แว่น PICO นั้นโก้จริงๆ! กับ 4 เรื่องที่อยากเล่าหลังใช้ “PICO 4” แบบผู้ใช้จริง
หลังจากเข้าสู่โลก “VR” อย่างเต็มตัวมาตลอด 3 เดือน ต่อไปนี้คือ 4 เรื่องที่อยากเล่าถึง “PICO 4” แว่น VR ที่กำลังได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัวจนถึงตอนนี้ จนกลายเป็น “แว่น VR” ตัวแรกของใครหลายคน
แนวโน้มของเทคโนโลยี VR กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุผลประการหนึ่งคือคุณภาพของอุปกรณ์ ความก้าวล้ำของเทคโนโลยี และราคาค่าตัวที่เข้าถึงผู้ใช้ได้ง่ายมากขึ้น หนึ่งในตัวเลือกอุปกรณ์ VR ที่ฮอตฮิตมากตั้งแต่เริ่มเปิดตัวเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาคือ PICO 4 ชุดอุปกรณ์ VR แบบ All-in One
จนถึงตอนนี้ KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที คือผู้ใช้งานจริงที่ซื้อ "PICO 4" มาเล่นตั้งแต่วันวางจำหน่ายวันแรก จนถึงวันนี้คือสามเดือนเต็มที่เราก้าวเท้าเข้าสู่โลก VR จึงได้เห็นข้อดี ข้อด้อย ที่อยากเล่าแบบไม่สนลูกใคร
ดีแค่ไหนเมื่อใช้เล่นเกม?
“ดีงาม” นี่คือคำนิยามสั้นๆ สำหรับ "PICO 4" ในการใช้งานเล่นเกมและเอนเตอร์เทนต่างๆ เพราะนี่คือจุดประสงค์หลักที่ PICO วางโพสิชันของ "แว่น VR" รุ่นนี้ไว้ตั้งแต่แรก
ว่าด้วยเรื่องแรกคือการเล่นเกม เริ่มด้วยจำนวนเกมและความหลากหลายของเกมที่มีใน Store ของ PICO ถือว่าเยอะมากและครอบคลุมแนวเกมทุกประเภทที่เหมาะกับอุปกรณ์ VR ไม่ว่าจะเกมกีฬา, เกมยิงปืน, เกมตกปลา, เกมเต้น, เกมต่อสู้, เกม Puzzle ฯลฯ มีให้เลือกทั้งดาวน์โหลดฟรีและเสียสตางค์ นับตั้งแต่ซื้อมาเราได้ซื้อเกมหลากหลายมาลองเล่น ส่วนมากทำให้เสียทั้งเหงื่อและหลุดเข้าไปในโลกของเกม VR แบบลืมเวลา
มาถึงประสิทธิภาพของอุปกรณ์กันบ้าง "PICO 4" ถือว่าเป็นอุปกรณ์ VR ที่เหมาะกับการเล่นเกมมาก ด้วยน้ำหนักค่อนข้างเบาเพียง 295 กรัม การสวมใส่กระชับ สบายหัว เพราะการกระจายน้ำหนักให้แบตเตอรี่อยู่บริเวณท้ายทอยนั่นเอง
ส่วนจอทั้งสองมีความคมชัดระดับ 4K+ และมีรีเฟรชเรทที่ 90Hz ทำให้ภาพและความสมูธของเกมค่อนข้างดี ถ้าหากเล่นในที่อากาศถ่ายเทหรืออากาศเย็นสบายเราเล่นได้จนแบตเตอรี่หมดโดยไม่รู้สึกวิงเวียนหรือเกิดอาการ VR Motion Sickness เลย
สำหรับคอนโทรลเลอร์ที่ให้มาก็ตอบสนองดีมาก มีความแม่นยำสูง เพราะเป็นคอนโทรลเลอร์คู่แบบ 6DoF จับความเคลื่อนไหวรอบทิศทางทั้ง 6 แกนด้วยเซ็นเซอร์ที่แม่นยำ และรองรับการตอบสนองด้วยแรงสั่น (haptic feedback) วัดได้จากเกมยิงปืนที่ต้องถือคอนโทรลเลอร์แทนปืนเมื่อเล็งไปที่ศูนย์เล็งก็ทำได้เสมือนจริงมากๆ หรืออย่างเกมกีฬา อาทิ เทนนิส แบดมินตัน สควอทช์ เทเบิลเทนนิส ชกมวย ก็ตอบสนองได้ดีมาก
เอนเตอร์เทนได้แค่ไหน?
