เริ่มแล้วสมรภูมิ "Nothing Phone 2" ศึกชิง 100 เครื่องแรกของมือถือสุดไฮป์
ส่องความน่าสนใจของแบรนด์ "Nothing" ที่กำลังเป็นกระแสด้วยสมาร์ทโฟนสุดไฮป์ "Nothing Phone 2" ที่อาจเขียนหน้าประวัติศาสตร์ซ้ำจากครั้งก่อน ด้วยการขายแบบพรีเมียม ลิมิเต็ด จนดันให้กลายเป็นสมาร์ทโฟนขวัญใจคนคูล
เมื่อ 11.00 น. คือนาทีประวัติศาสตร์อีกครั้งของวงการสมาร์ทโฟนในประเทศไทย กับการวางจำหน่าย Nothing Phone 2 แบบ Limited Drop ที่ Carnival HQ Siam Square ซอย 7 ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 100 เครื่องแรกของไทย และยังเพิ่มความไฮป์ด้วยความพิเศษสุดพรีเมียมที่มีเฉพาะ 100 คนแรกเท่านั้นที่จะได้ครอบครอง
การวางจำหน่ายแบบ Limited Drop ของ "Nothing Phone 2" ลูกค้า 100 คนแรกจะได้รับสินค้าสุดพิเศษ ได้แก่ เสื้อ หมวก กระเป๋า และสติกเกอร์ จากทาง Nothing ที่มีสลักเลขลำดับ 001 ถึง 100 และยังมีสิทธิ์ลุ้นรับหูฟังNothing Ear 2 และอุปกรณ์เสริมสุดพิเศษอีกด้วย
หลายคนอาจยังไม่รู้จักแบรนด์ "Nothing" ที่สั่นสะเทือนวงการสมาร์ทโฟนในแบบที่ไม่ต้องไปฟาดฟันในสงครามสมาร์ทโฟนแบรนด์จีน เกาหลี หรืออเมริกา แต่ใช้วิธีสร้างอัตลักษณ์และเพิ่มกิมมิกเข้าไปจนกลายเป็น Gadget ที่หลายคนปรารถนา
"Nothing" เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในลอนดอน เกิดจากการระดมทุนจาก Tony Fadell, Casey Neistat Kevin Lin, Steve Huffman และนักลงทุนเป็นจำนวนเงิน 7 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2020 เพื่อคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของNothing ด้วยแนวคิดว่าจะกำจัดอุปสรรคระหว่างคนกับเทคโนโลยีออกไป และสร้างอนาคตของดิจิทัลที่ไร้รอยต่อ
ต่อมาในปี 2021 Google Ventures หรือ GV เข้ามาร่วมลงทุนกับ Nothing ด้วยงบ 15 ล้านดอลลาร์ และได้เปิดตัว Teenage Engineering ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพร้อมกับ Tom และ Jesper ผู้อยู่เบื้องหลังจากออกแบบผลิตภัณฑ์ของแบรนด์
ความเหนือชั้นของ Nothing การันตีด้วยระยะการระดมทุน 1 ล้านดอลลาร์ครั้งแรกเพียง 54 วินาที จนนับได้ว่าเป็นการระดมทุน 1 ล้านดอลลาร์ที่เร็วที่สุดผ่านคราวด์ฟันดิงในยุโรป
ผลิตภัณฑ์แรกของบริษัทคือ Nothing Ear 1 เปิดตัวเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2021 และเป็นหูฟังที่ขายใน StockX จำนวน 100 ชุดแรกได้มากกว่า 1,000 ดอลลาร์
กระทั่งปี 2022 Nothing ได้เปิดตัว Nothing Phone 1 ในงาน Nothing Event โดยในงานนั้นมีผู้ชมถ่ายทอดสดมากกว่า 2 ล้านคน รวมถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชิ้นที่ 3 คือ Nothing Ear Stick หูฟังที่ให้ประสบการณ์ด้านเสียงที่หน้าที่สุดของแบรนด์
ในปีเดียวกัน "Nothing" มีหน้าร้านค้าปลีกแห่งแรกที่ใจกลางย่านโซโห ศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมของลอนดอน ซึ่งครั้งนั้นได้มีการจำหน่าย Ear Stick รุ่นลิมิเต็ด 100 เครื่องที่มีการสลักหมายเลขให้ลูกค้ากลุ่มแรกที่เข้าร้าน
และในวันนี้ Nothing กลับมาเล่นใหญ่ไฟกะพริบด้วยการวางจำหน่าย Nothing Phone 2 สุดเดือด
สำหรับ "Nothing Phone 2" โดดเด่นด้วย Glyph Interface โฉมใหม่ที่ตรวจสอบความคืบหน้าแอปต่างๆ ดูเวลานับถอยหลัง การแจ้งเตือน การแสดงสถานะแบตเตอรี และฟังก์ชันอื่นๆ อีกมากมาย ช่วยให้คุณรู้ข้อมูลต่างๆ ในพริบตา ใช้เวลากับหน้าจอน้อยลงและมีเวลาให้ตัวเองมากยิ่งขึ้น
