TikTok บูม Shoppertainment ชิงขุมทรัพย์ 1 ล้านล้านดอลล์
งานวิจัยโดย “บีซีจี” พบว่า เทรนด์การสร้างประสบการณ์ความบันเทิงในระหว่างการชอปปิงหรือ “Shoppertainment” จะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2568
สำหรับประเทศไทย เห็นถึงโอกาสการเติบโตมูลค่าสูงถึง 1.24 หมื่นล้านดอลล่าร์ เทรนด์ใหม่แห่งการชอปปิงที่เปิดโอกาสครั้งใหญ่ให้กับธุรกิจ
สิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing TikTok ประเทศไทย กล่าวว่า Shoppertainment ได้กลายมาเป็นยุคใหม่ของการขายออนไลน์ ขณะเดียวกันมีส่วนสำคัญที่ช่วยปลดล็อคโอกาสทางธุรกิจทั่วทั้งภูมิภาครวมถึงในประเทศไทย
ผลการวิจัยล่าสุด โดยความร่วมมือระหว่าง TikTok และ Boston Consulting Group (BCG) พบว่า ผู้ใช้ TikTok ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสูงถึง 81% กล่าวว่า คอนเทนต์วีดิโอที่ได้รับชมมีอิทธิพลต่อการซื้อสินค้าในครั้งล่าสุดของพวกเขา
เช่น #TikTokMadeMeBuyIt ที่มียอดการรับชมกว่า 6 หมื่นล้านครั้ง เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีอิทธิพลอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19
ขณะที่ #TikTokป้ายยา ในประเทศไทย มียอดการรับชมกว่า 1.5 พันล้านครั้ง ภายในไม่กี่เดือนหลังการเปิดตัวแคมเปญ
สร้างแรงสั่นสะเทือนทั่วโลก
สิรินิธิ์บอกว่า ความบันเทิงบนแพลตฟอร์ม TikTok ผลักดันให้เกิดการค้นพบสินค้าใหม่ๆ จนเกิดเป็นวัฒนธรรมของการค้นพบสินค้าผ่านการแนะนำที่ได้รวบรวมคอมมูนิตี้ความบันเทิง และช่องทางในการซื้อสินค้าเข้าไว้ด้วยกัน
ปัจจุบัน ผู้บริโภคมีความต้องการที่จะค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้คุณค่ากับการแสดงออกซึ่งความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล ขณะเดียวกันมองหาประสบการณ์การชอปปิงที่ลื่นไหล ไร้รอยต่อ โดยคอนเทนต์เพียงชิ้นเดียวสามารถกลายเป็นกระแสนิยมได้อย่างรวดเร็ว และสามารถกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้าได้ในระดับโลก
บนแพลตฟอร์ม TikTok มีผู้ใช้งาน กว่า 325 ล้านคนในแต่ละเดือน ธุรกิจทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมแล้วกว่า 15 ล้านราย
จับกระแสฮิตนักช้อป
ผลสำรวจของ Toluna พบด้วยว่าในประเทศไทย 97% ของผู้ใช้ TikTok มีการจับจ่ายใช้สอยในเทศกาล Mega Sales หลังการรับชมโฆษณาบน TikTok
โดยผู้ใช้งานมีความพร้อมที่จะใช้จ่ายในเทศกาลดังกล่าวสูงกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้งาน TikTok ถึง 3.5 เท่า คิดเป็นจำนวนเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 - 17,600 บาท
ปีที่ผ่านมา พบว่า จาก 80% ของผู้ใช้ซื้อสินค้าบน TikTok Shop ประเภทสินค้ายอดนิยมบนแพลตฟอร์ม 3 อันดับแรก ได้แก่ สินค้าประเภทแฟชั่นและเครื่องประดับ (55%) สินค้าประเภทความสวย ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย (46%) และ สินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม (40%)
ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการซื้อสินค้าของผู้ใช้ในช่วงการลดราคาครั้งใหญ่ ได้แก่ การส่งฟรี คูปองและส่วนลด และการชำระเงินปลายทาง (COD)
ดังนั้น เทศกาล Mega Sales ที่กำลังจะมาถึง ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับแบรนด์ เพราะผู้บริโภคเตรียมพร้อมที่จะตอบรับกับข้อเสนอที่ดีที่สุดในการชอปปิง ถึงเวลาแล้วที่แบรนด์จะได้ทดลอง เรียนรู้ และปรับใช้โซลูชั่นต่างๆ ที่จะช่วยผลักดันการเติบโตและการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
พลิกโฉมธุรกิจค้าปลีก
จากข้อมูลที่ TikTok ได้สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภค ทำให้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค 3 ประเด็นได้แก่ การสร้างคอนเทนต์ความบันเทิงเพื่อปิดการขาย, ผู้บริโภคตั้งคำถามและมีความลังเลมากขึ้นเมื่อรับชมโฆษณา และ ถึงเวลาที่จะจุดประกาย Shoppertainment บน TikTok เพื่อที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจ
การสร้างคอนเทนต์ความบันเทิงเพื่อปิดการขาย : ปัจจุบัน การซื้อสินค้าถูกขับเคลื่อนด้วยคอนเทนต์ความบันเทิง จากผลวิจัยพบว่า 77% ของผู้บริโภค ซื้อสินค้าจากอิทธิพลของคอนเทนต์ที่สร้างความสนุกสนานบันเทิง ขณะที่ 2 ใน 3 ของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าครั้งแรก ตัดสินใจซื้อสินค้าจากความต้องการทางอารมณ์และจิตใจ (emotional demands)
ผู้บริโภคตั้งคำถามและมีความลังเลมากขึ้นเมื่อรับชมโฆษณา : เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จากผลวิจัยพบว่า 6 ใน 10 ของผู้บริโภคกล่าวว่า การรับชมคอนเทนต์ของแบรนด์ (branded content) ไม่ได้กระตุ้นให้พวกเขาต้องการซื้อสินค้า ขณะเดียวกัน 34% ของผู้บริโภคตั้งคำถามเกี่ยวกับคอนเทนต์ของแบรนด์ (branded content) และนั่นทำให้พวกตัดสินใจไม่ซื้อสินค้านั้นๆ
ถึงเวลาที่จะจุดประกาย Shoppertainment บน TikTok : เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและเชื่อมโยงกับผู้บริโภคจึงถึงเวลาที่จะผลักดันศักยภาพในการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มผ่านการใช้ Shoppertainment บน TikTok
ผลวิจัยแสดงให้เห็นว่า 70% ของผู้บริโภคเชื่อในคอนเทนต์บน TikTok ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจซื้อสินค้า และ 1 ใน 4 ของผู้บริโภคบน TikTok พิจารณาซื้อสินค้าบน TikTok Shop เพราะคอนเทนต์ความบันเทิงจากเหล่าครีเอเตอร์ ผู้มีชื่อเสียง และแบรนด์