดเด่นหลายประการได้แก่ มีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักผลผลิตได้ 5 กิโลกรัมต่อกล่อง มีขนาด 50x30x13.5 เซนติเมตร มีขนาดพอเหมาะต่อระบบขนส่ง รับน้ำหนักวางเรียงซ้อนได้ถึง 14 ชั้น ป้องกันความเสียหายและรักษาคุณภาพผลผลิต 

โดยจะมีการจำลองการขนส่งในแล็บก่อนจะนำออกสู่ระดับอุตสาหกรรม อีกทั้งได้เจาะช่องระบายอากาศอย่างเหมาะสม เพียงพอต่อการหายใจและคายน้ำของผลมะม่วง ลดการสะสมความร้อนและความชื้นภายในกล่อง ยืดอายุการเก็บได้ 

ตัวบรรจุภัณฑ์ยังมาจากกระดาษลูกฟูก 5 ชั้น มีการดูดซึมน้ำต่ำ จึงสามารถเก็บในห้องเย็นที่มีความชื้นสูงได้ บรรจุมะม่วงได้ทุกเกรดที่มีขนาดผลต่างกันได้ สามารถต่อยอดสู่การบรรจุผลไม้ชนิดอื่น อาทิ มังคุด ลองกอง ผู้ประกอบการสามารถรับการถ่ายทอดนวัตกรรมต่อยอดสู่การออกแบบกราฟฟิกได้ตามความต้องการ เพื่อให้สามารถจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยืดอายุลำไยสดลดสารตกค้าง

ในการพัฒนา “ฉลากอัจฉริยะบ่งชี้ความปลอดภัยปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไย” เพื่อใช้ติดตามปริมาณก๊าซซัลเฟอร์ฯ หรือกำมะถัน ตกค้างบนผลลำไยจากการรมแก๊สเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา จึงได้พัฒนาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค ยกระดับมาตรฐานลำไยไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงผลผลิตเกษตรชนิดอื่น 

หลักการทำงานของฉลากฯ จะเปลี่ยนสีไปตามปริมาณสารซัลเฟอร์ฯ ที่ตรวจพบ จึงเป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว เข้าใจง่าย ช่วยเตือนผู้บริโภคก่อนที่จะตัดสินใจบริโภค และเตือนผู้ผลิตไม่ให้จำหน่ายผลไม้ที่มีปริมาณซัลเฟอร์ฯ สูงเกินมาตรฐานกำหนด 

ทั้งนี้ ฉลากอัจฉริยะอยู่ในขั้นขยายสเกลระดับห้องปฏิบัติการ ที่จะต้องดูส่วนผสมสารย้อมบางอย่าง และการขยายสู่ผู้ประกอบการระดับอุตสาหกรรมที่จะต้องดูกระบวนการทำงานของโรงงานนั้นๆ ว่า สามารถรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้หรือไม่ ปัจจุบันมีผู้ที่สนใจรับการถ่ายทอดนวัตกรรมแล้วประมาณ 3 ราย ในอนาคตจะต่อยอดสู่บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะบ่งชี้ความสดใหม่ของอาหารทะเล ที่อยู่ระหว่างการปรึกษากับผู้ประกอบการ

ก้าวข้ามขีดจำกัดบรรจุภัณฑ์

ด้าน สุชัญญ์ญา ไชยชมภู กรรมการผู้จัดการบริษัท เซฟเฟอร์แพค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ แบบครบวงจร มานานกว่า 10 ปี กล่าวว่า ปัญหาในเรื่องของ “กลิ่น” ที่มาจากทั้งทุเรียน อาหาร โดยมีโจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อล็อกกลิ่นทุเรียนให้สามารถขนส่งได้ เนื่องจากเมื่อช่วงต้นปีมีลูกค้ากลุ่มทุเรียนจำนวนมาก ที่มีผลผลิตทางการเกษตรติดขัดจากการส่งออกในช่วงสภาวะวิกฤติโควิด-19 ซึ่งหากจะส่งทั้งเปลือกก็จะทำให้ค่าขนส่งมีราคาสูง จึงทำให้เทรนด์ของการแกะเนื้อทุเรียนส่งออกเพิ่มขึ้น

ดังนั้น แพคเกจจิ้งล็อกกลิ่นได้แบบ 100% จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความร่วมมือวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์เก็บกลิ่นทุเรียนร่วมกับศูนย์ฯ โดยพัฒนาในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ลักษณะเทอร์โมเฟอร์มที่มีต้นทุนไม่สูงนัก จากปกติจะเป็นในลักษณะของการฉีดพลาสติกที่ราคาค่อนข้างสูง จากนั้นเมื่อได้โมเดลของโครงสร้างบรรจุภัณฑ์ จึงนำมาพัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของวัสดุ Anti-Fog ของตัวฝาเพื่อให้ไม่มีฝ้า และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเห็นสินค้าในกล่องได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเป็นการช่วยคงความอร่อยของทุเรียนสดได้นานถึง 3 วัน ส่วนฐานลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นแพคเกอร์ที่นำสินค้าเข้าสู่โมเดิร์นเทรด

ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว.กล่าวเสริมว่า นวัตกรรมทั้ง 3 นี้จะเป็นตัวบ่งชี้ให้ผู้บริโภคได้เห็นว่าประสิทธิภาพของสินค้านั้นได้มาตรฐาน เป็นประโยชน์ ต่อการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร เสริมแกร่งผู้ประกอบการไทยทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน 

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก โดยเฉพาะภาคการส่งออกและขนส่ง รวมทั้งการบริโภคภายในประเทศ ทำให้มีผลผลิตทางเกษตรที่มีคุณภาพสูงในประเทศจำนวนมากที่ไม่ได้เก็บเกี่ยวทันเวลา ส่งผลให้เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีตลาดรองรับ 

จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการจัดหาหรือเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งยังส่งเสริมการขายออนไลน์ที่จะเป็นคำตอบให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการและผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเป็นที่ยอมรับทางการค้าทั้งออฟไลน์ และออนไลน์อีกด้วย