คุยกับแม่ทัพ ‘วีเอสที อีซีเอส’ กลยุทธ์ชิงแชร์ ‘ดิสทริบิวเตอร์’ ไอที

คุยกับแม่ทัพ ‘วีเอสที อีซีเอส’ กลยุทธ์ชิงแชร์ ‘ดิสทริบิวเตอร์’ ไอที

“วีเอสที อีซีเอส” เปิดกลยุทธ์ชิงส่วนแบ่งอุตสาหกรรมไอทีไทย ชูจุดต่างสินค้าหลากหลาย บริการครอบคลุม ราคาตอบโจทย์ พร้อมเพิ่มไลน์อัปสินค้าใหม่ต่อเนื่อง เชื่อท่ามกลางความท้าทาย ตลาดยังคงมีช่องว่าง ตั้งเป้าปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 10%

KEY

POINTS

  • ปีนี้ภาพตลาดตลาดไอทีประเทศไทยยังมีโอกาสขยายตัว

  • สร้างจุดต่างด้วยสินค้าที่หลากหลาย บริการครอบคลุม ราคาตอบโจทย์ พร้อมเพิ่มไลน์อัปสินค้าใหม่ต่อเนื่อง

  • การสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจในฐานะดิสทริบิวเตอร์ให้ความสำคัญกับเรื่องของคน สินค้า การให้บริการ

อุตสาหกรรมไอทีประเทศไทยปีนี้ยังคงน่าจับตามองไม่น้อย แม้ว่า “ดิจิทัล” จะกลายเป็นส่วนผสมที่แยกไม่ออกของการใช้ชีวิตและธุรกิจและทำให้การบริโภคสินค้าไอทีเกิดขึ้นได้ต่อเนื่อง ทว่ายังมีปัจจัยท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงิน รวมถึงกำลังซื้อ ซึ่งผู้ค้าต้องหาวิธีการฝ่าด่านเหล่านี้ไปให้ได้...

สมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ดิสทริบิวเตอร์ไอทีรายใหญ่ แสดงวิสัยทัศน์ว่า แนวทางธุรกิจของวีเอสทีอีซีเอสในปี 2567 นี้ ยังคงเน้นการขยายไลน์อัปสินค้า พร้อมสร้างการเติบโตให้ฐานธุรกิจเดิม ตอบโจทย์การใช้งานทั้งสำหรับผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ

นอกจากการสร้างจุดต่างด้วยจำนวนสินค้าที่ครอบคลุม พยายามมองหาโอกาสใหม่ๆ บนสมรภูมิดิจิทัล สอดคล้องไปกับไลฟ์สไตล์และการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่

ไม่ว่าจะเป็น การต่อยอดและขยายฐานตลาดในกลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์ คอมเมอร์เชียล โซลูชันสำหรับธุรกิจ เอนเตอร์ไพรส์ ไลฟ์สไตล์ สมาร์ทดีไวซ์ ฯลฯ

พร้อมเดินหน้าบุกเบิกธุรกิจใหม่ เช่น โฮมซิเคียวริตี้ พลังงานสีเขียว รับเทรนด์ธุรกิจที่มุ่งสร้างการเติบโตโดยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ปัจจุบันสัดส่วนรายได้มาจากสินค้าไอที 70% อื่นๆ 30%

มากกว่านั้น ในฐานะผู้ค้าส่งให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างมาก โดยภาพรวมการทำธุรกิจของวีเอสที อีซีเอสจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่วู่วาม ไม่เน้นให้เติบโตเร็วเกินไป ขณะเดียวกันเพิ่มการลงทุนเมื่อเห็นว่ามีความจำเป็น

“การสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจในฐานะดิสทริบิวเตอร์ให้ความสำคัญกับทั้งเรื่องของคนและสินค้า อีกทางหนึ่งเพิ่มจุดแข็งด้วยจำนวนสาขาการให้บริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศ”

มองไอทีไทย ‘สัญญาณบวก’

