ReLIFE รับ 50 ล้านลุ้นผลิต "กระจกตาเทียมชีวภาพ" รายแรกโลก
ฟรุตต้า ไบโอเมด Seed funds 50 ล้านบาท "ReLIFE" สตาร์ทอัพจาก สวทช. ผลักดันกระบวนการทดสอบผลิตภัณฑ์กับคนไข้จริง "กระจกตาเทียมชีวภาพ" จากเทคโนโลยีวิศวกรรมเนื้อเยื่อ ลุ้นผลิตรายแรกในโลก ลดต้นทุนรักษาและเวลารับบริจาค ดันอุตสาหกรรมชีวภาพโลดแล่นวงการแพทย์
ดีพเทคสตาร์ทอัพทางการแพทย์ “ReLIFE” ก่อตั้งโดยทีมนักวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ วิศวกรรมเนื้อเยื่อและจักษุแพทย์ จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งเป้าเป็นบริษัทแรกของโลกที่สามารถสร้าง “กระจกตาเทียมชีวภาพ” ทดแทนกระจกตาบริจาคที่ขาดแคลน และมอบชีวิตใหม่ให้กับคนไข้ได้สำเร็จ
ประเดิมบันไดขั้นแรกสู่ความสำเร็จด้วยทุนสนับสนุน Seed funds 50 ล้านบาทจากบริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด (Fruita Biomed) เพื่อเตรียมนำผลงานวิจัยเข้าสู่การวิจัยในคน เฟสแรก
ข้าว ต้นสมบูรณ์ นักวิจัยหน่วยวิจัยเทคโนโลยีการตรวจวินิจฉัยทางชีวภาพ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สปินออฟออกมาก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ ReLIFE กล่าวถึงที่มาและเทคโนโลยีซึ่งนำมาสู่การพัฒนากระจกตาเทียมจากวัสดุชีวภาพว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคทางกระจกตามากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก และรอการบริจาคกระจกตาเพื่อใช้ในการรักษา
หลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยมีปัญหาขาดแคลนกระจกตาบริจาค ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตประจำวันอย่างยากลำบากเป็นเวลานานจนกว่าจะได้รับการรักษา เพื่อแก้ปัญหานี้จึงพัฒนาไฮโดรเจลหรือเจลลี่ทำจากวัสดุชีวภาพ ให้มีความใสและความโค้งเหมือนกับกระจกตามนุษย์
ไฮโดรเจลชนิดพิเศษนี้จะมีสเต็มเซลล์หรือเซลล์ต้นกำเนิดจากผู้ป่วยและ Growth Factor (สารธรรมชาติที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์) ที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อกระจกตาใหม่
ภายในไฮโดรเจลยังเสริมความแข็งแรงด้วยเส้นใยนาโนเลียนแบบคอลลาเจน ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสเต็มเซลล์ และทำให้กระจกตาเทียมชีวภาพนี้มีความเหนียวเทียบเท่ากระจกตามนุษย์ ไม่ฉีกขาดง่ายระหว่างการใช้งาน ทำให้สามารถใช้แทนกระจกตาบริจาคได้อย่างปลอดภัย
กระจกตาเทียมที่สร้างขึ้นในห้องแล็บนี้ สามารถนำไปปลูกถ่ายและรักษากระจกตาผู้ป่วยได้ทันทีโดยไม่ต้องรอกระจกตาบริจาค
จากความสำเร็จนี้ ทีมวิจัยที่ประกอบไปด้วย ดร.ข้าว ต้นสมบูรณ์ นักวิจัยจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) สวทช. รศ.ดร.นพ.นิพัญจน์ อิศรเสนา ณ อยุธยา หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านสเต็มเซลล์และเซลล์บำบัด รศ.พญ.วิลาวัณย์ พวงศรีเจริญ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการให้บริการปลูกถ่ายกระจกตาและการใช้สเต็มเซลล์รักษาโรคกระจกตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ ดร.พีรพัฒน์ ทองนึก อาจารย์ประจำศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวเวช คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จึงตัดสินใจ Spin-off เป็นบริษัท ReLIFE เพื่อผลักดันกระบวนการทดสอบผลิตภัณฑ์กับคนไข้จริงในระดับ Clinical Trial และกระบวนการรับรองผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จาก อย. อเมริกา ให้สามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในการรักษาผู้ป่วยทั่วโลกได้เร็วที่สุด
การจัดตั้งบริษัทในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก วรรณพ วิเศษสงวน ผู้อำนวยการศูนย์ไบโอเทคและศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี สวทช. และที่สำคัญบริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด สนับสนุนเงินลงทุนและเข้ามาช่วยวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อผลักดันให้ ReLIFE เป็นบริษัทแรกของโลกที่สามารถสร้างกระจกตาเทียมด้วยเทคโนโลยีวิศวกรรมเนื้อเยื่อ (Tissue Engineering) ได้สำเร็จ
ฟรุตต้าฯ หนุน 50 ล้านบาท
รักชัย เร่งสมบูรณ์ ผู้ก่อตั้งและผู้นำทีมวิศวกรรมบริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด กล่าวว่า นับเป็นอีกก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมชีวภาพที่สามารถเข้าสู่วงการแพทย์จากโปรเจกต์สตาร์ทอัพ ReLIFE ซึ่งบริษัทเล็งเห็นความสำคัญในแง่การพัฒนาของอุตสาหกรรมชีวภาพที่จะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ในอนาคต
ด้วยความตั้งใจที่เราต้องการสร้างกลไกความเชื่อมโยงจากงานวิจัยดีๆ ของนักวิจัยไทยที่มีโอกาสแข่งขันได้ในระดับโลก มาผนวกกับความเชี่ยวชาญด้านการผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ร่วมกับทรัพยากร ทีมงาน เครื่องจักรของทางบริษัท จึงสามารถพัฒนา ผลิตและสร้างประโยชน์ให้กับโครงการ ต่อยอดงานวิจัยออกสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ โดยเชื่อมกับผู้กระจายสินค้าในด้านนี้ในต่างประเทศให้ได้ทันที
เมื่อวิเคราะห์และประเมินความเป็นไปได้ของโครงการแล้ว จึงได้ลงทุนร่วมก่อตั้ง 50 ล้านบาท เพื่อเร่งสร้างโรงงาน เครื่องจักร ไลน์การผลิต การทดสอบในคน โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 100 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิตกระจกตาเทียมชีวภาพดังกล่าว ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ต่อยอดจุดยืนที่เราต้องการพัฒนา Biocompatible Material (วัสดุที่เข้ากับเซลล์ของสิ่งมีชีวิตได้ดี) ให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แก้ปัญหาให้กับผู้คนและโลก
เขาวางทิศทางให้ ReLIFE มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Embedded Tissue Engineering ใช้กับการรักษาในด้านอื่นๆ คู่ขนานไปกับการสร้างรายได้จากการผลิตเส้นใยนาโนที่แข็งแรงพิเศษ (Reinforced Nanofiber) ด้วยเทคนิคอิเล็กโตรสปินนิงกับไฮโดรเจล นำไปประยุกต์ได้กับวัสดุที่ต้องการคุณสมบัติพิเศษ (High Performance Biomaterial) ได้ทั้งกับชุดกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ชุดนักกีฬาอาชีพ วัสดุสำหรับแฟชั่น และวัสดุพิเศษอื่นๆ.