มาทีหลังก็ดังได้ แกะกล่องส่องสเปค “iPhone 14 Plus” น้องคนรองของซีรีส์
รีวิว "แกะกล่อง iPhone 14 Plus" น้องคนรองของสี่รุ่นใน iPhone 14 Series ที่หลายคนมองว่าเป็น iPhone 14 ที่ตัวโตขึ้น
ปล่อยมาวางจำหน่ายเป็นรุ่นสุดท้ายหลังจากปล่อยให้พี่ๆ และน้องตัวเล็กได้ออกมาสร้างกระแส iPhone 14 ฟีเวอร์จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ต่อแถวซื้อถล่มทลายตั้งแต่วันแรก วันพรุ่งนี้ (ศุกร์ 7 ตุลาคม 2565) ถึงคิวของ iPhone 14 Plus มาให้สาวกไอโฟนได้จับจองกัน
หลายคนเชื่อว่า "iPhone 14 Plus" เป็นเสมือน "iPhone 14" ที่ตัวโตขึ้น วันนี้ KT Review มาแกะกล่อง iPhone 14 Plus ให้ดูกันว่าหน้าตาเป็นอย่างไร สเปคมีอะไรน่าสนใจ
เมื่อ "แกะกล่อง iPhone 14 Plus" ภายใต้กล่องอันเรียบง่าย คือ เครื่อง iPhone 14 Plus, สายชาร์จแบบ Lightning ที่อยู่คู่ไอโฟนมาช้านาน, คู่มือต่างๆ และสติ๊กเกอร์ Apple ตามสไตล์มินิมอลแบบฉบับไอโฟน
"iPhone 14 Plus" มีหน้าจอ Super Retina XDR ขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดจอเท่ากับ iPhone 14 Pro Max ทำให้มีเนื้อที่หน้าจอใหญ่เต็มตา เมื่อเทียบกับ iPhone 14 และ iPhone 14 Pro ซึ่งมีขนาด 6.1 นิ้ว จะแสดงผลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ตัวเครื่องของ iPhone 14 Plus ผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับอุตสาหกรรมอวกาศ ได้ทั้งความเรียบหรูสวยงามและความแข็งแรง ส่วนด้านหน้าเครื่องเป็น Ceramic Shield เอกสิทธิ์เฉพาะใน iPhone ที่ทาง Apple ระบุว่าแกร่งกว่ากระจกของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่ทั้งทนรอยขีดข่วน ทนน้ำ และทนฝุ่น
ด้านหลังตัวเครื่องเป็นที่ตั้งของกล้องคู่ ประกอบด้วย กล้องหลักใหม่ มาพร้อมรูรับแสงขนาด f/1.5 ซึ่งเป็นรูรับแสงที่กว้างมาก บวกกับพิกเซลขนาด 1.9 µm เพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมทั้งภาพถ่ายและวิดีโอในทุกสภาพแสง ให้รายละเอียดที่ดีขึ้น ได้ชัตเตอร์สปีดที่ไวขึ้น นอยซ์น้อยลง และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลที่ดีมาก
ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างจากรุ่นก่อนคือ กล้องหน้า TrueDepth ใหม่ที่มีรูรับแสงขนาด f/1.9 ช่วยให้ถ่ายภาพและวิดีโอในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นครั้งแรกที่มีออโต้โฟกัส และยังพัฒนาให้กล้องหน้าถ่ายรูปหมู่ได้ในระยะที่ไกลออกไปกว่าเดิมคือ 15 เซนติเมตร
อีกฟีเจอร์กล้องที่น่าประทับใจคือการมี Action Mode เพื่อสร้างสรรค์วิดีโอที่ดูลื่นไหล ไม่สั่นไหว ด้วยการใช้เซนเซอร์ทำโอเวอร์สแกนซึ่งจะปรับภาพให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหว และการสั่นไหวมากๆ
นอกจากนี้ยังมีกล้อง Ultrawide ให้มุมมองที่แปลกตาไม่เหมือนใคร เป็นมุมมองภาพที่กว้างขึ้น และการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยที่ดียิ่งขึ้นด้วย Photonic Engine, แฟลช True Tone ที่ปรับปรุงใหม่สว่างขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ และให้แสงแฟลชที่สม่ำเสมอขึ้น, โหมดภาพยนตร์ที่ตอนนี้มีให้ใช้งานในระดับ 4K ที่ 30 fps และระดับ 4K ที่ 24 fps และ HDR แบบ Dolby Vision ตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งมีเฉพาะบน iPhone
"iPhone 14 Plus" ใช้ชิป A15 Bionic เป็น GPU แบบ 5-core ที่ Apple เคลมว่ายังคงเร็วกว่าคู่แข่งในทุกช่วงราคา ช่วยให้กราฟิกในแอปวิดีโอและการเล่นเกมประสิทธิภาพสูงราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่ง GPU คือเบื้องหลังความทรงพลังของกล้อง เช่น Photonic Engine และโหมดภาพยนตร์ แล้วยังช่วยเรื่องยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
ส่วน CPU แบบ 6-core ใน iPhone 14 Plus ใช้รับมือกับงานหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ Neural Engine แบบ 16-core ก็ดำเนินการได้ถึง 15.8 ล้านล้านรายการต่อวินาที ช่วยให้การประมวลผลด้านการเรียนรู้ของระบบเร็วขึ้น
ความน่าสนใจอีกอย่างคือ "iPhone 14 Plus" จัดการเรื่องน้ำหนักได้ดีขึ้นมาก จนทำให้เครื่องมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด ถ้าถามว่าใครเหมาะกับน้องรองรุ่นนี้ คงเป็นคนที่ยังไม่ต้องการสเปคที่มากกว่าหรือไม่ได้สนใจบางลูกเล่นที่มีในกลุ่ม Pro แต่ยังอยากได้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ที่เต็มตา แต่ในเรื่องการ Handle คงต้องมองเป็นรายบุคคลไป คือขนาดที่ใหญ่ในครั้งนี้ ไม่ได้หนักจนถือลำบาก เพราะฉะนั้น ไม่ว่าผู้ใช้จะบอบบางแค่ไหนก็น่าจะยังสนุกไปกับการหยิบจับและใช้งาน iPhone เครื่องนี้
"iPhone 14 Plus" มีทั้งหมด 5 สี คือ Blue, Purple, Midnight, Starlight และ Product Red ซึ่งสี Product Red พิเศษตรงที่รายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Product Red จะไปสมทบทุนให้กองทุนโลกเพื่อสนับสนุนโครงการเกี่ยวกับโรคเอดส์และการรับมือกับโรคระบาด
ความจุใน iPhone 14 Plus มีให้เลือกทั้ง 128 GB, 256 GB และ 512 GB มีราคาเริ่มต้นที่ 37,900 บาท กำหนดวันวางจำหน่ายคือ 7 ตุลาคม 2565