สสว.ดัน ‘โค้ชชิ่งออนไลน์’ ยกระดับไมโครเอสเอ็มอี

สสว.ดัน ‘โค้ชชิ่งออนไลน์’ ยกระดับไมโครเอสเอ็มอี

สสว.เดินหน้า “เอสเอ็มอี โค้ชชิ่ง ออนไลน์” ปี 3 ภายใต้โครงการ Train the Coach ระบุฟันเฟืองสำคัญยกระดับไมโครเอสเอ็มอี เพิ่มการเข้าถึงบริการภาครัฐตลอดเวลาผ่านระบบปรึกษาแนะนำ มั่นใจช่วยพัฒนาศักยภาพธุรกิจและเน้นการปรับตัวสอดรับนิวนอร์มอล

Train the Coach เป็นมาตรการของภาครัฐในการขับเคลื่อนเอสเอ็มอีด้วยระบบที่ปรึกษาหรือโค้ชที่จะขึ้นมาอยู่บนทะเบียนระบบออนไลน์ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ต้องการสืบค้นหาและขอรับคำปรึกษาแนะนำจากโค้ชที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับปัญหาที่ต้องการปรึกษาแนะนำรวมถึงหน่วยงานรัฐก็จะสามารถเข้าถึงบุคลากรเหล่านี้ได้

เล็งบุกเมืองรองหนุนเอสเอ็มอี

วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานโครงการ Train the Coach ปี 2563 ได้ขยายบทบาทจากการพัฒนาระบบรวมผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ กว่า 3,500 ราย แบ่งเป็นสายธุรกิจ 2,676 ราย เทคโนโลยี 826 ราย กระจายไปอยู่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ มาสู่การให้บริการปรึกษาแนะนำแก่เอสเอ็มอีผ่านกิจกรรม “SME Coach” ซึ่งในการดำเนินงานปีนี้ ระบบได้ให้บริการแก่เอสเอ็มอีจำนวน 500 รายครอบคลุมทั่วประเทศ และผลจากการให้คำปรึกษาแนะนำดังกล่าว ยังคงสามารถช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแม้ว่าจะอยู่ในภาวะวิกฤติโควิด 19 นี้ โดยประมาณการเบื้องต้นว่าจะมีมีมูลค่าถึง 200 ล้านบาท

160035694958

สำหรับประเด็นปัญหาหลักๆ ที่ผู้ประกอบการต้องการรับคำปรึกษาแนะนำ ตามลำดับ
ดังนี้ 1. ปรับปรุงกระบวนการผลิตและลดต้นทุน 2. การเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจ 3. สร้างมูลค่าเพิ่มหรือต่อยอดให้แก่สินค้า/บริการเดิม โดยแบ่งตามประเภททางธุรกิจหลักๆ ดังนี้ บุคคลธรรมดา วิสาหกิจชุมชน บริษัทจำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด

“ในอนาคต สสว. ยังมองไปถึงการยกระดับไมโครเอสเอ็มอี ซึ่งจะมุ่งไปยังพื้นที่เมืองรอง ซึ่งข้อจำกัดของไมโครเอสเอ็มอีเหล่านี้คือ มักจะขาดโอกาสในการเข้าถึงการบริการ หรือการพัฒนาจากหน่วยงานรัฐ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการส่งเสริมได้อย่างสมดุลและเกิดการพัฒนาตลอดห่วงโซ่ได้ทั้งเอสเอ็มอีในเมืองและไมโครเอสเอ็มอี ก็จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในพื้นที่ได้เกิดการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงห่วงโซ่ได้อย่างเข็มแข้งและเป็นประโยชน์ต่อทั้งภาคเศรษฐกิจในระดับเมืองรองอย่างมาก”

นอกจากนี้ สสว. ก็จะใช้กลไก ศูนย์ให้บริการเอสเอ็มอีครบวงจร หรือศูนย์ OSS ที่มีอยู่ในทุกจังหวัด ในการเข้าถึงกลุ่มไมโครเอสเอ็มอีเหล่านี้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเชื่อมั่นว่า “เอสเอ็มอี โค้ชชิ่ง ออนไลน์” จะเป็นเครื่องมือสำคัญชิ้นหนึ่งของ สสว. ในการเข้าถึงผู้ต้องการใช้บริการและรับข้อมูลข่าวสาร และลดข้อจำกัด ด้านเวลา และค่าใช้จ่ายในการที่จะต้องติดต่อเข้ามาถึงในศูนย์กลางเมือง เหมือนในอดีต

160043015528

“สสว. มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งให้ระบบที่ปรึกษาออนไลน์นี้ ตอบโจทย์การพัฒนาในยุคที่ธุรกิจก้าวสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 จึงสร้างแพลตฟอร์มการให้คำปรึกษาแนะนำออนไลน์ผ่านเว็บแอพพลิเคชั่น รวมถึงการประเมินคุณภาพโค้ชจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยตรง ซึ่งจะกระตุ้นให้โค้ชที่มีคุณภาพเข้าสู่ระบบมากขึ้น และเมื่อจำนวน คุณภาพและความหลากหลายของประเภทความเชี่ยวชาญจากโค้ชเข้ามามาก ระบบดังกล่าวนี้ก็จะเป็นกลไกที่สำคัญในการยกระดับเอสเอ็มอีไปสู่การปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ทันโลกและมีภูมิคุ้มกันและเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง” วีระพงศ์ กล่าว

เติมเต็มความสามารถโค้ชออนไลน์

รูปแบบดำเนินงาน SME Coach ปีที่ 3 จะเน้น 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ การสร้างระบบออนไลน์ให้ผู้ประกอบการที่ต้องการคำปรึกษาสามารถเข้าถึงการโค้ชได้ทุกที่ทุกเวลา ในส่วนตัวโค้ชก็มาจากทั้งภาครัฐและเอกชนให้มีความชำนาญและหลากหลายทั้งด้านการเงิน การตลาดและการผลิต ให้ผู้ประกอบการเลือกใช้ในการพัฒนากิจการทั้งการแก้ปัญหาและการวางกลยุทธ์ได้อย่างตรงจุด 

160043018234

2.การทำ Train the Coach เพื่อยกระดับโค้ชขึ้นมาอีกขั้นตอนหนึ่ง โดย สสว.จะเติมเต็มความรู้และเข้าใจในเรื่องทรานส์ฟอร์เมชั่น ดิสรัปชั่น นิวนอร์มอล ให้เป็นองค์ความรู้ที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่จะนำมาช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยได้ให้คำแนะนำเบื้องต้นไปแล้วมากกว่า 1,000 รายตั้งแต่ปี 2562 และมี 17 รายที่รับการโค้ชเรื่องทรานส์ฟอร์เมชั่น

ทั้งนี้ ในส่วนของ สสว.จะยังคงเน้นช่วยเอสเอ็มอีทั้งการเพิ่มช่องทางการตลาด การเพิ่มประสิทธิภาพ/ลดต้นทุน และการเข้าถึงแหล่งทุน จะทำให้ผู้ประกอบการเติบโตได้อย่ายั่งยืน รวมถึงกลไกการทำโค้ชชิ่้งออนไลน์ที่ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ตอบสนองกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งนี้ เป้าหมายของการทำโค้ชชิ่งออนไลน์คือ การโค้ชได้อย่างมีคุณภาพซึ่งรวมถึงการพัฒนายกระดับโค้ช ฉะนั้น เพียงแค่สามารถเชื่อมต่อระบบออนไลน์ก็สามารถให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา