‘ทีเคเอส - ซินเน็ค’ ผนึกกำลังดันธุรกิจสู่ 'เบอร์ 1 ไอที อีโคซิสเต็ม'
“ทีเคเอส” กางแผนธุรกิจปี 66 ผนึกกำลัง “ซินเน็ค” ดันธุรกิจสู่เบอร์ 1 ไอทีอีโคซิสเต็ม เปิดดีลใหญ่ประเดิมต้นปี เตรียมเข้าลงทุนในเอไอทีต่อยอดบริการด้านเอสไอ ซินเน็คประเมินปีนี้ไอทีไทยยังสดใส เล็งเพิ่มพันธมิตร สินค้า บริการ ดันธุรกิจเติบโต พร้อมทำนิวไฮต่อเนื่อง
นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตในปี 2566 จะอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ “Tech Ecosystem Builder”
โดยมุ่งขยายการลงทุนในธุรกิจกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง พร้อมผนึกกำลังกับบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในเครือเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ต่อยอดการเติบโตธุรกิจในหลายมิติ ปัจจุบันมีการเจรจาอยู่หลายราย นอกจากนั้นได้เตรียมงบการลงทุนไว้ราว 300 ล้านบาท สำหรับลงทุนในกิจการย่อยอื่นๆ เช่นสตาร์ทอัปด้วย
ล่าสุด เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT จำนวน 280 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 21.03% เมื่อรวมกับที่ถืออยู่เดิมจะถือหุ้นใน AIT ที่ 22.48%
บริษัทเชื่อว่าการเข้าลงทุนในเอไอทีจะช่วยสนับสนุนการเติบโตนอกเหนือจากสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรยังสามารถขยายขอบเขตการลงทุนและกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างธุรกิจผู้รับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (เอสไอ) ให้บริการในกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยมีลักษณะการขายเป็นแบบเบ็ดเสร็จ หรือ เทิร์นคีย์ ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวางแผนงาน การออกแบบระบบงาน การดำเนินการติดตั้ง การฝึกอบรม และการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมที่ทางกลุ่มบริษัทได้ดำเนินการอยู่แล้ว และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัท มั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนได้
ปี 2566 เชื่อว่าทีเคเอสจะมีการเติบโตที่ดี แม้จะมียอดขายบางส่วนลดลงแต่บางกลุ่มก็เพิ่มขึ้น ตั้งเป้าไว้ว่ารายได้จะเติบโตได้ราว 10% และในปีนี้หากมีการเลือกตั้ง บริษัทคาดว่ามีโอกาสที่จะได้รับงานพิมพ์บัตรเลือกตั้งด้วย
นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ซินเน็คไม่ได้ต้องการเป็นเพียงแค่ดิสทริบิวเตอร์เบอร์ 1 แต่มุ่งเป็น “เบอร์ 1 ไอที อีโคซิสเต็ม” ในประเทศไทย นอกจากสินค้า มีบริการที่ครบวงจร ขณะเดียวกันเดินหน้าขยายฐานตลาดและบิสิเบสโมเดลใหม่ๆ นอกจากลูกค้าระดับกลางและระดับเล็กที่แข็งแรงอยู่แล้ว จากนี้เตรียมขยายตลาดไปสู่องค์กรขนาดใหญ่มากขึ้น
ปัจจุบัน มีสินค้าและบริการครอบคลุมทั้งด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ บิสิเนสโซลูชัน ซิเคียวริตี้โซลูชัน รวมไปถึงบริการทางการเงิน และจากนี้ยังมองหาโอกาสกับดีลใหม่ๆ การควบรวมกิจการเพื่อ เสริมความแข็งแรงและขยายอีโคซิสเต็ม เบื้องต้นที่มองไว้เช่น ตลาดเกมมิ่ง
บริษัทตั้งเป้าว่าในปีนี้จะเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลักและทำสถิติสูงสุดใหม่ จากอีโคซิสเต็มที่แข็งแรงมากขึ้น รวมไปถึงความร่วมมือใหม่ๆ ซึ่งทำให้มีโอกาสนำสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดได้มากขึ้น โดยภาพรวมการเติบโตจะมาจากทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์และตลาดองค์กร ที่โดดเด่นคือกลุ่มคอมเมอร์เชียลและอีสปอร์ต
ซินเน็คมีแบรนด์ที่ทำตลาดอยู่ประมาณ 70 แบรนด์ชั้นนำ มีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 6,000 ราย และมีศูนย์บริการและพันธมิตรกว่า 75 แห่ง
“เราเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ และจุดเปลี่ยนต่างๆ ทั้งในทางเศรษฐกิจ และพฤติกรรมของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์ การเข้าถึงดิจิทัลแพลตฟอร์ม สมาร์ทดีไวซ์ การทำงานแบบไฮบริด การเติบโตของตลาดเกม และไซเบอร์ซิเคียวริตี้”
ปี 2566 จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ซินเน็คจะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียล จากการขายแบบเดิมไปสู่การนำเสนอแบบ Solution-Based ที่ตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น
สำหรับความร่วมมือระหว่างทีเคเอสซึ่งเป็นบริษัทแม่ของซินเน็คและเอไอที เป็นอีกดีลที่จะเข้ามาสนับสนุนให้ซินเน็คขยายบริการไปยังกลุ่มธุรกิจเอสไอให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งเป็นโอกาสบุกตลาดใหม่ๆ ที่มีการเติบโต ตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน
พร้อมประเมินว่า อุตสาหกรรมไอทีไทยปีนี้มีทิศทางที่ดี แม้สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายแต่วิถีชีวิตผู้คนได้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม องค์กรเองเห็นถึงความสำคัญและพร้อมลงทุนด้านเทคโนโลยีมากขึ้น