กสทช.เดินหน้าประชาพิจารณ์ ร่างฯประกาศ ปูทางโรดแมป 'วิทยุดิจิทัล'
สำนักงาน กสทช. เดินหน้ารับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับวิทยุกระจายเสียงในระบบดิจิทัล DAB+ จำนวน 3 ฉบับ เพื่อเดินหน้ากระจายเสียงในรูปแบบวิทยุดิจิทัล
พลอากาศโทธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช.ด้านกิจการกระจายเสียง เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ หรือ ประชาพิจารณ์ ต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับวิทยุกระจายเสียงในระบบดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี DAB+ จำนวน 3 ฉบับ
เพื่อเปลี่ยนผ่านกิจการกระจายเสียงนับเป็นกิจการสื่อสารสุดท้าย ที่ยังคงเป็นระบบอนาล็อกอยู่ โดยเริ่มออกอากาศด้วยระบบ AM เมื่อปี พ.ศ.2473 และพัฒนาการต่อมาคือระบบ FM เมื่อปี พ.ศ.2495 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 70 ปี ที่ไม่มีการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น
กอปรกับจำนวนช่องคลื่นความถี่ที่จะจัดสรรให้แก่สถานีวิทยุ FM ในระบบอนาล็อกปัจจุบันมีจำกัด ดังนั้นระบบวิทยุดิจิทัลจึงเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ฟังคนรุ่นใหม่ที่สอดคล้องกับบริบทเทคโนโลยีปัจจุบัน
ดังนั้น ที่ผ่านมา บอร์ดกสทช. จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 เห็นชอบให้นำ (ร่าง) ประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 ฉบับ มารับฟังความคิดเห็นสาธารณะในวันนี้ (6 มิ.ย.) ดังนี้
- 1. (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง แผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงในระบบดิจิทัล ที่เป็นการใช้คลื่นความถี่วิทยุในย่าน 174-230 MHz โดยได้แบ่งพื้นที่ประเทศไทยเป็น 10 ภูมิภาคและ 34 พื้นที่
- 2. (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรฐานทางเทคนิคเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงระบบดิจิทัล ที่กำหนดค่ากำลังส่งออกอากาศสูงสุดไม่เกิน 10kW และค่ามาตรฐานอื่นๆ ที่ได้ผลมาจากการทดลองออกอากาศที่ทำร่วมกับสถานีวิทยุกองทัพบกและผลงานวิจัยจากคณะที่ปรึกษา
- 3. (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรฐานทางเทคนิคเครื่องรับวิทยุกระจายเสียงระบบดิจิทัล ที่มีการเข้ารหัสสัญญาณเสียงแบบ MPEG-4 HE ACC v2 ตามมาตรฐาน DAB+ โดยกำหนดทั้งประเภทที่ 1 คือ ภายในยานพาหนะ ประเภท 2 คือ ภายในครัวเรือนหรือพกพา และ ประเภท 3 คือ ส่วนเพิ่มเติมสำหรับติดตั้งภายในรถยนต์
โดยผลการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ได้รับข้อคิดเห็นทางเทคนิคที่เป็นประโยชน์ เช่น การกำหนดมาตรฐานภาษาไทยที่ใช้ในการส่งข้อความสั้น โดยที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นด้วยกับบริบทและวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปที่ดีขึ้นทั้งด้านคุณภาพของสัญญาณและปัญหาการรบกวน แต่มีข้อห่วงใยในเรื่องระบบนิเวศและมูลค่าการลงทุนโครงข่ายที่อาจสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาเครื่องรับที่อาจเพิ่มภาระให้แก่ประชาชนผู้บริโภค โดยที่ กสทช. ควรมีนโยบายในการสนับสนุนและแก้ปัญหาดังกล่าวที่ชัดเจน
โดยวิทยุกระจายเสียงในระบบดิจิทัล ถือเป็นทางเลือกเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบการอนุญาต จากเหตุที่สถานีวิทยุทดลองออกอากาศจะต้องยุติการออกอากาศในสิ้นเดือนธันวาคมที่กำหนด
จากนี้ไปคงต้องเร่งรัดเสนอหลักเกณฑ์การอนุญาตให้บริการโครงข่าย DAB+ และ หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ DAB+ ในขณะเดียวกันระบบ FM เดิมจะต้องดำเนินการคู่ขนานโดยจะออกประกาศเชิญชวนให้สถานีวิทยุทดลองออกอากาศประเภทชุมชนและสาธารณะเข้าสู่ระบบการอนุญาตในเดือนกรกฎาคมนี้
ต่อจากนั้นจะจัดทำประกาศหลักเกณฑ์การประมูลสำหรับประเภทธุรกิจ โดยจะนำไปรับฟังความคิดเห็นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เช่นกัน เพื่อให้สถานีวิทยุทดลองออกอากาศที่เข้าสู่ระบบการอนุญาตจะได้ไม่ต้องยุติการออกอากาศและสามารถออกอากาศต่อไปได้ โดยที่กิจการกระจายเสียงคงเป็นกิจการสุดท้ายที่ยังไม่เข้าสู่ระบบใบอนุญาต จึงต้องดำเนินการเพื่อให้เข้าสู่มาตรฐานสากล และจะทำให้ กสทช. สามารถส่งเสริมและสนับสนุนได้เต็มกำลังตามที่กฎหมายกำหนด