ติด Top 5 เพราะ R&D! เปิดใจ ‘HONOR’ แบรนด์มือถือจีน ที่โตไวระดับ Global
ถอดรหัสความสำเร็จของ ‘HONOR’ กับเส้นทางแบรนด์มือถือน้องใหม่สัญชาติจีนที่ใช้เวลาไม่นานไต่สู่ระดับ Global ได้
ถึงจะก่อตั้งอย่างเต็มตัวได้แค่ไม่กี่ปี แต่ถ้านับตั้งแต่จุดเริ่มต้นเมื่อปี 2020 จนถึงตอนนี้ HONOR ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาไม่ใช่แบรนด์มือถือน้องใหม่ที่ใสๆ ตามใครไม่ทัน ทว่า กำลังเป็นหนึ่งในตัวท็อปของแบรนด์สมาร์ตโฟนจีนที่ไล่บี้ยักษ์ใหญ่แบบหายใจรดต้นคอ
HONOR มังกรรุ่นใหม่ที่ไปไกลระดับโลก
การที่บ้านเกิดอยู่ในประเทศจีน ไม่ได้แปลว่า HONOR จะขายแค่ในประเทศ ถึงแม้ว่าแค่ในจีนก็เป็นตลาดที่อภิมหาอลังการแล้ว แต่ HONOR มองไปถึงตลาดโลก และนั่นหมายความว่าจะก้าวสู่การเป็น Global Brand อย่างแท้จริง
"HONOR" มองตลาดสมาร์ตโฟนที่ใหญ่สุดของโลกแห่งหนึ่งนั่นคือยุโรป ซึ่งการยกทัพเข้าตียุโรปไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ HONOR ตั้งใจจะทำได้ รวมไปถึงตลาดอื่นๆ ทั่วโลกที่กำลังเดินเกมรุกอยู่ เช่น ละตินอเมริกา และแอฟริกาใต้ จากการทำตลาดนอกประเทศจีนนี้เองส่งผลให้ HONOR ขึ้นแท่น Top 5 ของแบรนด์สมาร์ตโฟนในทวีปต่างๆ ที่กล่าวมา และยังมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นอีกในหลายภูมิภาค
แน่นอนว่าประเทศไทยก็เช่นกัน ถึงแม้ตอนนี้ตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศไทยจะหดตัวลง 20-30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ 3 ปีก่อน แต่ HONOR ก็ยังมองเห็นโอกาสและศักยภาพ โดยที่ HONOR ตระหนักดีว่าพฤติกรรมของผู้ซื้อสมาร์ตโฟนเปลี่ยนไปมากพอสมควร เรื่องความคุ้มค่าเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อมือถือสักเครื่อง รวมถึงประสิทธิภาพของมือถือเองก็ต้องตอบโจทย์คนยุคนี้ ซึ่งมีด้วยกันหลายกลุ่ม
มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก "HONOR" ระบุว่า ถึงแม้แบรนด์มือถือในตลาดประเทศไทยจะไม่ได้หลากหลายและไม่ได้ส่งผลต่อส่วนแบ่งการตลาดมากนัก ในขณะเดียวกันคนก็หันมาสนใจโทรศัพท์รุ่น Flagship กันมากขึ้น แปลว่าคนเลือกสมาร์ตโฟนที่มีคุณภาพมากขึ้น คุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งก็ตรงกับจุดแข็งของ HONOR ที่ผลิตสมาร์ตโฟนคุณภาพ เต็มเปี่ยมด้วยนวัตกรรม และยังเป็น Premium Brand ด้วย
การบุกตลาดสมาร์ตโฟนประเทศไทยที่ชัดเจนมากอย่างหนึ่งคือการนำเข้า Foldable Phone หรือสมาร์ตโฟนพับได้เข้ามาทำตลาด ซึ่งก็ได้กระแสตอบรับอย่างท่วมท้น
R&D เปลี่ยนความแตกต่างเป็นความเข้าใจ
ด้วยความที่ต้องการเป็น Global Brand ทำให้ "HONOR" ได้เห็นถึงความแตกต่างของตลาดสมาร์ตโฟนแต่ละแห่ง ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม วิถีชีวิตของผู้คนและแนวคิดต่างๆ รวมถึงภาพรวมของตลาด ยกตัวอย่างเช่น ตลาดทางทวีปยุโรปที่ HONOR โฟกัสมาก เป็นที่รู้กันดีว่า iPhone และ Samsung ค่อนข้างเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่นั่น อีกทั้งยังเป็นตลาด Operator base เมื่อเทียบกับประเทศไทยแล้วนั้น ถือว่าแตกต่างกันมาก โดยในประเทศไทยมี Oparator เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น อีกทั้งค่าใช้จ่ายของพนักงานในยุโรปค่อนข้างสูงมาก ทำให้งบแตกต่างกันมากเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อมีปริมาณความแตกต่างมาก ทำให้ HONOR โฟกัสและให้ความสำคัญด้าน Innovation เพราะจากการศึกษาคู่แข่งที่ผ่านมา ค้นพบว่าหลายๆ แบรนด์ลงทุนมากมายกับทั้ง Sponsorship และ Advertisement แต่ท้ายที่สุดสิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน เพราะผู้ใช้ตระหนักและรับรู้ได้อยู่ดีว่านั่นคือการตลาด สุดท้ายแล้วจึงกลับมาที่คำว่า Innovation เพราะ HONOR เชื่อว่า “เมื่อเรามีโทรศัพท์ที่ดี มีคุณภาพที่ดี เราจะอยู่ที่ไหนก็ได้ และเป็นผู้นำได้ในที่สุด”
