“ป้อม ภาวุธ”ชงแผน “ตั้งรับ - จับมือ - รุกกลับ” สู้กลับ 'ทุนจีน' เสนอนายกฯ
ป้อม ภาวุธ อดีตนายกสมาคมอีคอมเมิร์ซไทย และกูรูอีคอมเมิร์ซ เสนอแผนสู้กลับทุนจีน “ตั้งรับ - จับมือ - รุกกลับ” ต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ดึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แบงก์ชาติ เอ็ตด้า ร่วมวงแก้ปัญหา
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Creden.co และ PaySolutions ผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ โพสต์เฟซบุ๊ค เสนอแผนสู้กลับทุนจีนต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แนะรัฐควรใช้แผน “ตั้งรับ - จับมือ - รุกกลับ"
โดยกล่าวว่า หลังเห็น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐให้รับมือกับการมาของ Temu ตัวเองในฐานะเอกชน ประชาชนที่ศึกษาเรื่องนี้ ขอทำแผนข้อเสนอที่รัฐและเอกชนไทย ควรจะทำและแนวปฏิบัติ ซึ่งไม่ใช่แค่ Temu เท่านั้น แต่รวมไปถึง ผู้ค้าขายผ่านออนไลน์ทั้งหลาย ที่ไหลบ่าทะลักเข้ามาในไทย ซึ่งส่วนตัวมองว่า ต่างชาติที่เข้ามาควรทำให้ถูกต้อง และเป็นระเบียบ เพื่อความเท่าเทียมกันกับ ผู้ประกอบการไทย
“สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้หยุดการไหลบ่าของสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาได้ สิ่งที่สำคัญที่รัฐบาลจะต้องทำคือ มองภาพรวมของปัญหานี้ และหาแนวทางแก้ไขที่เป็นระบบ ทำงานกับเอกชน ในแนวทางที่ผมคิดไว้คือ ตั้งรับ - จับมือ - รุกกลับ”
นายภาวุธ อธิบายว่า ในมุมตั้งรับ ต้องศึกษาผลที่เกิดขึ้นจากการมาของธุรกิจจีน เข้มงวดกับกฏหมาย หรือออกกฏหมายใหม่ โดยรัฐต้องจับมือกับเอกชน ผู้ประกอบการสมาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางหารือกับรัฐบาลจีน ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น ออกกฏหมายใหม่ที่ปกป้องเป็นธรรม สร้างความแข็งแกร่งของเอกชนให้แข็งแกร่งมากขึ้น นำเทคโนโลยีไทยสนับสนุนคนไทย
ขณะเดียวกัน รัฐควรผลักดันมาร์เก็ตเพลส ประเทศไทย เช่น D Market ที่มีอยู่แล้วในแอปเป๋าตังค์ ส่วนรัฐควรรุกกลับ ด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย รุกออกนอกประเทศ ไปยังต่างประเทศ รวมถึงอาเซียนผ่านทางออนไลน์ ร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างประเทศ (Cross border)มากขึ้น
นายภาวุธ ยังเสนอให้รัฐดึง Temu มาขึ้นทะเบียนภาษี อี-เซอร์วิส (VAT for Electronic Service : VES) ซึ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ กรมสรรพากร ขณะที่ให้ชวนให้มาใช้ระบบการชำระเงินของไทยตรงๆ เป็นหน้าที่ของแบงก์ชาติ รวมถึงให้เข้าเปิดบริษัทในไทย เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ และกรมพัฒนาธุรกิจ
ที่สำคัญต้องเข้ามาขึ้นทะเบียนดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อปกป้องประชาชน ซึ่งเกี่ยวข้องกับทางเอ็ตด้า รวมถึง จากนี้รัฐควรมีแนวทางสนับสนุนนำสินค้าไทยที่มีความได้เปรียบ เช่น สินค้าอาหาร สินค้าฮาลาล แฟชั่น ไปขายใน Temu ได้ด้วย