‘เอปสัน’ รุกขยายโปรเจคเตอร์บีทูบี

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เดินหน้าทำตลาดโปรเจคเตอร์สำหรับองค์กร สอดคล้องไปกับกลยุทธ์ธุรกิจปีนี้ที่จะหันมาโฟกัสตลาดบีทูบีมากขึ้น

เขากล่าวว่า ปี 2562 ภาพรวมตลาดโปรเจคเตอร์ประเทศไทยมีการหดตัวลงกว่า 25% แต่เกิดขึ้นในกลุ่มสินค้ารุ่นเล็ก ความสว่างไม่เกิน 4,000 ลูเมน ที่ใช้ตามบ้านหรือในร้านค้าขนาดเล็ก สวนทางกับตลาดบีทูบีซึ่งเป็นลูกค้าหลักของเอปสัน ที่ประกอบด้วยเอสเอ็มอี บริษัทขนาดใหญ่ สถาบันศึกษา หน่วยงานราชการ ออร์แกไนเซอร์ และธุรกิจบันเทิง ที่ต้องการใช้โปรเจคเตอร์ความสว่างปานกลางถึงสูงพิเศษ ความละเอียดระดับฟูลเอชดี มีรูปแบบการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และคุณสมบัติพิเศษเฉพาะด้าน

ส่วนปี 2563 แม้จะเกิดวิกฤติโควิด-19 แต่ตลาดกลับไม่ได้หดตัวรุนแรงเหมือนที่มีการคาดการณ์ เอปสันเองก็เริ่มออกสินค้าใหม่สู่ตลาดตั้งแต่ช่วงต้นไตรมาสสามที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ทั้งยังมีแผนที่จะเปิดตัวเลเซอร์โปรเจคเตอร์รุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายในช่วงสิ้นปี

“ตลาดโปรเจคเตอร์ทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วง technological shift หรือการเปลี่ยนเทคโนโลยีจากการใช้หลอดภาพมาเป็นเครื่องกำเนิดแสงเลเซอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า ให้ภาพฉายที่คมชัดและคุณภาพดีขึ้น ด้านราคาก็เริ่มจับต้องได้มากขึ้น จึงเป็นโอกาสดีสำหรับทุกองค์กรที่ต้องการซื้อเลเซอร์โปรเจคเตอร์ ไปใช้ หรือนำไปทดแทนเครื่องรุ่นเดิมในธุรกิจของตนเอง”

ล่าสุด ร่วมกับอินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ และเซ็นทรัลเวิลด์ จัดเมกะอีเวนท์ “House of Illumination” งานแสดงศิลปะดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร ของเซ็นทรัลแกลอรี่ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมตั้งแต่ 28 ต.ค.2563 ไปจนถึงต.ค. 2565 โดยเอปสัน ประเทศไทย ให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีเลเซอร์โปรเจคเตอร์ความสว่างสูง จำนวน 18 เครื่องที่ใช้ในห้องจัดแสดงต่างๆ ซึ่งผู้เข้าชมจะได้สัมผัสประสบการณ์ในการชมคอนเทนท์ดิจิทัลในแบบอินเตอร์แอคทีฟ ผ่านเทคนิค Projection Mapping

ปัจจุบัน เอปสันมีสินค้าเลเซอร์โปรเจคเตอร์จำหน่ายในตลาดมากกว่า 20 รุ่น ตั้งแต่ระดับความสว่าง 2,000 ไปจนถึง 30,000 ลูเมน ครอบคลุมทุกความต้องการใช้งานในทุกประเภทสถานที่ 

สามารถครองอันดับ 1 ในตลาดโปรเจคเตอร์ไทยมาได้ถึง 15 ปี มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 44% ส่วนในภาพรวมจากปีที่ผ่านมาสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มบีทูซี 75% บีทูบี 25% ปีนี้ตั้งเป้าว่าบีทูบีจะเติบโต 20% สัดส่วนเปลี่ยนไปเป็น 30% ส่วนบีทูซีลดเหลือ 70%