'พ.อ.สรรพชัยย์' ยันแม้ไร้คลื่นปี 68 รายได้มือถือหายแค่ 3,000 ล้านบาท

พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที เปิดเผยว่า ปี 2568 บริษัทยังไม่ขาดทุน รายได้จากคลื่นมือถือจะหายไปเพียง 3,000 ล้านบาท เนื่องจากคลื่น 850 MHZ 2300 MHz และ 2100 MHz หมดอายุอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในเดือนส.ค.2568 ซึ่งแต่ละปีเอ็นทีมีรายได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท

ส่วนแผนการย้ายลูกค้าจากคลื่น 850 MHz ไปใช้งานคลื่น 700 MHz จำนวน 1.6 ล้านเลขหมาย จะเริ่มทยอยโอนย้ายแบบอัตโนมัติ (OTA) ไปยังโครงข่าย 700 MHz จำนวน 3 แสนเลขหมายภายในสิ้นปี ส่วนลูกค้าที่ไม่มีเครื่องรองรับคลื่น 700 MHz บริษัทกำลังอยู่ระหว่างหารือกับพันธมิตรเพื่อหาทางออกให้ลูกค้า 

เมื่อมีการย้ายลูกค้าไปยังคลื่น 700 MHz ซึ่งเอ็นทีมีแบนด์วิธ ในการให้บริการ จำนวน 5MHz จะทำให้ต้นทุนการโรมมิ่งลดลง 30% โดยเอ็นทีจะโฟกัสการให้บริการแค่ 4G จึงไม่ต้องมีต้นทุนสูงในการโรมมิ่ง 5G เนื่องจากตนเองมองว่า บริการ 4G เพียงพอแล้วกับการใช้งานของลูกค้า ทั้งการโทรศัพท์ และการใช้งานอินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกันในส่วนของบุคลากรที่ดูเรื่องบริการมือถือประมาณ 400 คน ก็จะมีการปรับลดเพื่อลดต้นทุนด้วย

เอ็นทีจะเริ่มขาดทุนอย่างมหาศาล 6,000 ล้านบาท ในปี 2569 เป็นต้นไป จนกระทั่งปี 2572 จึงจะมีกำไรจากรายได้ดิจิทัลที่เอ็นที กำลังสร้าง เช่น คลาวด์ บริการอี เซอร์วิส ต่างๆ ส่วนพนักงานเองปีนี้ก็มีการสมัครเข้าโครงการเกษียณก่อนอายุแล้วกว่า 1,000 คน 

พ.อ.สรรพชัยย์ ชี้แจงว่า หลายคนมองว่า เอ็นทีประมูลคลื่น 700 MHz มาแพงเกินไป 10 MHz จ่ายถึง 35,000 ล้านบาท แต่สุดท้ายไม่ได้ตามเป้าหมายนั้น เป็นเพราะว่าแผนการนำคลื่นความถี่มาใช้งานล่าช้า 2 ปี ทำให้ เอ็นทีต้องจ่ายค่าใบอนุญาตกว่า 6,000 ล้านบาท จนกระทั่งบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เขามาซื้อคลื่นไปจำนวน 5 MHz ซึ่งตอนส่งแผนธุรกิจคลื่น 700 MHz ให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ก่อนเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตอนแรกเอ็นทีทำแผนขาดทุน แต่ คนร.ให้ปรับแผนให้มีกำไรโดยให้นำเสนอแผนนำคลื่นไปใช้บริการ IoT ด้วย 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์