ปีนี้วีเอสทีอีซีเอสตั้งเป้าการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หรือไม่น้อยกว่า 10% จากปีที่ผ่านมาที่ทำยอดขายได้เกือบ 4 หมื่นล้านบาท

สำหรับปัจจัย จะมาจากการมีสินค้าที่ครอบคลุมมากที่สุด ครบทั้งแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็ก แบรนด์ทางเลือก รวมถึงการเพิ่มไลน์อัปสินค้าใหม่ ที่สำคัญองค์กรมีเสถียรภาพ เนื่องจากไม่ค่อยได้เปลี่ยนผู้บริหาร สามารถสานต่อความร่วมมือและเครือข่ายได้อย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด

“ปีที่ผ่านมายอมรับว่าส่วนของคอนซูเมอร์ตัวเลขตกลง แต่เราก็ยังมีส่วนของคอมเมอร์เชียล เอนเตอร์ไพรส์ ดีไวซ์ และไลฟ์สไตล์เข้ามาชดเชย โดยสัดส่วนรายได้มาจากคอนซูเมอร์ 45% อีก 55% เป็นคอมเมอร์เชียลและเอนเตอร์ไพรส์รวมกัน”

เชื่อว่าภาพตลาดตลาดไอทีประเทศไทยยังมีโอกาสขยายตัว เนื่องจากกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ที่ผ่านมาบริษัทจึงไม่ได้กังวลกับปัจจัยภายนอกด้านเศรษฐกิจมากจนเกินไป และที่ให้ความสำคัญอย่างมากคือการพัฒนากลยุทธ์ที่สามารถเฟ้นหาและนำเสนอสินค้าได้ตอบโจทย์มากที่สุด ภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผล

หาโอกาส ‘การเติบโตใหม่ๆ’

ธเนศ พันธ์สุขุมธนา รองประธานบริหาร กล่าวว่า ส่วนของกลุ่มคอมเมอร์เชียล จากปีที่แล้วที่เติบโตค่อนข้างดีโดยเฉลี่ยทั้งปีทำได้ที่ประมาณ 10% ปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ประมาณ 20%

จากทั้งสินค้าที่แข็งแรงอยู่แล้วกลุ่มโน๊ตบุ๊ก, เซิร์ฟเวอร์, สตอเรจ รวมถึงการสร้างการเติบโตใหม่ๆ ซึ่งจะเจาะไปตามอุตสาหกรรม โดยส่วนนี้ได้สร้างทีมงานสำหรับรับผิดชอบลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะทาง ไม่เพียงลูกค้ารายใหญ่จะเพิ่มโฟกัสไปที่ระดับกลางและลูกค้ารายย่อยด้วย

บุญชัย อัศวชัยสุวิกรม ประธานฝ่ายปฏิบัติการ เผยว่า สำหรับกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์ ช่วง 3-4 เดือนแรกของปีนี้ตลาดยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เนื่องจากยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณใหม่ของภาครัฐ แต่คาดว่าหลังสงกรานต์น่าจะดีขึ้น

ภาพรวมปีนี้คาดว่า ซอฟต์แวร์ด้านซิเคียวริตี้จะมาแรง ซึ่งบริษัทได้มีการขยายแบรนด์สินค้าจากจีนเพิ่มเข้ามา ก่อนหน้านั้นช่วงไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ "บริหารจัดการพลังงาน" สำหรับพลังงานทางเลือก เช่น โซล่ารูฟ, อินเวอร์เตอร์ที่เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า และอีกกลุ่มคือซีซีทีวีรองรับตลาดโฮมยูสและตลาดราชการ

คุณากร อินทร์แก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด หน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์และค้าปลีก กล่าวว่า ภาพรวมกลุ่มคอนซูเมอร์ปีที่ผ่านติดลบ จากภาวะเศรษฐกิจและความต้องการที่อิ่มตัวจากช่วงโควิดที่มีการลงทุนเพื่อเวิร์คฟรอมโฮม

