อินทรีปะทะมังกร! "AirPods Pro 2 vs Huawei FreeBuds Pro 2" ในศึกหูฟังตัวท็อป

ในบรรดาหูฟังตัวท็อปของแบรนด์สมาร์ทโฟน ชื่อชั้นของทั้ง AirPods Pro 2 จากค่ายแอปเปิลและ Huawei FreeBuds Pro 2 จากหัวเว่ย ถูกมองเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในแง่ประสิทธิภาพ แม้จะอยู่กันคนละค่าย และเป็นดีไวซ์ของแบรนด์ที่มี Eco System เป็นของตัวเอง แต่ในการใช้งานจริงทั้งในระบบนิเวศตัวเองไปจนถึงใช้ข้ามค่ายกับอุปกรณ์ Third Party หูฟังทั้งสองรุ่นนี้ก็มีมุมที่น่าเปรียบเทียบกันอยู่มาก

KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะมาวิเคราะห์ให้ฟังเป็นข้อๆ จากการใช้งานจริง ของ "AirPods Pro 2" กับ "Huawei FreeBuds Pro 2" ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกไปจนถึงประสิทธิภาพ

หน้าตาดีคนละแบบ

ตั้งแต่ Case ไปจนถึงตัวหูฟัง ทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันแบบคนละเรื่องเดียวกัน คือ "AirPods Pro 2" จะมีมิติของเคสที่บางกว่า แบนกว่า กะทัดรัดมากกว่า ในขณะที่ "Huawei FreeBuds Pro 2" มีเคสที่อวบอ้วนจ้ำม่ำกว่า แต่ฟังก์ชันต่างๆ รวมทั้งการใช้งานเหมือนกัน ทั้งการเปิดฝาเพื่อเปิดการเชื่อมต่อ หรือปุ่มด้านข้างสำหรับเชื่อมต่อกับดีไวซ์ แต่จุดที่แตกต่างหลักๆ คือ AirPods Pro 2 มีช่องสำหรับใส่สายคล้อง

มาถึงตัวหูฟัง รูปลักษณ์ภายนอกแตกต่างกันสุดขั้ว แน่นอนว่าหูฟังจากฝั่งแอปเปิลจะเน้นความเรียบง่าย ดูสะอาดตา มีความโค้งมนมากกว่า ส่วนฝั่งหัวเว่ยจะมีส่วนเว้ามากกว่า ถ้าในแง่ความสวยงามก็แล้วแต่รสนิยม แต่ในมุมของผลลัพธ์จากดีไซน์ดังกล่าว กลับทำให้รู้สึกว่า AirPods Pro 2 สวมใส่สบายมากกว่า เป็นส่วนหนึ่งกับหูมากกว่า อาจด้วยความเรียบง่ายที่ทำให้ส่วนบอดี้ยื่นออกมาจากหูน้อยกว่า สมดุลของหูฟังจึงมากกว่าอย่างรู้สึกได้

การสวมใส่

สิ่งที่ "AirPods Pro 2" เพิ่มเติมมาจากรุ่นก่อน คือจุกยางหูฟังขนาดเล็กพิเศษ (XS) ซึ่งหลายคนจะเข้าใจว่าจุกยางเล็กๆ นี้จะออกแบบมาเพื่อคนที่หูเล็กหรือผู้หญิง แต่อันที่จริงแล้ว ชายหนุ่มร่างใหญ่อย่างผู้รีวิวกลับถูกจริตกับจุกยางไซส์ XS นี้ เพราะรูหูไม่ได้ใหญ่ตามตัว หลายคนก็น่าจะเป็นเหมือนกัน

ส่วน "Huawei FreeBuds Pro 2" ก็มีจุกยางหลายขนาดมาให้เปลี่ยนตามความเหมาะสมเช่นกัน ซึ่งเมื่อเปลี่ยนเป็นขนาดเล็กที่สุดที่ให้มาก็ถือว่าสวมใส่ได้เข้าหูพอสมควร โดยเมื่อเทียบกัน AirPods Pro 2 จะรู้สึกกระชับมากกว่าเล็กน้อย

แล้วความกระชับนี้มีผลดีอย่างไร อย่างแรกคือช่วยให้ใช้งานได้คล่องตัว ไม่ร่วงหล่นขณะใช้งานไม่ว่าจะเดิน วิ่ง หรืออิริยาบถใดๆ เพราะก่อนหน้านี้การใช้หูฟังที่ไม่กระชับก็ไม่ต่างจากเพิ่มภาระของหู

อีกประการคือเพื่อคุณภาพของเสียงที่ได้ยิน เพราะยิ่งกระชับมากเท่าไร เสียงที่ได้ยินจากหูฟังก็จะชัดเจน ขณะเดียวกันเสียงรบกวนจากภายนอกก็จะเข้ามาได้น้อยด้วย

คาแรกเตอร์เสียง

เรื่องคาแรกเตอร์เสียงเป็นเรื่องของรสนิยม ความชอบส่วนบุคคล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหูฟังแต่ละรุ่นมีบุคลิกเสียงของตัวเอง สำหรับคาแรกเตอร์ของ "AirPods Pro 2" คือความคมชัด หนักแน่น มีความเป็นกลาง คือจะย่านเสียงแบบไหนก็ทำได้ค่อนข้างดี

สำหรับ "Huawei FreeBuds Pro 2" จะโดดเด่นเรื่องเสียงใสๆ แนวสะอาดๆ เก็บรายละเอียดย่านเสียงสูงทำได้ดีมาก ซึ่งคงคาแรกเตอร์ของ Devialet แบรนด์เครื่องเสียงสัญชาติฝรั่งเศสที่จับมือกับ Huawei พัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มลำโพงและหูฟังของแบรนด์ รวมถึงในรุ่นนี้ด้วย

ในประเด็นนี้ถือว่าไม่มีใครเหนือกว่าใคร เพราะเป็นเรื่องรสนิยมและที่สำคัญคือจุดหลักอย่างความคมชัด รายละเอียดเสียง ก็ทำได้ดีมากทั้งสองรุ่น

การใช้งานโดยรวม

ต้องบอกว่าหูฟังทั้งสองรุ่นใช้งานเหมือนกันแบบถอดกันมา ทั้งการกดปุ่มที่ตัวหูฟังเพื่อเล่นหรือหยุดเพลง, การแตะนิ้วบริเวณก้านหูฟัง เลื่อนขึ้นลงเพื่อเพิ่มและลดเสียง หรือกดปลายก้านค้างเพื่อเปลี่ยนโหมดระหว่าง Active Noise Cancellation กับ Awareness

ซึ่งในโหมด Active Noise Cancellation คือจุดแตกต่างอีกจุด เพราะหลังจากทดลองฟังเพลงจากหูฟังทั้งสองรุ่น ปรากฏว่า ANC ใน "AirPods Pro 2" ปิดกั้นเสียงรบกวนจากภายนอกได้มากกว่าพอสมควร แม้ทั้งสองรุ่นจะไม่ได้ตัดเสียงจนเงียบสนิทชนิดหูดับ แต่ก็สร้างโลกส่วนตัวให้ผู้ใช้งานได้ดีทั้งคู่

การใช้งานข้ามค่าย

คงไม่ต้องกล่าวถึงการใช้งานในระบบนิเวศเดียวกันของแบรนด์ เพราะทั้งสองรุ่นเชื่อมต่อและใช้งานร่วมกับดีไวซ์ตัวเองได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว แต่สำหรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์แบรนด์อื่นๆ นอกค่าย พบว่าการใช้ "Huawei FreeBuds Pro 2" ร่วมกับสมาร์ทโฟนแบรนด์ต่างๆ เช่น iPhone 14 Plus, Samsung Galaxy S22 Ultra และ Samsung Galaxy Z Fold4 กับการฟังเพลงไม่มีปัญหา แต่กับการเล่นเกมซึ่งต้องไม่ดีเลย์ เพราะทุกเสี้ยววินาทีคือตัดสินแพ้ชนะได้เลย กลับเจอปัญหาเสียงดีเลย์พอสมควร เช่น กับเกม PUBG Mobile ผู้รีวิวถูกยิงตายทั้งที่ยังไม่ทันได้ยินเสียงปืนเลยทีเดียว

ส่วน "AirPods Pro 2" ใช้ข้ามค่ายไปยังอุปกรณ์ค่ายอื่น ทั้ง Huawei Mate X2, Samsung Galaxy S22 Ultra, Samsung Galaxy Z Fold4 และ Honor 70 ก็ทำนองเดียวกัน คือใช้งานทั่วไปไม่มีปัญหา แต่เสียงดีเลย์บ้างในการเล่นเกม หมายความว่าถ้าใช้เพื่อเล่นเกม แนะนำให้ใช้หูฟังแบรนด์ค่ายจะดีที่สุด

ความคุ้มค่า

เมื่อมองในเรื่องความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคา ด้วยความที่ทั้งสองรุ่นเป็นหูฟังไร้สายตัวท็อป (ในกลุ่ม Earbud) ราคาของ "Huawei FreeBuds Pro 2" ดูจะดึงดูดมากกว่า คือ 6,499 บาท ส่วน "AirPods Pro 2" อยู่ที่ 8,990 บาท

แต่จะลืมไม่ได้ว่า AirPods Pro 2 มีฟีเจอร์ที่มากกว่าในบางเรื่อง เช่น รองรับการชาร์จแบบไร้สายแบบ MagSafe

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ใช้งานของทั้งสองแบรนด์ควรจะมองหูฟังในค่ายตัวเองก่อน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เพราะยังมีฟีเจอร์ต่างๆ การปรับตั้งค่าต่างๆ ที่ทำได้ในแอปพลิเคชันของค่ายตัวเองอยู่ด้วย