ซินแคลร์ เปิดตัว AZURITES OpenXDR นวัตกรรมป้องกันภัยไซเบอร์ระดับโลก

ยิ่งเทคโนโลยีพัฒนาก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไร ภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็ทวีความรุนแรงและซับซ้อนขึ้นมากขึ้นเท่านั้น ความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงกลายเป็นประเด็นร้อนระดับโลกที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน การโจมตีจากเหล่าแฮกเกอร์ไม่เพียงสร้างความเสียหายมหาศาลทางการเงินและชื่อเสียง แต่ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในหลายด้าน

ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว บริษัท ซินแคลร์ จำกัด ผู้นำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์สัญชาติไทย ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในการต่อกรกับภัยคุกคามดิจิทัล ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์ม “AZURITES OpenXDR” โซลูชันป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ขั้นสูงที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ รับมือกับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ธนจักร วัฒนกิจ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของซินแคลร์ เผยถึงที่มาของบริษัทว่า “ซินแคลร์มีรากฐานมาจากบริษัทอาร์วีคอนเน็กซ์ ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ทำให้เราได้นำความเชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จากการทำงานกับหน่วยงานภาครัฐและด้านการป้องกันประเทศมาพัฒนาระบบของเราเอง”

จุดแข็งของซินแคลร์คือ การตรวจจับและกำจัดแฮกเกอร์ออกจากระบบอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อองค์กร “เป้าหมายของเราคือการทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับพรีเมียมเข้าถึงได้สำหรับทุกองค์กร ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่” ธนจักรกล่าว

แพลตฟอร์ม AZURITES OpenXDR โดดเด่นด้วยคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

1. ระบบ AI ที่อธิบายได้ (Explainable AI): ไม่เพียงแค่แจ้งเตือนภัย แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจที่มาที่ไปของการแจ้งเตือนได้ง่ายขึ้น ทำให้ตัดสินใจรับมือกับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. การค้นหาภัยคุกคามเชิงรุก: ระบบจะคอยสแกนและวิเคราะห์พฤติกรรมต่างๆ ในเครือข่าย เพื่อตรวจจับความผิดปกติและภัยคุกคามที่แฝงตัวอยู่ ก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้น
3. คู่มือตอบสนองต่อเหตุการณ์อัตโนมัติ: เมื่อตรวจพบภัยคุกคาม ระบบจะแนะนำขั้นตอนการรับมือที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถจัดการกับภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แม้ในกรณีที่เผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่

ธนจักรยังเน้นย้ำถึงความสามารถของซินแคลร์ในการรับมือกับ “เนชั่นสเตทแฮคเตอร์” กลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่างประเทศและมีความสามารถในการโจมตีสูง 
“เรานำความรู้และประสบการณ์จากทีมผู้เชี่ยวชาญมาพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการโจมตีเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามระดับสูงที่องค์กรทั่วไปอาจไม่สามารถรับมือได้” เขากล่าว

นอกจากนี้ ซินแคลร์ยังลงทุนอย่างมากในการพัฒนาบุคลากร “เรามีการลงทุนในทีมงานที่มีความรู้และทักษะเฉพาะทางด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านนี้ได้อีกทางหนึ่ง เรายังคาดหวังว่าจะสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศให้กับทีมงานในประเทศไทย เพื่อพัฒนาโซลูชันที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับบริษัทระดับโลก” ธนจักรอธิบาย

ด้าน Joel Wong ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซินแคลร์ เสริมว่า “แพลตฟอร์มของเราไม่เพียงแต่ตรวจจับภัยคุกคาม แต่ยังสามารถติดตาม ระบุรายละเอียด และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรสามารถรับมือกับภัยคุกคามได้อย่างครบวงจร”

ซินแคลร์นำเสนอบริการในรูปแบบ subscription ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงได้โดยไม่ต้องลงทุนสูงในการสร้างระบบภายในองค์กรเอง โดยมีแผนขยายตลาดไปยังหลากหลายภาคส่วน ทั้งโรงพยาบาล ธนาคาร และอุตสาหกรรมการผลิต นอกเหนือจากหน่วยงานด้านความมั่นคงของประเทศที่เราให้บริการอยู่แล้ว” Wong กล่าว

อย่างไรก็ดี ความน่าเชื่อถือของซินแคลร์ยังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยเป็นผู้ให้บริการ Managed Detection and Response (MDR) แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการนำเสนอใน Gartner Peer Insights ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรีวิวชั้นนำสำหรับโซลูชันไอทีระดับองค์กร

นอกจากนี้ ซินแคลร์ยังเป็นผู้บุกเบิกในการนำมาตรฐาน NIST Cybersecurity Framework 2.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก มาปรับใช้ในประเทศไทย

“การได้รับการยอมรับจาก Gartner และการนำมาตรฐานระดับโลกมาใช้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาโซลูชันที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามมาตรฐานสากล สิ่งนี้สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเราว่า พวกเขาจะสามารถรู้เท่าทันภัยไซเบอร์และป้องกันได้อย่างทันท่วงที ไม่ว่าแฮกเกอร์จะมาในรูปแบบไหนก็ตาม” 

ด้วยนวัตกรรม AZURITES OpenXDR ซินแคลร์หวังจะยกระดับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับองค์กรในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่ามกลางภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง