จับตา 'หมอสรณ' ชี้แจงผลงานประจำปีของ กสทช. หลังสภาฯ ยังจับตาขาดคุณสมบัติ

จับตา 'หมอสรณ' ชี้แจงผลงานประจำปีของ กสทช. หลังสภาฯ ยังจับตาขาดคุณสมบัติ

จับตา 15 ส.ค.67 กสทช.เตรียมเสนอรายงานผลปฏิบัติงาน 2566 ต่อ รัฐสภาฯ คาดเรื่องใหญ่คุณสมบัติประธาน กสทช.ถูกหยิบถก หลังโดนโจมตีเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ เจ้าตัวยันทุกอย่างเป็นตามกฎหมาย พร้อมเอาผลงานที่มีสยบดราม่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (15 สิงหาคม 2567) คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมเข้ารายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ต่อสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 14 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร 

ตามระเบียบวาระการประชุมที่ 2.2 รับทราบรายงานผลการปฏิบัติงาน กสทช ประจำปี 2566 คาดว่า จะมีการหยิบยกเรื่อง คุณสมบัติของนายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. หลังจากที่คณะกรรมาธิการ การเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา หรือ กมธ.ไอซีที มีความเห็นว่า นพ.สรณ ขาดคุณสมบัติการเป็นประธาน กสทช. มาถกต่อ หลังจากที่คณะกรรมการ กมธ.ไอซีที ชุดก่อนนี้ ได้มีมติแล้วว่า ประธานบอร์ด กสทช. มีลักษณะเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 มาตรา 7 ข. (12) มาตรา 8 มาตรา 18 มาตรา 20 และมาตรา 26  แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ต่อ หลังจากหนังสือถูกยื่นถึงประธานวุฒิสภาคนก่อน ที่เพิ่งหมดวาระไป

จากเอกสารรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2566 ของ กสทช. เพื่อเตรียมรายงานต่อ สภาฯ โดยส่วนใหญ่ในเอกสารเป็นผลงานในปีที่ผ่านมา แต่ปัญหา และอุปสรรค กลับมีเพียง 2 เรื่อง คือ ปัญหาเรื่องการจัดระเบียบสายสื่อสาร และการนำสายสื่อสารลงดิน และการให้บริการแพร่ภาพกระจายเสียงผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต ส่วนประเด็นปัญหาเรื่องของคุณสมบัติประธาน กสทช. ที่เป็นประเด็นร้อน ไม่มีระบุในรายงาน

​อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ ต้องรอลุ้นว่า เรื่องคุณสมบัติประธาน กสทช. ดังกล่าว จะถูกหยิบขึ้นมาซักถามเพื่อสางปัญหาที่ค้างคามายาวนาน ขององค์กรอิสระแห่งนี้หรือไม่

ทั้งในแง่กฎหมาย และข้อเท็จจริง เพราะตามมาตรา 20 ของ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ก็กำหนดให้เมื่อกรรมการ กสทช. ขาดคุณสมบัติ ตามมาตรา 7 หรือ กระทำการฝ่าฝืนตาม มาตรา 8 ก็ให้ดำเนินการส่งไปยังนายกฯ เพื่อทูลเกล้าฯให้มีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่งโดยไม่จำเป็นต้องขอมติของที่ประชุมวุฒิสภา แต่อย่างใด เนื่องจากได้รับรายงานอย่างสมบูรณ์เป็นที่ยุติ และมีการเปิดเผยรายงานสู่สาธารณะแล้ว ดังนั้น จะต้องดำเนินการตามอำนาจผูกพันตามมาตรา 20 ให้เสนอนายกฯ ทูลเกล้าฯ เพื่อมีพระบรมราชโองการให้ นพ.สรณ พ้นจากตำแหน่ง

หากย้อนกลับไปดูรายงานของคณะกรรมาธิการฯ ที่ได้จัดส่งผลการสอบสวนข้อเท็จจริง นพ.สรณ ประธาน กสทช. มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง กสทช. จริง และกระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามของการดำรงตำแหน่ง กสทช. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 มาตรา 7 ข. (12) มาตรา 8 และมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 18 มาตรา 20  ปรากฏตาม “บันทึกการประชุม คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม ครั้งที่ 17/2567

ด้าน นพ.สรณ กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดวันนี้ (14 ส.ค.67) ว่า ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางไปสภาฯ ด้วยตัวเอง และขอยืนยันอีกครั้งว่า การดำรงตำแหน่งประธานกสทช. เป็นตามกฎหมาย และตนไม่ได้ขาดคุณสมบัติใดๆ ตามที่มีหลายฝ่ายโจมตี และอยากให้เข้าใจว่า วาระของพรุ่งนี้เป็นการรายงานผลงานของ กสทช. ไม่ใช่การยื่นเรื่องการขาดคุณสมบัติ 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์