ยิบอินซอยพร้อมพาธุรกิจโตยุค ‘เอไอ’ ชี้อิมพลิเมนต์เทคโนโลยีต้องมีชั้นเชิง
วางเป้ารายได้ทะลุหมื่นล. มองการขับเคลื่อนธุรกิจสู่เป้าหมาย ต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ ลุยเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจการเงินและการธนาคาร พลังงงาน ค้าปลีก โทรคมนาคม และองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ล่าสุดหนุนสตาร์ทอัปลุยEV-พลังงานสะอาด
มรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิบอินซอย เปิดเผยถึงภาพรวมของบริษัทว่า เกือบ 100 ปีที่กลุ่มธุรกิจของยิบอินซอยเติบโต ก้าวหน้าได้อย่างมั่นคง ด้วยเรามีพันธมิตรทางการค้าที่ดีเสมอมา ในปัจจุบันกลุ่มยิบอินซอยมีบริษัทในเครือฯ กว่า 9 แห่ง มีพนักงานมากกว่า 1,900 คนและมีศูนย์บริการกว่า 32 แห่งทั่วประเทศไทยและในเขตประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีธุรกิจในกลุ่มยิบอินซอยครอบคลุมถึงด้าน IT Digital Solutions, High Technology, Trading & Manufacturing, Insurance Broker และจะมีธุรกิจด้าน Clean Energy & Smart Agri-Tech Solutions และ Nano Bio Technology ต่อไปในอนาคต
“ยิบอินซอยมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลของประเทศและผลักดันโครงการที่มุ่งเน้นการปฏิรูปทางดิจิทัลและการปรับปรุงการทำงานให้ทันสมัยหลากหลายโครงการ โดยพิสูจน์ได้จากประวัติธุรกิจและบันทึกความสำเร็จของเราในกลุ่มธุรกิจด้านการธนาคาร พลังงาน อุตสาหกรรมการผลิต การค้าปลีก โทรคมนาคม และในหน่วยงานราชการที่หลากหลาย เรามุ่งมั่นที่จะรักษาคุณภาพ สร้างความพึงพอใจ เน้นส่วนร่วมในการสร้างความสำเร็จของลูกค้า และดำเนินธุรกิจธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพหลากหลายรูปแบบที่เกี่ยวข้อง”
สุภัค ลายเลิศ กรรมการอำนวยการ และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าวเพิ่มว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ยิบอินซอยมีนโยบายในการทำงานแบบ Growth mindset หรือกรอบความคิดแบบยืดหยุ่น เราเติบโตและพัฒนาศักยภาพของเราให้เท่าทันกระแสของการเปลี่ยนแปลง โดยเรามุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรชั้นนำที่ก้าวล้ำในระดับแนวหน้าของประเทศ ที่พร้อมตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้รอบด้านของทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนภาครัฐ และเอกชนเพื่อขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายความสำเร็จและการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปี 2567 นี้ บริษัทมองผลประกอบการโดยรวมน่าจะมากกว่า 10,000 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มเทคโนโลยีไอทีในปี 2567 ยิบอินซอยมองว่า เอไอจะเป็นเทคโนโลยีแห่งปีโดยเฉพาะ
เจเนอเรทีฟ เอไอ (Generative AI) ขณะเดียวกันการอิมพลิเมนต์เทคโนโลยีก็ต้องกระทำอย่างมีกลยุทธ์มากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่องค์กรต้องคมองให้ไกลกว่าการมีแค่ระบบรักษาความปลอดภัย (ไซเบอร์ซิเคียวริตี้) แต่ต้องไปให้ถึง Cyber Resilience หรือ ความสามารถในการเตรียมตัวและตอบสนองภัยคุกคาม ตลอดจนการกู้คืนระบบให้กลับมาเป็นปกติ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นว่าองค์กรจะต้องไปต่อได้ในทุกสถานการณ์
แผนในการสนับสนุนสตาร์ทอัปขณะนี้ ยิบอินซอยให้เงินทุนอยู่มี 3 บริษัท คือ บริษัท โซลารินน์ จำกัด สตาร์ทอัปด้านพลังงานสะอาด , บริษัท โมรีน่า โซลูชั่นส์ จำกัด (Morena) สตาร์ทอัปด้าน BIOTECHNOLOGY , บริษัท อีซีไรช์ ดิจิทัล เทคโนโลยี จำกัด (EASYRICE) สตาร์ทอัปใช้เทคโนโลยีเอไอตรวจสอบพันธุ์ข้าว เนื่องจากปีนี้ต้องการให้ทั้ง 3 สตาร์ทอัพมีผลิตภัณฑ์ออกมาก่อน หลังจากที่บริษัทได้สนับสนุนในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนบริษัทละ 10-50 ล้านบาท
“การลงทุนในสตาร์ทอัพเราต้องมั่นใจว่า บริษัทที่เราเลือก 80% ต้องประสบความสำเร็จ และนำเทคโนโลยีไปต่อยอดได้ แน่นอนว่าต้องใช้เวลา และสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่เรามั่นใจเพราะเราเลือกแต่สตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมและรางวัลจากเวทีต่างๆ”
ปีนี้ บริษัท โซลารินน์ จำกัด จะสามารถจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าออกสู่ตลาดภายใต้แบรนด์ RYN ได้ ซึ่งบริษัทมีแผนในการนำแบตเตอรี่เก่ามาผลิตใหม่เพื่อใช้เป็นแบตเตอรี่สำหรับการทำระบบสำรองไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ เพื่อให้เกษตรมีไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ในเวลากลางคืนด้วย
สำหรับ โมรีน่า โซลูชั่นส์ เป็นการต่อยอดธุรกิจปุ๋ยของบริษัท ซึ่งคนส่วนใหญ่มักมองว่าปุ๋ยเคมี คือสารเคมี เทคโนโลยีของ โมรีน่า จะเปลี่ยนความคิดให้ปุ๋ยกลายเป็นอาหาร เป็นวิตามิน ไม่ใช่ยา หรือ สารเคมีอย่างที่เข้าใจ ด้วยการส่งไมโคร นาโน โรบอท ส่งวิตามินเข้าไปถึงเซลพืช เพื่อให้พืชที่จะเป็นอาหารของมนุษย์มีคุณภาพ
ขณะที่ EASYRICE ด้วยจุดเด่นของเทคโนโลยี AI ในการใช้รูปภาพเพื่อคัดแยกพันธุ์ข้าว แทนคน จากเดิมที่ใช้กับข้าวเพื่อการส่งออก ในการผสมผสานข้าวหลายๆสายพันธุ์ให้มีความอร่อยตามความต้องการของแต่ละประเทศเพื่อการส่งออกแล้ว บริษัทยังสามารถนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมได้ เพื่อใช้เฝ้าแทนคน วิเคราะห์ และคาดการณ์ หากเกิดกระบวนการผลิตที่ผิดปกติ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของ EASYRICE ที่ทางยิบอินซอยให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การตรวจสอบและคักแยกความสุกของทุเรียน การคัดกรองสายพันธ์และกระดองของปูนิ่ม ตรวจสอบสารพิษตกค้างในสัตว์ทะเล