ไทยติด ‘ท็อป3’ ผู้บริหารมุ่งธุรกิจสู่ความยั่งยืน - จับตา 'ฟอกเขียว' ระบาด !!
“กูเกิล” เผยผลสำรวจระดับโลก ระบุไทยติดท็อป 3 ประเทศที่ผู้บริหารให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน ชี้ ESG คือกลไกสำคัญขับเคลื่อนอนาคตองค์กร แนะปรับโครงสร้าง ดึงเครื่องมือเทคโนโลยียุคใหม่อย่าง 'คลาวด์ เอไอ แมชชีนเลิร์นนิง' เพิ่มความสำเร็จไปสู่จุดหมายได้เร็วขึ้น
Key points :
- ไทยติด 1 ใน 3 ประเทศที่ผู้บริหารให้ความสำคัญ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ESG)
- ผู้บริหาร 84% เชื่อว่า การยืดเวลาออกไปหรือลดระดับความสำคัญเป้าหมายความยั่งยืนจะส่งผลเสียต่อมูลค่าขององค์กร
- จับตาประเด็น 'ฟอกเขียว' สร้างภาพว่า รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมขององค์กรกำลังเป็นปัญหาที่แพร่หลายในหมู่ผู้บริหารในประเทศไทย
ผลสำรวจด้านความยั่งยืนระดับโลกของ “กูเกิล คลาวด์” หนึ่งใน 3 ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลก ระบุว่า 'ESG' กำลังทวีความสำคัญอย่างมากกับธุรกิจไทย การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนกำลังเป็นโรดแมปหลักขององค์กรธุรกิจ แต่ปัญหาการฟอกเขียว หรือการสร้างภาพว่ารับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าของความยั่งยืน
นางสาวเอพริล ศรีวิกรม์ ผู้อำนวยการ กูเกิล คลาวด์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยติด 1 ใน 3 ประเทศที่ผู้บริหารให้ความสำคัญในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ESG) เป็นอันดับ 1 แม้ว่าจะมีปัจจัยทางเศรษฐกิจเข้ามาเป็นอุปสรรคในการดำเนินงานก็ตาม โดยตลาดอีกสองแห่ง คือ สิงคโปร์ และเยอรมนี
ปัจจุบันความยั่งยืนถือเป็นปัญหาหลักขององค์กร ผลสำรวจในประเทศไทย ระบุว่า ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ หรือราว 85% ตระหนักดีว่าลูกค้ามีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมและทำธุรกิจกับแบรนด์ที่ตระหนักถึงความยั่งยืน
ขณะที่ ผู้บริหาร 84% เชื่อว่า การยืดเวลาออกไปหรือลดระดับความสำคัญของเป้าหมายด้านความยั่งยืนจะส่งผลเสียต่อมูลค่าขององค์กร
อย่างไรก็ตาม 59% กล่าวว่า การดำเนินงานของผู้นำองค์กรไม่สอดคล้องกับการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนอย่างเต็มที่ เงื่อนไขทางเศษฐกิจที่ไม่แน่นอนส่งผลให้ 76% ของผู้บริหารเหล่านี้เผชิญความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทในขณะที่ดำเนินธุรกิจด้วยงบประมาณที่น้อยลงกว่าเดิม
ผู้บริหารชี้ว่า การขาดการปรับแนวทางของผู้นำและภาวะเศรษฐกิจระดับมหภาค เป็นสาเหตุของการถดถอยในความพยายามด้านความยั่งยืนขององค์กร ขณะเดียวกันเหล่าผู้บริหารถูกกดดันในเรื่องการให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายได้และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
แก้ปัญหาด้วยการ ‘สร้างภาพ’
ข้อมูลจากกูเกิล ระบุว่า การฟอกเขียว (Greenwashing) และการสร้างภาพว่า รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมขององค์กรกำลังเป็นปัญหาที่แพร่หลายในหมู่ผู้บริหารในประเทศไทยด้วย โดยเกือบ 7 ใน 10 หรือ 69% ของผู้ตอบแบบสำรวจในประเทศไทย กล่าวว่า องค์กรของตนกล่าวเกินจริง หรือนำเสนออย่างไม่ถูกต้องเกี่ยวกับผลกระทบของโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืน
ผู้บริหารกว่า 83% เชื่อว่าการฟอกเขียวเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น เช่น เมื่อบริษัทไม่สามารถวัดผลลัพธ์หรือความคืบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มักจะกล่าวเกินจริงถึงความพยายามด้านความยั่งยืนของตน
“การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนสำคัญอย่างยิ่งกับธุรกิจไทย แต่ปัญหาการฟอกเขียวและปัจจัยทางเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน”
