ความภูมิใจของสายรุ้ง! "Apple Watch รุ่น Pride Edition" นาฬิกาเพื่อชาว LGBTQ+
Apple เปิดตัวสายแบบ Sport Band รุ่น Pride Edition ใหม่ซึ่งมาพร้อมกับหน้าปัดนาฬิกาและวอลล์เปเปอร์ iOS ที่เข้าคู่กัน เพื่อเฉลิมฉลองให้ชุมชน LGBTQ+ ทั่วโลก รับเดือน Pride Month ที่จะถึงนี้
เป็นประจำที่เมื่อใกล้ถึงเดือนมิถุนายนหรือเป็น Pride Month ของชาว LGBTQ+ นาฬิกา Apple Watch จะออกคอลเลกชันพิเศษ ในปีนี้ Apple Watch รุ่น Pride Edition ใหม่จึงเป็นตัวแทนของความภาคภูมิใจในการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมของคนทุกเพศทั่วโลก
ดีไซน์ของสายแบบ Sport Band ใหม่ของ Apple Watch รุ่น Pride Edition ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความแข็งแกร่งและความงาม แสดงให้เห็นถึงสีรุ้งซึ่งเป็นสีดั้งเดิมของธง Pride และสีอื่นๆ อีก 5 สี ได้แก่ สีดำ น้ำตาล อันเป็นสัญลักษณ์ของชุมชนชาวผิวดำและชาวละติน อีกทั้งยังเป็นสีของผู้ที่เสียชีวิตหรือต้องใช้ชีวิตอยู่กับโรค HIV/AIDS และยังมีสีฟ้าอ่อน สีชมพู และสีขาว ซึ่งแสดงถึงคนข้ามเพศและผู้ที่เป็นนอนไบนารี
Apple Watch รุ่น Pride Edition เกิดขึ้นจากการผสมผสานรูปทรงเรขาคณิตในสีรุ้งสดใสเข้ากับฐานที่เป็นสีขาว แล้วนำมาผ่านกระบวนการขึ้นรูปให้เป็นสายนาฬิกา โดยในกระบวนการขึ้นรูปนี้ วัสดุที่ใช้เป็นฐานจะไหลไปห้อมล้อมรูปทรงต่างๆ ทำให้เกิดเป็นเลย์เอ้าท์ที่แตกต่างและหลากหลาย สายนาฬิกาแต่ละสายจึงแตกต่างกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของแต่ละคนที่แตกต่างกันในชุมชนชาว LGBTQ+
ส่วนหน้าปัดนาฬิกาและวอลล์เปเปอร์ iOS รุ่น Pride Celebration ใหม่ เป็นการให้เกียรติแก่ความแข็งแกร่งและการสนับสนุนซึ่งกันและกันของชุมชน LGBTQ+ โดยรูปทรงสีสันสดใสจะปรากฏเป็นรูปวงกลมซึ่งหมุนจากสายเข้าสู่หน้าจอของนาฬิกา และจะตอบสนองเมื่อผู้ใช้ยกและเคลื่อนไหวข้อมือหรือแตะที่หน้าจอ
ส่วนวอลล์เปเปอร์ซึ่งสัมพันธ์กันก็เป็นอีกหนึ่งการตีความอันเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของการออกแบบรุ่น Pride ในปีนี้ ซึ่งจะเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเมื่อผู้ใช้ปลดล็อก iPhone ของตัวเอง
สายแบบ Sport Band รุ่น Pride Edition จะพร้อมให้สั่งซื้อบน apple.com/th และในแอป Apple Store ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ และจะมีจำหน่ายที่ร้าน Apple Store ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมในราคา 1,800 บาท มีขนาด 41 มม.และ 45 มม. ใช้ได้กับ Apple Watch Series 3 และใหม่กว่า
สำหรับหน้าปัดนาฬิกาและวอลล์เปเปอร์ iPhone รุ่น Pride Celebration ใหม่ จะพร้อมให้บริการในเร็วๆ นี้ และต้องใช้ watchOS 9.5 และ iOS 16.5