“อัญชีรา ชุมชัยเวทย์” จัดทัพ “บิ๊กดาต้า” ขุมพลังข้อมูลใหม่ “โลกการเงิน”

เมื่อ “ข้อมูลขนาดใหญ่” หรือ “บิ๊กดาต้า” กลายเป็นดัชนีชี้วัดความเฉียบคมของธุรกิจ ในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างความได้เปรียบในสมรภูมิการแข่งขัน “โลกการเงินยุคใหม่” เป็นโลกอีกใบที่กำลังใช้ประโยชน์จาก "บิ๊กดาต้า" รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลแบบอัจฉริยะ เพื่อสร้างจุดแข็งและความเป็นผู้นำ

 “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” ผู้ให้บริการในโลกการเงิน มองเห็นประโยชน์สูงสุดที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ “บิ๊ก ดาต้า” หรือปัจจุบันได้กลาย Data Lake ขนาดใหญ่ ที่สามารถดึงส่วนที่ดีที่สุด ออกมาเป็นกลยุทธ์ในโลกการเงินยุคใหม่ได้อย่างมีชั้นเชิง

“กรุงเทพธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “อัญชีรา ชุมชัยเวทย์” ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานยุทธศาสตร์ ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเชิงลึก กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ถึงความสำคัญการนำ “บิ๊กดาต้า” มาต่อยอดสร้างความได้เปรียบในธุรกิจบริการการเงินยุคใหม่

รู้จักระบบ RTDM อัจฉริยะเชื่อมบิ๊กดาต้า 

ปัจจุบัน กรุงศรี คอนซูมเมอร์ใช้ ระบบ RTDM ซึ่งย่อมาจาก Real Time Decision Management System เป็นระบบอัตโนมัติ สำหรับใช้ในการทำการตลาดแบบ Data-Driven Marketing เป็นระบบที่เชื่อมต่อกับบิ๊กดาต้าขนาดใหญ่ ช่วยตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว
 

“อัญชีรา” อธิบายว่า ระบบ RTDM จะเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของลูกค้า เช่น วงเงินคงเหลือ และจะทำงานร่วมกับ บิ๊กดาต้า อนาไลติกส์ เพื่อนำอินไซต์ของลูกค้าแต่ละรายในรูปแบบ ร้านค้าที่ใช่ หรือ โลเคชั่นที่ชอบ โดยระบบจะเลือกหาโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายทำการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ ในแบบ Near-Real-Time

ระบบ RTDM ยังทำหน้าที่ติดตาม (Track) รายการใช้จ่าย (Transaction) ของลูกค้าเพื่อตอบสนองลูกค้าตามโปรโมชั่น (เช่นเงินคืน) เพื่อส่งดาต้ากลับให้ บิ๊กดาต้า อนาไลติกส์ ได้เรียนรู้ และพัฒนาโมเดลด้วยเทคนิคแมชชีนเลิร์นนิ่งอีกด้วย

"คือ ทั้งบิ๊กดาต้า และแอดวานซ์ อนาไลติกส์ จะเหมือนเป็นสมองที่สำคัญในการทำธุรกิจการให้บริการลูกค้า แต่สิ่งที่ขาดและหลายองค์กรขาด คือ แขนขาที่จะมาหยิบสิ่งที่เราแนะนำเพื่อส่งต่อให้ลูกค้า จึงต้องมีระบบตรงนี้ นั่นคือ ระบบ RTDM  เป็นระบบที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์และมาเชื่อมต่อกับบิ๊กดาต้า รวมๆ เราเรียกว่า มาร์เก็ตติ้ง เอไอ แพลตฟอร์ม ทำให้เรารู้พฤติกรรมลูกค้า และหยิบสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างตรงใจ เรียลไทม์ โดยไม่ได้เป็นการรบกวน"

อัญชีรา กล่าวว่า ระบบอัจฉริยะต่างๆ เหล่านี้ ธนาคารฯ ได้พัฒนามาก่อนยุคโควิด และพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนฉลาด ซึ่งในส่วนของ บิ๊กดาต้าทำมาตั้งแต่ 7 ปีก่อน และใช้จริงมาราว 5-6 ปี จนพัฒนาให้เก่งขึ้น
 

"ทำไมเราต้องทำบิ๊กดาต้า เพราะข้อมูลมันเยอะมากต่อวัน เรามีข้อมูลหลายล้านเรคคอร์ด ยิ่งมีแอพพลิเคชั่น UCHOOSE ยิ่งทำให้มีข้อมูลต่างๆ มากขึ้น เทคโนโลยีปัจจุบันรองรับไม่ไหว เลยจำเป็นต้องพัฒนาบิ๊กดาต้า หรือเราอาจจะเรียกได้ว่าเป็น data lake แล้ววันนี้ มาช่วยรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูล เราใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน" 

อย่างไรก็ตาม เธอมองว่า ระบบต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในอนาคต ควรต้องอัจฉริยะเพิ่มขึ้น เฉพาะบุคคลมากขึ้น รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีแผนที่จะพัฒนาระบบ RTDM ในเฟสถัดไปให้ตอบโจทย์ได้ครอบคลุม และมองหาระบบอัจฉริยะอื่นเพื่อมาเติมเต็ม บริการด้านการเงินยุคใหม่ 

เผยเทรนด์ใช้จ่ายยุคนิวนอร์มอล

ขณะที่ ข้อมูลจากฝ่าย Data Intelligence & Customer Insights (DICI) ของ “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” พบว่า พฤติกรรมลูกค้าในปัจจุบัน หันมานิยมการซื้อของและใช้บริการผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เช่น จำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซื้อของจากออนไลน์ แพลตฟอร์ม และผู้ให้บริการส่งอาหาร (Food aggregator) ประมาณเดือนละ 420,000 คนต่อเดือน เพิ่มขึ้นราว 120% เทียบกับช่วงก่อนโควิด

อัญชีรา ยังกล่าวถึงเทรนด์สำคัญของการใช้จ่ายของผู้บริโภคยุคนิวนอร์มอล ที่พบวันนี้ คือ

1.Online ทุกอย่างขายบนออนไลน์ ดังนั้นผู้ให้บริการด้านการเงินและสินเชื่อ ต้องปรับตัว และพร้อมที่จะตามไปบริการลูกค้าบนทุกแพลตฟอร์มด้วย ไม่ว่าลูกค้าจะจ่ายเต็มหรือผ่อนจ่ายเราก็จะต้องพร้อมที่จะบริการลูกค้า

2. Touchless จากสถานการณ์โควิด ทำให้ลดการสัมผัสเทคโนโลยีที่เข้ามาใช้เป็นพวก QR Scan ในการจ่าย หรือบัตรแตะจ่าย เห็นได้ว่ายอดส่วนนี้สูงขึ้นเติบโตแบบมีนัยสำคัญ

3. Cashless สังคมไร้เงินสด โควิดเป็นตัวเร่งให้เกิดการใช้มากขึ้น เช่น สินเชื่อเงินสด เมื่อก่อนลูกค้าต้องไปกดเอทีเอ็ม เพื่อให้ได้เงินสดมาใช้จ่าย ตอนนี้ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมกดบนแอป UCHOOSE เพราะไม่ได้ออกจากบ้าน และใช้จ่ายโดยการโอนจ่ายผ่านบัญชีอื่นเพื่อมาเติมเต็ม บริการด้านการเงินยุคใหม่