สมรภูมิขนส่งสินค้าพัสดุ ยังคงดีกรีการแข่งขันที่ร้อนแรง วิกฤติโควิดที่ยังมีผลทำให้ร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงบริการต่างๆ ต้องปิดชั่วคราวตามมาตรการล็อกดาวน์ การสั่งซื้อสินค้าบริการจึงเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ในช่วงที่ผ่านมา การสั่งซื้อของสดที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิ (Cold chain) มีความต้องการสูงขึ้น ทำให้บริการประเภทนี้อยู่ในความสนใจและน่าจับตาถึงการขยายตัวของธุรกิจไม่น้อย
ล่าสุด 3 ผู้นำโลจิสติกส์ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัด ได้ประกาศความร่วมมือให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิร่วมกัน ภายใต้ “แบรนด์ใหม่” โดยจะมีการลงนามลงนาม MOU สัญญากิจการร่วมค้าประเภทธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิร่วมกัน พร้อมรายละเอียดความร่วมมือภายใต้หัวข้อ THP x JWD x FLASH : Trinity Power for Cold Chain express การร่วมทุนธุรกิจขนส่งระบบควบคุมอุณหภูมิครั้งประวัติศาสตร์ รวมถึงมาตรการการยกระดับสินค้าควบคุมอุณหภูมิในและนอกประเทศ
การร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับบริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิครอบคลุมทั่วไทย และอาเซียน เป็นการพลิกโฉมสมรภูมิโลจิสติกส์ครั้งใหญ่ ท่ามกลางความท้าทายใหม่ของโลก
แหล่งข่าวในวงการโลจิสติกส์ ให้ข้อมูลว่า การประกาศความร่วมมือครั้งนี้เป็นการดึงจุดแข็งของทั้ง 3 ราย มารวมกันเป็นบริการภายใต้แบรนด์ใหม่ โดย “เจดับเบิ้ลยูดี” มีจุดแข็งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ และซัพพลายเชนระดับอาเซียน ปัจจุบันเป็นผู้นำด้านการให้บริการ Cold Chain ที่มีคลังห้องเย็นสาธารณะรายใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นรายแรกที่นำระบบจัดเก็บสินค้าแบบอัตโนมัติ (ASRS) ในการเคลื่อนย้ายและจัดเรียงสินค้า และเป็นรายแรกที่ได้รับอนุญาตจากกรมศุลกากรให้เป็นห้องเย็นเขตปลอดอากร (Free Zone)
ขณะที่ "ไปรษณีย์ไทย" มีเครือข่ายการส่งสินค้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และมีศักยภาพในการขนส่งที่แข็งแกร่ง ส่วน "แฟลช เอ็กซ์เพรส" มีจุดแข็งเรื่องระบบเทคโนโลยีการบริหารจัดการ ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการเสริมแกร่งบริการดังกล่าว
‘ปณท’เสริมทัพระบบขนส่ง-คลังสินค้า
นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 พฤติกรรมหลายรูปแบบของคนไทยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ที่ต้องเปลี่ยนจากการทำกิจกรรมนอกบ้านมาสู่ในบ้าน เนื่องด้วยมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อจำกัดการรวมตัวและประกอบกิจกรรม ทำให้หลายๆ ธุรกิจต้องปรับแนวทางในการดำเนินงานและการให้บริการให้สอดรับกับวิถีชีวิตใหม่ หรือนิวนอร์มอลมากขึ้น
โดยไปรษณีย์ไทยเองได้มีการปรับแผนในการขนส่งสินค้ารวมถึงบริการต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไป ซึ่งหนึ่งในแผน คือ บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งไปรษณีย์ไทยได้พัฒนารูปแบบการขนส่งดังกล่าว เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์อาหารสด อาหารทะเล ฯลฯ ให้คงความสดใหม่ และลดการเสียหาย ด้วยรถที่มีศักยภาพในการควบคุมอุณหภูมิได้ถึง -18 องศาเซลเซียส ตอบโจทย์กับสินค้าประเภทอาหารสด ผลไม้ อาหารทะเล และอาหารแช่แข็ง ที่เริ่มมีการซื้อขายกัน บนช่องทางออนไลน์ในช่วงที่มีการจำกัดการเดินทางออกนอกพื้นที่
สินค้าที่ได้รับความนิยม อาทิ แหนมเนือง หมูยอ กุ้ง เนื้อปลากะพง เนื้อวัว ซึ่งล่าสุดไปรษณีย์ไทยได้ยกระดับประสิทธิภาพบริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิร่วมกับพันธมิตรเอกชนซึ่งก็คือ เจดับเบิ้ลยูดี และ แฟลช เอ็กซ์เพรส เพื่อร่วมกันเสริมความเเข็งแกร่งและความครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการให้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การผนึกกำลังร่วมกันครั้งนี้ จะดึงจุดแข็งของไปรษณีย์ไทย ในเรื่องของความครอบคลุมพื้นที่ให้บริการทุกตารางนิ้วในประเทศไทย พร้อมทั้งบุคลากร และระบบการขนส่งในแบบลาสไมล์ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยจะโชว์ศักยภาพ ที่จะสนับสนุนธุรกิจนี้ให้เติบโต และความพร้อมในการร่วมธุรกิจขนส่งควบคุมอุณหภูมิและระบบคลังสินค้าในประเทศและอาเซียน