แต่ทั้งนี้ ปีนี้ก็ตั้งเป้าว่าจะเติบโตให้ได้เป็นตัวเลขสองหลัก ขับเคลื่อนโดยการเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ๆ เช่น โน้ตบุ๊ก ซึ่งจะมีการเพิ่มน้ำหนักการทำตลาดเกมมิงมากขึ้น และอีกส่วนหนึ่งคืออุปกรณ์ที่รองรับกระแสเอไอ โดยครึ่งปีหลังนี้จะมีสินค้าเป็น AI CPU เข้ามา และคาดว่าจะมีการบันเดิลเอไอเข้ามาเต็มที่ภายในปี 2568

นอกจากนี้ ใช้จุดแข็งจากการลงทุนขยายสาขาต่างจังหวัดใน 11 จังหวัด สาขาเหล่านี้จะเป็นทั้งสำนักงานขาย คลังสินค้าย่อย และศูนย์การให้บริการควบคู่กันไป เชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้สามารถทำตลาดได้ใกล้ชิด สามารถส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ภายใน 3 ชั่วโมง

ไปทุกเซ็กเมนต์ ‘ไฮเอนด์ - แมส’

ธนเสฏฐ์ โมระศิลปิน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด หน่วยธุรกิจดีไวซ์และไลฟ์สไตล์ กล่าวว่า กุญแจที่จะทำให้ประสบความสำเร็จคือ ความครอบคลุม ความเร็วที่ทันต่อความต้องการของตลาด และความหลากหลายของสินค้า  คุยกับแม่ทัพ ‘วีเอสที อีซีเอส’ กลยุทธ์ชิงแชร์ ‘ดิสทริบิวเตอร์’ ไอที ที่ผ่านมา ส่วนของมือถือจะเติบโตได้โดดเด่น เพราะทางแบรนด์ผู้ผลิตต่างพยายามทำราคาให้เหมาะกับตลาดประเทศไทย ปัจจุบันบริษัทถืออยู่ทั้งหมด 7 แบรนด์ นับว่าเป็นดิสทริบิวเตอร์รายเดียวที่มีโปรดักส์ไลน์อัปครบและหลากหลาย ตั้งแต่ซูเปอร์ลักซัวรีไปจนถึงอัลตร้าโลว์คอส ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเฉพาะและตลาดแมส

สำหรับอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงจะโตไปตามเทศกาล อย่างช่วงซัมเมอร์จะโตมากหน่อย เนื่องจากคนอยู่บ้าน เด็กอยู่บ้าน โดยภาพรวมตลาดกลุ่มสัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเทคโนโลยีมีการพัฒนาและอัปเกรดอยู่ตลอด

ทั้งได้เห็นเทรนด์ว่า ปัจจุบันผู้คนมีปฏิสัมพันธ์และให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น จากที่ทำตลาดกลุ่มนี้มาราว 3 ปี ยอดขายสามารถเติบโตได้เป็นตัวเลขสองหลักมาโดยตลอด จากสัดส่วนยอดขายประมาณ 2% ของหน่วยธุรกิจ ปีนี้จะเพิ่มเป็น 4%

ปัจจุบัน แบ่งกลุ่มสินค้าเป็น 1. Health Improvement 2. Home Improvement 3. PET Improvement และปีนี้จะเพิ่มโฟกัสสินค้าสมาร์ตโฮมมากขึ้น

ขณะที่ อีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่ทิศทางดีขึ้นเรื่อยๆ คือ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รับอานิสงค์การสนับสนุนการใช้รถอีวีของรัฐบาล ความร่วมมือกับทางแกร็บ และปีนี้จะพยายามขยายอีโคซิสเต็มให้กว้างขึ้นทั่วประเทศ จากขณะนี้มุ่งขายรูปแบบบีทูบีเป็นหลัก ในครึ่งปีหลังจะเพิ่มโฟกัสไปที่บีทูซีมากขึ้น ทั้งยังมองเห็นโอกาสที่จะขยายไปยังกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ด้วย