ดังนั้น องค์กรจำเป็นต้องมีระบบที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่ให้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงเพื่อช่วยให้องค์กรเข้าใจถึงวิธีการใช้ความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืน ที่จะสามารถขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด และวัดความก้าวหน้าได้อย่างถูกต้อง
ผู้บริหารในไทยกว่า 63% มีโปรแกรมการวัดผลสำหรับความพยายามด้านความยั่งยืนอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงที่สุดจากตลาดทั้งหมดที่ได้สำรวจ เมื่อเทียบกับผู้ร่วมแบบสำรวจทั่วโลกที่ 37% โดยผู้บริหาร 67% เชื่อว่าการเข้าถึงเครื่องมือวัดผลขั้นสูงจะมีส่วนช่วยอย่างมากในการพัฒนาความพยายามด้านความยั่งยืนขององค์กรให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
‘เทคโนโลยี’ หนทางสู่การเติบโต
กูเกิล ระบุว่า นอกเหนือจากการวัดผลที่แม่นยำแล้ว องค์กรจำเป็นต้องทบทวนโครงสร้างและโปรแกรมการเสริมสร้างทักษะที่มีอยู่ใหม่เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน
นอกเหนือจากการปรับแนวทางที่จำเป็นสำหรับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่จะช่วยตัดสินใจเกี่ยวกับความยั่งยืนขององค์กร ผู้บริหารในประเทศไทย ยังต้องมีวิธีการที่คล่องตัวและการสร้างความสามารถภายใน ซึ่งอาจเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับความสำเร็จ
ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่า 9 ใน 10 ในประเทศไทย (96%) เชื่อว่าจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นได้ หากบริษัทนำแนวทางการทำงานข้ามสายงานมาปรับใช้ แทนการมีทีมงานด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะ 61% มองหาความรู้ที่เกี่ยวข้อง และ 45% เข้าถึงบุคลากรที่มีความสามารถที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาความพยายามด้านความยั่งยืนของบริษัท
ทั้งนี้ องค์กรต่างๆ สามารถระดมทีมบุคลากรที่มีความสามารถที่มีอยู่เพื่อออกแบบและดำเนินการริเริ่มด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืน โดยนำทักษะอื่นๆ หรือทักษะข้ามสายงานที่พนักงานเหล่านี้มีอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในด้านต่างๆ เช่น สถาปัตยกรรมคลาวด์, การวิเคราะห์ข้อมูล, เอไอ และแมชชีนเลิร์นนิง ฯลฯ
“เทคโนโลยีคือหนทางสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน จากประสบการณ์เมื่อมีการนำเครื่องมืออัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมาปรับใช้มีส่วนช่วยให้ผู้บริหารธุรกิจเห็นว่าผลประกอบการทางการเงินและการปฏิบัติตามความรับผิดชอบด้าน ESG นั้นไม่สูญเปล่า”
ปัจจุบัน กูเกิล คลาวด์ สนับสนุนองค์กรในประเทศไทย ด้วยการใช้งานระบบคลาวด์ที่สะอาดที่สุดในอุตสาหกรรมองค์กรต่างๆ เช่น ยิ้ม แพลตฟอร์ม (Yim Platform) ของเซ็นทรัล รีเทล , โรบินฮู้ด (Purple Ventures: Robinhood) ของ SCBX Group และ EVme ของกลุ่มบริษัท ปตท. เป็นลูกค้าของ กูเกิล คลาวด์ ที่มีส่วนช่วยให้องค์กรดำเนินการลดคาร์บอนของโครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชันดิจิทัล ทั้งบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนตามคำมั่นขององค์กร
อย่างไรก็ตาม กูเกิล มองว่า ความยั่งยืนถือเป็นปัญหาหลักขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงและคุณภาพของอากาศ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เป็นต้น แบบสำรวจความยั่งยืนประจำปีครั้งนี้ มีการสำรวจผู้บริหารระดับสูงกว่า 1,476 คนจากตลาด 16แห่ง ประกอบด้วยตลาด 4 แห่งในเอเชีย ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน และประเทศไทย