‘บีเอ็มเค’ ยกชั้นกล้องเอไอ คู่หูสายตรวจอัจฉริยะ

‘บีเอ็มเค’ ยกชั้นกล้องเอไอ คู่หูสายตรวจอัจฉริยะ

เสมือนทำการเปิดตัวและสร้างการรับรู้ให้เป็นที่คุ้นเคยในแวดวงธุรกิจสตาร์ทอัพผ่าน “นิลมังกร” โครงการประกวดสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยประจำปี 2564 โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (เอ็นไอเอ) กับผลงาน  “191 CARE CENTER” (ตู้แดงอัจฉริยะ) 

ที่บริษัท บีเอ็มเค ซีซีทีวี จํากัด ธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ที่ยกระดับสู่เส้นทางการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจรด้วยเทคโนโลยีเอไอ ตอบโจทย์ทั้งภาครัฐและเอกชน 

เพราะความปลอดภัยคือ ‘งาน’

162367972199

ธันยนันท์ พิณสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่คลุกคลีอยู่ในวงการธุรกิจรักษาความปลอดภัยมานานกว่า 7 ปี ทำให้รู้ว่าช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยคือ การแก้ปัญหาเชิงรับหรือมีข้อมูลที่เป็นหลักฐานสำหรับแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถจัดการกับปัญหาอาชญากรรมได้ทันท่วงที

จึงเป็นเหตุผลให้เดินหน้าพัฒนาโครงการนวัตกรรมเพื่อสังคม ในรูปแบบแพลตฟอร์มด้านความปลอดภัย “ระบบสายตรวจอัจฉริยะ” (24 HI-CARE CENTER) โดยนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้กับกล้องซีซีทีวีและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือน 

กล้องวงจรปิดเอไอพร้อมระบบการเรียนรู้ (Deep learning) สามารถตรวจจับใบหน้าและป้ายทะเบียนยานพาหนะที่แม่นยำถึง 95% หากตรงกับฐานข้อมูลอาชญากรของตำรวจ 191 ระบบจะแจ้งเตือนไปที่ศูนย์ควบคุมและผู้ใช้งานระบบ เพื่อให้ตำรวจวางแผนดำเนินการขั้นต่อไป ขณะเดียวกันหากเกิดเหตุการณ์ที่มีการบุกรุกพื้นที่ ผู้ใช้งานระบบก็สามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไปยังศูนย์ควบคุม และแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ในทันทีเช่นกัน

162367975218

อีกทั้งระบบ SOS ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ที่ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ยังสามารถแสดงตำแหน่ง และแจ้งเตือนบนแผนที่การเฝ้าระวัง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และช่วยแก้ปัญหาที่อาจจะเกิดตามมาได้

ดึงดาต้าวิเคราะห์อาชญากรรม

162367979073

ปัจจุบันได้ร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ติดตั้งกล้องวงจรปิด 120 จุดให้กับประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการ ถือได้ว่าแตกไลน์จากธุรกิจเดิมที่เป็นการขายส่งอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว สู่การเป็น “ศูนย์บริการเฝ้าระวัง” ทั้งยังมีการเก็บดาต้าและทำในส่วนของแดชบอร์ด สามารถนำไปต่อยอดเพื่อ Deep learning วิเคราะห์ความเสี่ยงในเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ 

ทั้งนี้ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เริ่มต้นด้วยการให้ทดลองใช้ฟรีเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อให้สัมผัสถึงข้อดีของการมีระบบนี้อยู่ และจะเกิดการบอกต่อ ขณะที่จุดเด่นที่แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่นคือ รูปแบบการขายที่หลากหลายรองรับความต้องการที่ต่างกันของผู้ใช้ รวมทั้งมีบริษัทเครือข่ายที่จะช่วยเสริมการให้บริการ

ในส่วนของภาพรวมอุตสาหกรรมอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ธันยนันท์ มองว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดสินค้าและบริการด้านระบบรักษาความปลอดภัย และระบบป้องกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดการณ์ว่าหลายภาคส่วนจะหันมาใช้อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยมากขึ้น ขณะเดียวกันการนำเสนอข้อมูลสินค้ามีความสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อเช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคเน้นในส่วนของประสบการณ์เป็นหลัก

บิซิเนสโมเดลของบีเอ็มเคฯ จะเป็นทั้ง B2B และ B2C เป็นการจำหน่ายและบริการให้เช่า ประกอบด้วย 5 ส่วน ได้แก่ 1.แพ็คเกจที่เหมาะกับร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ 2.สมาร์ทแพ็คเกจ ตรวจจับการบุกรุก 3.ตรวจจับป้ายทะเบียน 4.ตรวจจับใบหน้า 5.Home Alarm ดังนั้น รายได้ก็จะมาจากการจำหน่ายและให้เช่าอุปกรณ์ อีกทั้งค่าประกันอุปกรณ์ด้วยเช่นกัน

“ในช่วงโควิดถือว่าได้รับผลกระทบเนื่องจากต้องเข้าไปติดตั้งในพื้นที่จริง แต่หลังจากหลังโควิดมีแนวโน้มที่จะเติบโตมากกว่านี้ หากเทียบกับข้อมูลตู้แดงที่มีประมาณ 4 หมื่นตู้ทั่วประเทศ ซึ่งเฟสแรกตั้งเป้าไว้ที่ 10% เริ่มที่ 120 แห่งในพื้นที่ของ สน.โชคชัยกำกับดูแล ส่วนโรดแมพระยะยาว 5 ปีจะขยายฐานผู้ใช้งาน ตั้งเป้าที่ปีละ 500 หลังเป็นขั้นต่ำ”

162367980887

ดวงตาที่สามของบ้าน

ภาพรวมการแข่งขันหากเป็นในส่วนของกล้องวงจรปิดถือได้ว่ามีการแข่งขันสูงมาก แต่ยังไม่มีผู้เล่นรายใดที่ทำเป็นศูนย์บริการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากมีการลงทุนอุปกรณ์ในมูลค่าที่สูง ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายสูงตามไปด้วย ดังนั้น กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถเข้าถึง แต่บีเอ็มเคฯ ได้พัฒนาโซลูชั่นขึ้นมาเอง ราคาจึงอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ง่ายหรือเริ่มต้นเพียง 1,500 บาทต่อเดือน

"ขณะเดียวกันในอนาคตบริษัทจะขยายระบบรักษาความปลอดภัยแบบเฝ้าระวังและขอความช่วยเหลือ ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด ไม่เหมือนกับระบบความปลอดภัยแบบเดิมๆ ที่ต้องคอยเฝ้าระวังเอง”

ส่วนความท้าทายในการทำธุรกิจ มองว่า คือ “การให้บริการ” เพราะการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากเดิมขายส่งเป็นรูปแบบศูนย์บริการ จึงต้องศึกษาตลาดเพื่อเก็บฟีดแบ็คเบื้องต้น จนสามารถนำทุกองค์ประกอบมารวมกันให้เกิดเป็นโซลูชั่นที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้มากขึ้น

นวัตกรรมในด้านผลิตภัณฑ์และบริการนี้ นับว่าเป็นการยกระดับการแก้ปัญหาความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำงานที่ควบคู่กันของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นจะช่วยลดสถิติในด้านอาชญากรรมและโจรกรรมได้