เอ้ก ดิจิทัล ชู ‘ไดนามิก ดาต้า’ รับเทรนด์ตลาดเอไอ-มาร์เทคปี '67

เอ้ก ดิจิทัล ชู ‘ไดนามิก ดาต้า’  รับเทรนด์ตลาดเอไอ-มาร์เทคปี '67

แนวทางการใช้เทคโนโลยีสำหรับปี 2567 จุดแข็งของการทรานฟอร์เมชันองค์กรภาคธุรกิจ ยังคงมีบิ๊ก ดาต้า เทคโนโลยีขั้นสูงทั้งปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) แมชชีน เลิร์นนิง และบล็อกเชน เป็นเครื่องมือสำคัญ

ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัลจะเห็นว่า ทุกองค์กรต่างมุ่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจในหลากหลายด้านทั้ง ดิจิทัลและนวัตกรรม การบริหารบุคลากรและองค์กร การปฏิบัติการ การวางกลยุทธ์ และการเงินองค์กร รวมถึงด้านความยั่งยืน ดังนั้น ความเป็นเลิศในการนำเอาเครื่องมือทางเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อสร้างประสิทธิภาพสูงสุด จะทำให้องค์กรสามารถยกระดับสู่ดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อ

ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า แนวทางการใช้เทคโนโลยีสำหรับปี 2567 จุดแข็งของการทรานฟอร์มองค์กรภาคธุรกิจ ยังคงมีบิ๊ก ดาต้า เทคโนโลยีขั้นสูงทั้งปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ แมชชีนเลิร์นนิ่ง และบล็อกเชน เป็นเครื่องมือสำคัญ แพลตฟอร์มสื่อครบวงจร และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญมาผสานการทำงานร่วมกัน เพื่อนำเสนอโซลูชันและบริการที่ตอบสองความต้องการที่ เฉพาะเจาะจงของแต่ละธุรกิจ

ทั้งนี้ ในปี 2566 ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของ เอ้ก ดิจิทัล 10 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมเติบโต 30% คิดเป็น 2,000 ล้านบาท มาจากการดำเนินงานของทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.Business Analytics & Development 2.ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media และ 3.ธุรกิจ Platform & Media Solutions

รุกตลาดด้วยข้อมูลเชิงลึก

โดยในปีนี้คาดว่าผลประกอบการน่าจะอยู่ในระดับ 2,200 ล้านบาทในปีหน้าเชื่อว่าด้วยเทคโนโลยีและการที่ เอ้ก ดิจิทัล มีจุดแข็งด้านการวิเคราะห์อินไซต์ผู้บริโภคที่แม่นยำและช่วยให้ลูกค้าสามารถทรานฟอร์มกลยุทธ์และแผนการตลาดได้อย่างดีเยี่ยมก็มั่นใจว่า บริษัทจะรักษาอัตราการเติบโตได้ในระดับ 30% เช่นเดียวกัน จากมูลค่าตลาดรวม 11,000 ล้านบาท

เพื่อเตรียมแข่งขันในตลาดปี 2567 บริษัทได้รีเฟรช แบรนด์ เสนอความเป็นเลิศให้กับลูกค้าด้วยการก้าวข้ามทุกข้อจำกัด พร้อมสร้างนิยามใหม่ของ Data-Driven Landscape ด้วยการผสานพลังเอไอ แมชชีนเลิร์นนิ่ง แบบ 720 องศาพร้อมด้วย บริการแบบ End-to-End Ecosystem ที่จะใช้วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เอ้ก ดิจิทัล พร้อมสู้ศึกตลาดนี้ด้วยการโฟกัสไปที่ "ไดนามิก ดาต้า"
 

3หน่วยธุรกิจบทบาทสำคัญ

การทำงานภายใต้แบรนดิ้งใหม่นี้ บริษัทได้วางแนวทางการดำเนินงานอยู่ 2 ประการ คือ 1. เพิ่มศักยภาพของทุกธุรกิจด้วยเอไอ เพราะการวิเคราะห์เอไอ คือ รากฐานสำคัญเพื่อใช้ในการพยากรณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมและพฤติกรรมผู้บริโภค

อีกทั้งการวางกลยุทธ์ ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจวางแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำและ ก้าวนำคู่แข่งในตลาดอยู่เสมอ 

และ 2. นำเสนอนวัตกรรมสู่อุตสาหกรรม บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้าน เทคโนโลยีใหม่ ๆ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และการปลูกฝังค่านิยมในการทำงานที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าและ อุตสาหกรรม

"ทั้ง 3 บียูจะมีบทบาทสำคัญในการนำบิ๊กดาต้า เอไอ และ แมชชีน เลิร์นนิง มาช่วยทรานส์ฟอร์มให้เป็นกลยุทธ์และแผนการตลาดที่จะช่วยสร้าง อิมแพคให้กับธุรกิจของลูกค้า อาทิ ธุรกิจ Business Analytics & Development ปลดล็อกศักยภาพการดำเนินงานและวางแนวทาง กลยุทธ์และกิจกรรมขับเคลื่อนธุรกิจที่ชัดเจนให้กับลูกค้า"  

สร้างยูสเคสเฉพาะอุตฯ

สร้างการรับรู้และปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์สินค้ากับผู้บริโภคในทุกทัชพอยท์ ทั้งช่องทางออฟไลน์ ออนไลน์ และ Omnichannel และธุรกิจ Platform & Media Solutions เดินหน้ายกระดับการวางกลยุทธ์ด้าน CRM มีเดียและดิจิทัลโซลูชันให้ตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาดมากยิ่งขึ้น วางแผนและเชื่อมต่อการทำการตลาดและ CRM บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างได้รอยต่อเพื่อสร้าง ประสบการณ์ที่ต่อเนื่องให้ผู้บริโภค พัฒนาการเข้าถึงผู้บริโภคในทุกทัชพอยท์ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ซึ่งในปีนีเรายังคงมุ่งไฟกัสไปที่ ธุรกิจใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ค้าปลีก ธุรกิจสื่อ การเงิน ประกันฯ และยานยนต์ โดยคาดการณ์ว่า ความต้องการบริการด้าน วิเคราะห์ดาตาเค้าเชิงลึกจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากธุรกิจเริ่มเห็นถึงข้อได้เปรียบของการใช้ดาต้าเชิงลึกมาเป็นส่วนสำคัญ ในการกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจกันมากขึ้น บริษัทจึงต้องเร่งสร้างยูส เคสที่ตรงจุดและเฉพาะเจาะจงในแต่ละ อุตสาหกรรม