เรื่องถัดมาคือการใช้งานด้านเอนเตอร์เทนต่างๆ อย่าง ดูหนัง, ดูคลิปวิดีโอ ก็ให้ความรู้สึกถึงการนั่งอยู่ในโรงหนัง เมื่อเปิดความละเอียดสูงสุด ภาพที่ได้ถือว่าน่าพอใจมาก นั่งดูนานๆ ได้แบบเต็มตา ยิ่งเป็นคอนเทนต์ที่ผลิตเพื่อแว่น VR เช่น วิดีโอ 360 องศา หรือวิดีโอ 180 องศา จะเหมือนเราได้หลุดไปในวิดีโอนั้นจริงๆ ยกตัวอย่างคลิปรถไฟเหาะหรือกระโดดบันจี้จัมพ์ ถ้าจะเผลอกรี๊ดออกมาก็ไม่แปลก
แต่จะมีข้อสังเกตอยู่เล็กน้อยคือไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูหนัง จะมีจุดที่ภาพคมชัดสุดๆ อยู่บริเวณกลางจอ หลายคนอาจมองว่าขัดตาทว่าสำหรับเราไม่รู้สึกอย่างนั้น เพราะไม่ได้ใช้วิธีการกรอกลูกตาเพื่อมองรอบๆ จอ แต่เราใช้วิธีหันหน้าไปมองคอนเทนต์ต่างๆ รอบตัว ภาพที่โฟกัสจึงอยู่บริเวณกลางจอตลอด
อีกอย่างที่เป็นข้อสังเกตคือเรื่องเสียงหากเป็นคลิปที่ผลิตแบบ VR ที่บันทึกเสียงมาแบบสมจริง มีระยะของเสียงที่ใกล้เคียงกับระยะห่างระหว่างผู้ชมกับต้นเสียงจะไม่ค่อยพบปัญหา แต่กับการชมภาพยนตร์หรือคลิปวิดีโอแบบจอปกติ เช่น ดูในยูทูบ หรือในแพลตฟอร์มสตรีมมิง เสียงที่ออกมาจากลำโพงของแว่น "PICO 4" อาจไม่ดังสะใจเท่าไรนัก ถึงแม้จะเป็นระบบจำลองเสียงรอบทิศทางแบบ 3 มิติและลำโพงเซอร์ราวด์ที่ติดตั้งมาให้ก็ตาม
การเชื่อมต่อ
หัวใจสำคัญของอุปกรณ์เกม ณ ปัจจุบัน คือการเชื่อมต่อออนไลน์ได้ เพราะต้องมีทั้งการอัปเดตต่างๆ การดาวน์โหลดเกมหรือแอปพลิเคชัน รวมถึงการเชื่อมต่อกับผู้ใช้คนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนทั่วโลก เรื่องดังกล่าวนี้ "PICO 4" ทำได้ดีมากเลยทีเดียว
อย่างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่ออัปเดตและดาวน์โหล ถ้าหากอินเทอร์เน็ตของคุณแรง แน่นอนว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย เชื่อมต่อได้รวดเร็วทันใจมากๆ
ส่วนการเชื่อมต่อกับผู้ใช้คนอื่นๆ ยกตัวอย่างเกมที่เล่นแบบ Multi Player ถ้าว่ากันด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตถ้าแรงทั้งคู่พบว่ามีอาการดีเลย์น้อยมาก เล่นได้ลื่นไหล รวมถึงมีการสนทนาไปพร้อมกันก็ค่อนข้างเรียลไทม์เลยทีเดียว
แต่สำหรับบางเกมที่มีให้เลือกเซิร์ฟเวอร์ หรือเลือกโซนประเทศ จะเห็นได้เลยว่ายิ่งอยู่ไกลก็ยิ่งมีอัตราความดีเลย์มากเป็นพิเศษ โดยมากจะอยู่ที่หลักเสี้ยววินาที ทว่าในเกมที่ต้องอาศัยความเร็วก็จะรู้สึกถึงความหงุดหงิดนี้อยู่บ้าง เช่น เทเบิลเทนนิส ที่ต้องตีลูกภายในเสี้ยววินาที
ว่าด้วยเรื่องแบตเตอรี่
ข้อดีของแบตเตอรี่ของ "PICO 4" คือการวางตำแหน่งมาอย่างดี จึงไม่เป็นภาระกับศีรษะ, โหนกแก้ม หรือกระบอกตา แต่ก็มีข้อสังเกตซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับหลายคนรวมถึงเราด้วยคือความจุแบตค่อนข้างน้อยไปสักนิด
สำหรับการเล่นเกม หากเล่นต่อเนื่องก็อาจจะเพียงพอกับการเล่นแล้วหยุดพัก แต่ถ้าเป็นการดูคอนเทนต์หรือดูภาพยนตร์คือไม่มีทางดูจบหนึ่งเรื่องอย่างแน่นอน การต้องถอดมาชาร์จแล้วค่อยกลับไปดูใหม่ถือเป็นความน่าหงุดหงิดหนึ่ง
บางคนแนะนำให้ใช้เพาเวอร์แบงค์มาเสียบชาร์จไว้ตลอดเวลา ก็เป็นอีกวิธีแก้ปัญหาที่ทำได้ แต่อาจไม่สะดวกสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องต่อสายรุงรังตลอดเวลา หรือแม้แต่การซื้ออุปกรณ์ติดเพาเวอร์แบงค์ที่สายคาดศีรษะ วึ่งก็จะเพิ่มน้ำหนักให้อุปกรณ์ไปอีก ก็ได้แต่หวังว่าในรุ่นต่อไป PICO จะให้แบตเตอรี่มามากว่าเดิมหรือเพิ่มประสิทธิภาพให้อุปกรณ์ประหยัดพลังงานมากขึ้นไปอีก
สรุป
ถามว่าสามเดือนที่ผ่านมากับ “แว่น VR” รุ่นนี้คุ้มไหม สำหรับความจุ 128GB ราคา 13,990 บาท และความจุ 256GB ราคา 15,990 บาท ไม่รวมส่วนลดและโปรโมชันตามแต่ละช่วงเวลา ถือว่าเป็นอุปกรณ์ VR ครบเซ็ตที่คุ้มค่ามาก ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชอบประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งการเล่นเกม การออกกำลังกาย คุณจะได้หลุดเข้าไปในโลกของเกมนั้นๆ หรือคนที่อยากดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ดูสารคดี "PICO 4" จะทำให้คุณสนุกกับคอนเทนต์มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้แว่น VR ยังต่อยอดไปยังการใช้ทำงานอื่นๆ ได้ด้วย แต่เรายังไม่ได้ใช้งานเรื่องนี้มากนักจึงยังไม่กล้าบอกว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร เอาเป็นว่าถ้าอยากได้ความบันเทิงที่แปลกใหม่ในราคาหมื่นนิดๆ “PICO 4” คือตัวเลือกที่น่าลอง