พิเศษสุดๆ ด้วยการร่วมงานกับ Swedish House Mafia กลุ่มนักดนตรีชื่อดังจากสวีเดนที่มาร่วมแต่งริงโทนจากฟังก์ชัน Gylph Composer ใหม่ล่าสุดที่ทำให้คุณแสดงออกได้อย่างเป็นตัวเองที่สุด
Nothing OS 2.0 ดีไซน์โฉมใหม่ของซอฟต์แวร์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ถ่ายทอด DNA ของความเป็น Nothing ออกมาได้อย่างชัดเจน ด้วยดีไซน์ที่เน้นการใช้งาน และ Widget เจ๋งๆ ที่มากขึ้นหลายเท่าออกแบบให้ใช้ได้อย่างสะดวกสบาย ให้ชีวิตเรียบง่ายกว่าที่เคย
Camera บันทึกเรื่องราวอย่างงดงามด้วยกล้องหลังคู่ความละเอียด 50 MP+ ที่มาทั้งรูปแบบ Ultra Wide และ Super-Res Zoom ไม่พลาดทุกจังหวะด้วย Motion Photo ผสานความงดงามของสีสัน HDR ระดับสูงที่ช่วยในการถ่ายกลางคืน เคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหลด้วยการถ่ายวิดิโอแบบ 4k 60FPS ปิดท้ายด้วยกล้องหน้าลํ้ายุคความละเอียด 32 MP เพื่อการเซลฟี่ที่มีชีวิตชีวาที่สุด
Specs ลํ้าไปอีกขั้นด้วย Snapdragon® 8+ Gen 1 ชิปเซ็ตทรงพลังที่ช่วยให้ Phone (2) มีประสิทธิภาพรวดเร็วมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เสริมด้วยจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้วแบบ LTPO ที่ปรับอัตราการรีเฟรช 120Hz ได้อย่างชาญฉลาด คมชัดงดงามและประหยัดพลังงาน
Battery ความจุ 4700 mAh ชาร์จเต็มได้ภายในเวลาแค่ 55 นาที ใช้งานได้นานสูงสุด 22.5 ชั่วโมง ใช้ร่วมกับการชาร์จไร้สาย Qi 15W Nothing Phone 2 ยังใช้เป็นเครื่องชาร์จไร้สาย 5W ได้ด้วย คุณจึงชาร์จอุปกรณ์เสริมอย่าง Ear 2 ระหว่างเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ปิดท้ายด้วยวัสดุรีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์สร้างผลกระทบให้น้อยลง และบรรจุภัณฑ์ที่ปราศจากพลาสติก 100 เปอร์เซ็นต์
สำหรับ 100 คนแรกที่ซื้อ "Nothing Phone 2" ที่ Carnival นอกจากจะได้รับกล่องที่รวมสินค้าสุดพิเศษ (เสื้อ หมวก กระเป๋า สติกเกอร์) จากทาง Nothing ซึ่งบนกล่องของแถมจะมีการสลักเลข 001 ถึง 100 แล้ว ทุกคนยังมีสิทธิ์ลุ้นจับฉลากรับ Ear 2 สีขาว / Ear Stick / เซ็ตอุปกรณ์เสริมสำหรับ Phone 2ซึ่งประกอบด้วย case, screen protector, 45w adaptor รวมทั้งหมด 100 รางวัลซึ่งทุกคนจะได้รับอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน
ทั้งสตอรี่ แนวคิด ดีไซน์ สเปก การวางจำหน่ายแบบไม่เหมือนใคร ล้วนทำให้ "Nothing Phone" ควรค่าแก่คำว่า “สมาร์ทโฟนที่ไฮป์ที่สุด” ถ้าความนิยมยังไม่ถดถอยลง เราจะได้เห็นภาพประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจากรุ่นก่อนที่ Nothing Phone 1 กลายเป็น Gadget แรร์ไอเทมสุดไฮป์ ที่มีการขายรีเซลไม่แตกต่างจากสินค้าแฟชั่นหรือแบรนด์เนมเลย
ทว่าปัจจัยต่างๆ ณ ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้แต่การวางจำหน่ายช่วงกลางเดือนที่หลายคนต้องรัดเข็มขัดตัวเองให้รอดไปจนถึงสิ้นเดือน ก็อาจส่งผลต่อยอดขาย "Nothing Phone 2" ก็เป็นได้
แต่ถึงอย่างไร กระแสของ "Nothing Phone" รวมถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็ยังยืนหนึ่งเรื่องความเท่ ความคูล โดยไม่สนลูกใคร