ทว่าในจักรวาลสมาร์ตโฟนต้องยอมรับว่าหลายแบรนด์ก็จับคำว่า Innovation มาเป็นพันธกิจเช่นกัน ความแตกต่างในเรื่องนี้คือ "HONOR" โฟกัสที่ Human-centric (มนุษยธรรม) ซึ่งหลายแบรนด์เองก็มีการพูดถึงคำนี้เช่นกัน
แม้จะเป็นคำสั้นๆ แต่ลงมือทำยากมาก ยกตัวอย่างการที่ไม่มีใครให้ความสนใจกับการปกป้องสายตาของผู้บริโภคอย่างจริงจัง และ HONOR ก็เป็นเจ้าแรกที่นำเทคโนโลยีถนอมสายตา PWM Dimming มาใช้ และยังมี Circadian night display ที่ปรับแสงหน้าจอตามสภาพแวดล้อมภายนอก ที่ช่วยลดการระคายเคืองสายตาของผู้บริโภค โดยอ้างอิงจากคอมเมนต์ของผู้ใช้งานจริงที่กล่าวว่าใช้แล้วรู้สึกสบายตาขึ้นจริงๆ
"HONOR" ยังได้ให้ความสำคัญกับ Research and Development มาอย่างยาวนาน และมี AI platform มาตั้งแต่ปี 2022 โดยผลงาน AI ของ HONOR คือ Battery life ที่ทาง HONOR ได้คิดค้น HONOR Silicon carbon ที่มีลักษณะเบาบางมากแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของสมาร์ตโฟนได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเล่นเกมและโซเซียลมีเดียต่างๆ ที่ดีขึ้น ซึ่งจุดนี้ทำให้แตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน ตลอดจนสิ่งที่ควรโฟกัสทุกวันนี้คือ AI เข้ามามีบทบาทแก่มนุษย์ได้ดียิ่งขึ้นจริงหรือไม่
องค์กร WHO เคยให้ข้อมูลว่าประชากรบนโลกประมาณหนึ่งพันล้านคนมีปัญหาเรื่องสายตาจากการใช้โทรศัพท์ ดังนั้นบริษัทผลิตสมาร์ตโฟนจึงควรมีวิสัยทัศน์ในการปกป้องสายตาของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ในขณะที่การทำการตลาดเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ยากมากในการสื่อสารแก่ผู้บริโภคให้เข้าใจ อีกทั้งยังมีแต่คู่แข่งเจ้าใหญ่ๆ ทำให้จำเป็นจะต้องลงทุนกับการทำการตลาด และการใช้ marketing tools จำนวนมหาศาล HONOR จึงใช้ innovation เข้าสู้ในตลาด เพราะเป็นสิ่งที่ดีแก่ผู้บริโภคและยั่งยืนกว่า
อีกทั้ง HONOR ยังเลือกที่จะพัฒนาฟีเจอร์เหล่านี้ต่อไป เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องจากผลตอบรับของผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ โดย 2 ปีให้หลัง ผู้บริโภคได้เริ่มหันมาพูดถึงประโยชน์ของฟีเจอร์นี้ในผลิตภัณฑ์ของ HONOR กันอย่างแพร่หลายแล้ว
นี่จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมแบรนด์สมาร์ตโฟนจากจีนแบรนด์นี้ที่เพิ่งจะถือกำเนิดเมื่อไม่กี่ปี แต่กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดด และติด Top 5 แบรนด์สมาร์ตโฟนของโลก
"HONOR" บอกกับเราว่า พวกเขาต้องการทำให้ทุกอย่างเป็น Human-centric ไม่ใช่ Consumer-centric โดยการมองในมุมของมนุษย์ไม่ใช่การตลาด HONOR มองในมุมที่กว้างกว่านั้น จึงเป็นที่มาของสโลแกนของ HONOR ที่ว่า Go beyond ซึ่งหมายถึง การไปให้เหนือกว่า การคิดให้ไกลกว่าและแตกต่างจากผู้อื่น เพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาของผู้บริโภคที่สุด