ดีอีเอสผนึกหัวเว่ยลุยคลาวด์เชิงลึก-ดันศูนย์นวัตกรรมซอฟต์แวร์ร่วมในไทย
ดีอีเอส เอ็มโอยูหัวเว่ย ดันศูนย์นวัตกรรมซอฟต์แวร์ร่วมในไทย ส่งเสริมระบบนิเวศคลาวด์-ยกระดับพัฒนาบุคลากรภาครัฐจำนวน 2,000 คนในกรอบเวลา 3 ปี
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า เมื่อวันนี้ 25 ก.พ. ที่่ผ่านมา ตนได้มอบหมายให้ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ลงนามความร่วมมือข้อตกลงระหว่างกระทรวงดิจิทัลฯ และบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในการผลักดันการทำงานร่วมกันเกี่ยวกับเทคโนโลยีคลาวด์ การวิจัยนวัตกรรม รวมถึงการพัฒนาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้
จะมีการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมซอฟต์แวร์ร่วม (Joint Software Innovation Center) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการส่งเสริมระบบนิเวศคลาวด์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ หุ้นส่วนทางอุตสาหกรรม ธุรกิจสตาร์ทอัพ ตลอดจนร่วมกันพัฒนาเชิงประยุกต์การใช้แอปพลิเคชั่นที่กําหนดได้เองในคลาวด์ของภาครัฐ (Government Cloud) สําหรับผู้ใช้ในหน่วยงานภาครัฐของไทย
โดยมีขอบเขตการทำงานและร่วมมือกันมีการพัฒนาข้อมูลเชิงลึก และข้อมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐตลอดจนมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล เชื่อมโยงข้อมูลในคลาวด์ของภาครัฐหรือให้เกิดการบูรณาการ ขยายความร่วมมือในเรื่องการจัดเก็บข้อมูลคลาวด์สาธารณะให้มีความก้าวหน้าอย่างเร่งด่วน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0
“ที่สำคัญจะมีการยกระดับพัฒนาบุคคลากรภาครัฐ และเพิ่มพูนทักษะ โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2,000 คนในเวลา 3 ปี รวมถึงสร้างโอกาสให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐเดินทางแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ณ ศูนย์นวัตกรรมและการเรียนรู้ระดับโลกของหัวเว่ย และได้สํารวจนวัตกรรมใหม่ในด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น บิ๊กดาต้า ปัญญาประดิษฐ์ การเชื่อมโยงของอุปกรณ์อัจฉริยะ (IoT) และเทคโนโลยี 5G” นายชัยวุฒิกล่าว
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมองถึงการขยายความร่วมมือ ไปยังการจัดเก็บข้อมูลคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) เพื่อทันต่อความต้องการและรองรับการใช้งานของผู้ใช้ในหน่วยงานภาครัฐของไทยด้วยการใช้ประโยชน์จากบริการคลาวด์ ที่มีความก้าวหน้าอย่างสูงสุด
นายอาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกซาบซึ้งและได้รับแรงกระตุ้นจากการสนับสนุนและความไว้วางใจของรัฐบาลไทยที่มีต่อหัวเว่ยอย่างต่อเนื่อง ในฐานะพาร์ทเนอร์ด้านไอซีทีที่ไว้วางใจได้และเป็นผู้นำทางเทคโนโลยี หัวเว่ย คลาวด์ ให้บริการในประเทศไทยมากว่า 3 ปี เสริมศักยภาพให้แก่พาร์ทเนอร์กว่า 300 ราย ในกว่า 15 อุตสาหกรรม เราภูมิใจที่เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกรายแรกที่เปิดตัว Available Zone (AZ) ในประเทศไทย และเป็นรายเดียวที่มี AZ สามแห่งตั้งอยู่ที่นี่ นอกจากนี้ ในฐานะที่เรามุ่งมั่นสนับสนุนสังคมอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยจะยังคงส่งเสริมศักยภาพของอีโคซิสเต็มให้แก่ SMEs และบุคลากรที่มีความสามารถด้านดิจิทัลให้แก่ประเทศ ผ่านการริ่เริ่มโครงการต่างๆ ซึ่งรวมถึงโปรแกรมการแข่งขัน Huawei Spark Ignite, Huawei ASEAN Academy และ Seeds for Future ด้วยเป้าหมายความสำเร็จต่างๆ ในวันนี้ จะเร่งให้เกิดการใช้งานบริการคลาวด์และเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย และขับเคลื่อนประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอาเซียน และทำให้เกิดโลกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์ได้ในที่สุด”