ปั้นแผน "คลาวด์รัฐ" วางงบ 2,200 ล้านบาท

ปั้นแผน "คลาวด์รัฐ" วางงบ 2,200 ล้านบาท

สดช.ลุยจัดระเบียบพื้นที่จีดีซีซี ระบุหน่วยงานรัฐใดไม่เคยใช้นาน 3 คืนต้องถูกเวนคืน หลังปูทางให้เกิดการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมชงของบครม.กว่า 2,200 ล้านบาทต่อปี

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เปิดเผยว่า แผนงานโครงการพัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ หรือ จีดีซีซี ปี 2566-2568 ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไปแล้ว โดยจะให้บริการกับหน่วยงานรัฐประมาณ 25,000 วีเอ็ม ใช้งบประมาณปีละ 2,200 ล้านบาท แต่ทางสำนักฯ งบประมาณ ได้จัดสรรให้เพียงครึ่งเดียว หรือประมาณ 1,100 ล้านบาท

จึงได้ของบประมาณจากทางกองทุนดีอีสนับสนุนงบอีก 700 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีหน่วยงานรัฐแจ้งความต้องการใช้งานเข้ามาถึง 40,000 วีเอ็ม ขณะที่ปัจจุบันโครงการฯสามารถรองรับได้ประมาณ 30,000 วีเอ็ม เท่านั้น

“ แม้จะมีหน่วยงานรัฐต้องการใช้มาก แต่ สดช.จะมีการสำรวจการใช้งานว่า หน่วยงานที่ขอหรือจองพื้นที่ไว้ แต่ไม่ใช่เคยใช้ในระยะ 3 เดือน ก็จะมีการเรียกพื้นที่คืน รวมถึงข้อมูลแต่ละหน่วยงานที่นำมาเก็บ ในคลาว์ดกลางภาครัฐ ต้องเป็นข้อมูลที่สำคัญ สามารถนำข้อมูลไปเชื่อมโยงหรือบูรณการกับเหน่วยงานอื่นๆ ได้ หากเป็นข้อมูลไม่สำคัญ เช่น รูปภาพ วีดีโอ กล้องซีซีทีวี ก็ให้แต่ละหน่วยงานดำเนินการจัดเก็บในเซิร์ฟเวอร์ ของหน่วยงานตนเอง เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐได้ใช้งคลาว์ดกลางภาครัฐได้อย่างทั่วถึง”

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้สดช.หารือกับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบในการจัดทำ จีดีซีซี มาร์เก็ตเพรส เพื่อให้บริการนำร่อง 10 บริการ ที่มุ่งเน้นการเสริม ประสิทธิภาพ การทำงาน ของภาครัฐ และเป็นบริการที่ผ่านการสำรวจ แล้วว่าแต่ละหน่วยงานมีความต้องการใช้ อาทิ Optical Character Recognition หรือ บริการแปลงภาพตัวอักษรเป็นข้อความซึ่งช่วยลดขั้นตอนกระบวนการทำงานด้านเอกสารในการแปลงเอกสารดิจิทัลของภาครัฐ ให้ข้อความถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิทัลอย่างเป็นระบบด้วยความถูกต้องแม่นยำปลอดภัย และเชื่อมต่อ API กับระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ได้

นอกจากนี้ ยังมีบริการกลุ่มบิ๊กดาต้า เซอร์วิส ครบวงจรที่ให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ บิ๊กดาต้าภาครัฐ อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น บริการด้านฐานข้อมูลเปิดแบบสร้างอัตโนมัติ ช่วยให้หน่วยงานพัฒนาฐานข้อมูลได้สะดวกด้วยซอฟต์แวร์โปรแกรมในรูปแบบ SQL โดยไม่ต้องทำการติดตั้งโปรแกรมเอง, บริการระบบบัญชีข้อมูล (Data Catalog Platform) สำหรับจัดแสดงรายการคำอธิบาย และจัดกลุ่มประเภทข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของหน่วยงานต่างๆ เพื่อความสะดวกในการสืบค้นและร้องขอข้อมูล รวมถึงบริการ Data Analytic Platform/Tools ที่เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ฯลฯ

“ทาง สดช.มั่นใจว่า จีดีซีซี มาร์เก็ตเพรส จะช่วยให้ภาครัฐสามารถใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มต่างๆ ในการพัฒนางาน ดิจิทัลขององค์กร อย่างครอบคลุม รองรับการทำงานของหน่วยภาครัฐที่เปลี่ยนผ่านสู่องค์กรดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายภุชพงค์ กล่าว