‘Jabra’ ชู AI พลิกโฉม 'ดิจิทัล เวิร์กเพลส'
Jabra หนุนองค์กรพลิกโฉมสำนักงานสู่ “ดิจิทัล เวิร์กเพลส” เปิดตัวโซลูชันวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อัจฉริยะขับเคลื่อนด้วย AI มุ่งยกระดับประสบการณ์การประชุม ตอบรับเทรนด์การทำงานแบบไฮบริดของคนรุ่นใหม่
โฮลเกอร์ ไรซิงเกอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายโซลูชั่นวิดีโอสำหรับองค์กร จาบร้า(Jabra) ผู้ให้บริการโซลูชันอุปกรณ์ด้านเสียงส่วนบุคคลและโซลูชั่นการทำงานแบบไฮบริด กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ช่วย AI มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดเป็นอย่างมาก
โดยเอเชียเป็นภูมิภาคดาวรุ่งที่มีการเติบโตสูงมาก เนื่องจากมีประชากรที่เป็นคนทำงานรุ่นใหม่จำนวนมาก ทั้งพบด้วยว่า เจนแซดที่กำลังเป็นกลุ่มหลักของวัยทำงานชอบที่จะพบปะและเปิดรับกับการประชุมแบบเปิดกล้องที่ได้เห็นหน้ากัน
สำหรับจาบร้า ยังคงเดินหน้าปรับโฉมตลาดวิดีโอคอนเฟอเรนอย่างซ์ต่อเนื่อง รับเทรนด์การทำงานแบบไฮบริดที่มาแรง โดยการทำตลาดเน้นนำเสนอโซลูชันอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AIผลิตภัณฑ์ตระกูล “PanaCast” ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ประชุมอัจฉริยะ มีความคล่องตัว รวดเร็ว ตอบรับเทรนด์ดิจิทัลเวิร์กเพลสของคนรุ่นใหม่
ไฮไลต์เช่น “PanaCast 50 intelligent video bar” และ “PanaCast 50 Video Bar System (VBS)” ระบบห้องประชุมอัจฉริยะครบวงจร ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลัง AI และออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การประชุมที่ยอดเยี่ยมสำหรับองค์กรและคนทำงานรุ่นใหม่ มีคุณภาพเสียงที่ดี ทั้งยังให้ความยืดหยุ่นสำหรับการทำงานจากระยะไกล นอกจากนี้ เปิดตัวบริการ Jabra Warranty+ ที่ขยายการคุ้มครองอุปกรณ์สูงสุดถึง 5 ปี จากปกติรับประกัน 2 ปี เพื่อให้ผู้ใช้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
เขากล่าวว่า การมาของ AI ทำให้ผลิตภัณฑ์และบริการทั้งกลุ่มออดิโอและวิดีโอได้รับการยกระดับประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม ที่สำคัญช่วยสร้างความต่างจากคู่แข่ง เทียบกับก่อนหน้านี้ AI ทำให้การใช้งานเป็นธรรมชาติมากขึ้น กล้องทุกตัวที่ทำงานร่วมกันสามารถตรวจจับภาพได้ 100% แบบไร้รอยต่อ ขณะเดียวกันคุณภาพเสียงดีขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน
หลังจากนี้ จาบร้ายังคงมุ่งพัฒนาอุปกรณ์การทำงานร่วมกับวิดีโอ โดยจะมีการอัปเดตฟีเจอร์ AI เพื่อให้ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด ขณะที่การสร้างการเติบโตเน้นเรื่องความน่าเชื่อถือ และที่สำคัญพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานที่ครอบคลุม โดยทำตลาดผ่านผู้ติดตั้งระบบ (เอสไอ) เป็นหลัก
“ท่ามกลางสถานการณ์ตลาดที่ทุกธุรกิจต่างมีความท้าทายด้านเศรษฐกิจ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ยังเป็นตลาดที่ใหญ่และมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาบร้ามั่นใจว่าจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับที่ผ่านมาซึ่งลูกค้ามีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการปรับใช้วิดีโอที่มากขึ้นและโดยเฉพาะจากเทรนด์ไฮบริดเวิร์กกิ้งที่คนยุคใหม่ต้องการทำงานได้จากทุกสถานที่”
สถาพร สัมภวะผล ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน จาบร้า กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันพนักงานและองค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากขึ้น การทำงานแบบไฮบริดจึงได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้มากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา
สำหรับแนวทางการทำตลาดในประเทศไทยมุ่งชูจุดแข็งที่เป็นแบรนด์จากยุโรปซึ่งได้รับความน่าเชื่อถือทั้งจากบริษัทข้ามชาติและบริษัทในไทย เจาะกลุ่มภาคการศึกษา ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ โดยมีมุมมองว่าโอกาสทางการตลาดมาจากทั้งฐานลูกค้าเดิมที่ต้องการลงทุนเพื่ออัปเกรดระบบ และรายใหม่ที่เพิ่งสร้างหรือย้ายสำนักงาน
ด้านช่องทางการจำหน่ายจะทำผ่านตัวแทน โดยมีดิสทริบิวเตอร์หลัก 3 รายคือ เอสไอเอสดิสทริบิวชั่น อินแกรมไมโคร และอาร์ทีบี นอกจากขายฮาร์ดแวร์ ยังให้บริการซอฟต์แวร์ โซลูชัน รวมถึงการบริหารจัดการหลังบ้านด้วย
จากสินค้าที่รองรับได้ทุกกลุ่มทั้งออดิโอ วิดิโอ ครอบคลุมทั้งคอนซูเมอร์และธุรกิจ ทำให้ปีที่ผ่านมาตลาดอาเซียนเติบโตกว่า 70% และปีนี้คาดว่าจะทำได้ดีเช่นกันJabra PanaCast 50 intelligent video bar
- ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อัจฉริยะรุ่นแรกของจาบร้าที่ได้รับการรับรองการใช้งานฟังก์ชัน Microsoft Intelligent Speaker สามารถระบุได้ว่าใครเป็นคนพูดและพูดว่าอย่างไรในห้องประชุม
- สามารถระบุชื่อผู้พูดในบันทึกการประชุมได้อย่างแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องมือที่ใช้ AI เช่น Intelligent Meeting Recap และ Copilot ของ Microsoft Teams
- ฟังก์ชัน Intelligent Speaker ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการถอดข้อความและให้ข้อมูลที่ถูกต้องยิ่งขึ้นสำหรับ Intelligent Meeting Recap และ Copilot
- มุมมองภาพกว้าง 180 ทำให้สามารถมองเห็นภาพผู้เข้าประชุมทุกคนในห้องด้วยกล้องวิดีโอคุณภาพสูง
- มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Multi-Stream Dynamic Composition ที่มอบมุมมองภาพระยะใกล้ของผู้เข้าร่วมประชุมภายในห้อง
Jabra PanaCast 50 Video Bar System (VBS)
- โหมด Bring-Your-Own-Device (BYOD) ทำผู้ใช้สามารถเข้าร่วมการประชุมบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ง่ายๆ ผ่านแล็ปท็อปของตนเอง เพียงเชื่อมต่อสาย USB
- ฟีเจอร์ใหม่ Enhanced Noise Suppression ช่วยแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนได้อย่างชาญฉลาด เช่น เสียงพิมพ์และเสียงกระดาษ ส่งมอบเสียงคุณภาพสูงให้กับผู้เข้าร่วมประชุมทางไกล
- ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด Single-Stream Dynamic Composition และการใช้งานใน Teams Rooms ที่สามามารถแสดงมุมมองภาพระยะใกล้ของผู้ที่พูดคนล่าสุดในห้องประชุม
- ให้ภาพแบบพาโนรามามุมกว้างถึง 180 องศาของห้องประชุม
- ฟีเจอร์ Multi-Stream Dynamic Composition สำหรับ Zoom Rooms สร้างการสตรีมวิดีโอแบบเรียลไทม์ของผู้เข้าร่วมประชุมในห้องแต่ละคน
- สามารถรองรับการสตรีมได้ถึง 6 สตรีม