TACT จับมือบิ๊กเทคระดับโลก พัฒนา ‘คลาวด์-เอไอ’ ดันไทยเป็นฮับเทคโนโลยี

TACT จับมือบิ๊กเทคระดับโลก พัฒนา ‘คลาวด์-เอไอ’ ดันไทยเป็นฮับเทคโนโลยี

THAI AI CLOUD TECH (TACT) ผนึกพันธมิตรระดับโลกอย่าง Alibaba, Tencent, ZTE, SenseTime และ Digital China Technology ดันไทยสู่ศูนย์กลางชั้นนำด้าน ‘คลาวด์-ศูนย์ข้อมูล’

ยุคดิจิทัล เปรียบเสมือนสนามประลองที่องค์กรต่างๆ ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด เทคโนโลยีกลายเป็นอาวุธสำคัญ โดยเฉพาะ “คลาวด์-เอไอ” นับเป็นสองนวัตกรรมที่พร้อมพลิกโฉมวงการ ปลดล็อกศักยภาพ และนำพาธุรกิจสู่ความสำเร็จ

บริษัท THAI AI CLOUD TECH CO., LTD. (TACT) เล็งเห็นความสำคัญ จึงประกาศลงนามบันทึกความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกหลายราย เพื่อพัฒนาโครงการ “Thailand Clouds and Data Center” และ “Thailand AI Super Computing Data Center” โดยใช้ระบบเครือข่ายบรอดแบนด์ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT

พันธมิตรที่ร่วมลงนามในครั้งนี้ประกอบด้วย 1) Alibaba Cloud (Thailand) Limited 2) Tencent (Thailand) Co., Ltd. 3) ZTE (Thailand) Company Limited 4) Digital China Technology International (Sin) Pte Ltd. และ 5) SenseTime International PTE. Ltd. โดยแต่ละบริษัทจะนำความเชี่ยวชาญและโซลูชันมาร่วมพัฒนาโครงการ แบ่งความร่วมมือเป็นดังนี้ 

1) ความร่วมมือสำหรับโครงการคลาวด์และศูนย์ข้อมูลไทย:

• TACT, NT, และ Alibaba Cloud (ประเทศไทย) จำกัด
• TACT, NT, และ Tencent (ประเทศไทย) จำกัด
• TACT, NT, และ ZTE (ประเทศไทย) จำกัด
• TACT, NT, และ Digital China Technology International (Sin) Pte Ltd.

2) ความร่วมมือสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลซูเปอร์คอมพิวติ้ง AI ไทย:

• TACT, NT, และ ZTE (ประเทศไทย) จำกัด
• TACT, NT, และ Digital China Technology International (Sin) Pte Ltd.
• TACT, NT, และ SenseTime International PTE. Ltd.

TACT ระบุว่า ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการลงทุนขนาดใหญ่ ส่งเสริมการพัฒนาระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล (Data Center) ในประเทศไทย ยกระดับโครงการ AI ของไทยสู่ระดับโลก ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันทางเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางชั้นนำด้านคลาวด์-ศูนย์ข้อมูล” และเทคโนโลยี AI ในภูมิภาคอาเซียน

Han Zhimming ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท ZTE (ประเทศไทย) กล่าวว่า ZTE เป็นบริการด้านโซลูชันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบบูรณาการขนาดใหญ่ โดยให้บริการแก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก ลูกค้าภาครัฐ องค์กร และผู้บริโภค

บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2528 จดทะเบียนในฮ่องกงและเซินเจิ้น มีธุรกิจครอบคลุมกว่า 160 ประเทศและภูมิภาค พนักงานมากกว่า 2,500 รายทั่วโลก และให้บริการผู้ใช้มากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก ZTE มุ่งมั่นที่จะเป็น “ผู้สร้างเศรษฐกิจดิจิทัล” เน้นกลยุทธ์ “การเชื่อมต่อ + พลังการประมวลผล” และใช้เทคโนโลยี ICT ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลทั่วโลก

“ZTE ได้ก่อตั้งบริษัทสาขาประเทศไทยตั้งแต่ปี 2545 โดยถือว่าประเทศไทยเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดเพราะมีภูมิประเทศเป็นศูนย์กลางอาเซียน ดังนั้น บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาสังคมของประเทศไทย โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและบริการโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่เชื่อถือได้ในพื้นที่ท้องถิ่น” ผู้ก่อตั้ง ZTE กล่าว

ZTE จะร่วมมือกับ TACT และ NT ทำหน้าที่จัดหาอุปกรณ์เซิร์ฟเวอร์และโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเครือข่ายดีขึ้น สร้างความชาญฉลาดให้แก่เอไอมากยิ่งขึ้น โดยทุกภาคฝ่ายจะทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็น “AI Hub” ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพัฒนาพลังงานใหม่อย่างรวดเร็วโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลใหม่สีเขียว อัจฉริยะ และมีประสิทธิภาพ

ด้าน Gong Jie รองประธานฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัท SenseTime International PTE. LTD. กล่าวว่า SenseTime คือ บริษัทซอฟต์แวร์ AI ด้าน Generative AI, Traditional AI และ Smart Auto ที่มุ่งเน้นการบุกเบิกการวิจัยเทคโนโลยี และใช้ความสามารถของ AI เพื่อขับเคลื่อนการอัปเกรดอุตสาหกรรมในทุกส่วนต่างๆ 

“SenseTime มุ่งมั่นที่จะลงทุนระยะยาวในตลาดไทย โดยจะให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรท้องถิ่น เราจะทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย ภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนา AI และเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรือง”