Smart Security ยุคดิจิทัล เอชไอพี โกลบอล ชี้ ‘AI คือคำตอบ’
มองสถานะ ‘เอไอไทย’ กับงานรักษาความปลอดภัย’ (Smart Security) ผ่านเลนส์ผู้บริหาร เอชไอพี โกลบอล โดยคาดการณ์ว่าเอไอจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการรักษาความปลอดภัยในอนาคต
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญกับทุกอุตสาหกรรม การนำเอไอเข้ามาปรับใช้กับระบบรักษาความปลอดภัยสามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลจากกล้องวงจรปิด เซ็นเซอร์ และแหล่งอื่นๆ ช่วยระบุพฤติกรรมหรือสถานการณ์ที่น่าสงสัยได้ทันท่วงที ทำให้สามารถระงับเหตุและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว
โทนี่ ทวีชัย หยาง Founder & CEO บริษัท เอชไอพี โกลบอล จำกัด ในฐานะนายกสมาคมผู้ประกอบการระบบรักษาความปลอดภัยไทย (TSA) กล่าวว่า การนำเอไอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัยเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับธุรกิจในปัจจุบัน เพราะเทคโนโลยี Smart Security สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย ป้องกันภัยคุกคาม ไม่ว่าจะเป็นจากคนร้าย หรือภัยจากธรรมชาติ
“ตอนนี้ทั่วโลกเรียนรู้เครื่องมือเอไอ ซึ่งคาดว่าอีก 3-5 ปีข้างหน้า ทักษะด้านเอไอของคนไทยจะพร้อมมากขึ้น ต่อไปทุกธุรกิจจะนำเอไอมาใช้ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นด้านการเพิ่มศักยภาพการทำงาน หรือการใช้ในชีวิตประจำวัน
การนำเอไอรักษาความปลอดภัยเป็นอีกแขนงหนึ่งที่สำคัญกับธุรกิจ ขณะที่ผู้ใช้งานกำลังเรียนรู้เอไอ อาญชากรทางไซเบอร์ หรือแฮกเกอร์เรียนรู้สกิลเหล่านี้เหมือนกัน คนร้ายนำเอไอมาใช้โจรกรรม แฮกระบบต่างๆ สามารถแฮกข้อมูลข้ออาคารได้ทั้งตึก ซึ่งหากใช้ระบบความรักษาปลอดภัยแบบเดิม อาจตั้งรับเหตุการณ์ไม่ทัน”
คุณโทนี่ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แรงงานจะควบคู่ไปกับเอไอ ต่อให้มีระบบรักษาความปลอดภัยของเทคโนโลยี แต่ผู้รักษาความปลอดภัยที่เป็นมนุษย์ก็ยังคงต้องมีอยู่ ซึ่งทำงานร่วมกัน เพราะเอไอสามารถลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้
เช่นเดียวกับหมุดหมายของงานเสวนา “Secutech Thailand 2024” ที่คาดการณ์ไว้ว่า เอไอจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการรักษาความปลอดภัยในอนาคต แต่แรงงานมนุษย์ก็ยังคงสำคัญ ซึ่งหากพัฒนาเทคโนโลยีแล้วก็ต้องพัฒนาบุคลากรพร้อมกัน
“ต่อไปทุกอย่างจะรันอยู่บนคลาวด์ (Cloud Computing) กล้องวงจรปิดติดตั้งเอไอทำให้มีความอัจริยะมากขึ้น มันจะสามารถเก็บข้อมูลและประมวลผลออกมาเป็นพารากราฟ ระบบทั้งระบบจะเชื่อมต่อถึงกัน สิ่งต่อไปคือ รปภ.และเจ้าหน้าที่ ต้องเรียนรู้ที่จะอ่านเอไอเหล่านี้ ซึ่งคาดว่า ต้องค่อยๆ สอนและพัฒนาไป เอไอจะไม่ฉลาดกว่ามนุษย์ หากมนุษย์ไม่หยุดที่จะเรียนรู้เอไอ”
สำหรับงาน Secutech Thailand ที่จัดโดย เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต, เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. และ เนชั่นกรุ๊ป เป็นงานแสดงเทคโนโลยีและโซลูชันด้านระบบรักษาความปลอดภัยและการป้องกันอัคคีภัย ซึ่งมาพร้อมกับหัวข้อ “Intelligent Security & Building” เจาะลึกเทรนด์ด้านด้านความปลอดภัยและด้านอาคาร มีตัวแทนจากทางภาครัฐ หน่วยงานสมาคม และบริษัทชั้นนำเข้าร่วมพูดคุย
ภายในงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ หัวข้อ INTELLIGENT SECURITY และ INTELLIGENT BUILDING ที่ช่วยให้ทุกท่านร่วมสร้างความรับรู้ ความเข้าใจในความสำคัญของเทรนด์เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ความคาดหวังจากงาน Secutech Thailand ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ คือ ภายในงานเราจะได้เจอพาร์ทเนอร์ หรือ เพื่อนๆ ทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่ที่สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำธุรกิจ ได้พูดคุยกันเรื่องโซลูชัน นวัตกรรม เทคโนโลยี หรือแม้กระทั่งการนำเอไอมาใช้กับธุรกิจของตน
อีกด้านหนึ่งก็เป็นเสมือนเวทีให้ผู้ประกอบการอย่าง เอชไอพี โกลบอล ได้บอกว่าเราคือใคร และเราทำอะไร มองว่าเป็นงานที่มีหมุดหมายสำคัญต่อการขับเคลื่อนด้าน Secutech” โทนี่ ทวีชัย หยาง กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ สำหรับสมาคมผู้บริหารและรักษาความปลอดภัยไทย จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจระบบรักษาความปลอดภัยในไทย ขณะนี้มีจำนวนสมาชิก 300 กว่าคน ทั่วประเทศ ดำเนินงานด้านต่างๆ ร่วมกับพาร์ทเนอร์และภาคประชาชน
ไม่ว่าจะเป็น สถานีตำรวจ โรงเรียน หรือองค์กร โดยได้เผยแพร่และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทั้งด้าน นวัตกรรม เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย