'ดีป้า' ยอมรับดัชนีอุตฯดิจิทัลปรับลง อ้างโดนเศรษฐกิจชะลอพ่นพิษ
ดีป้า เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 3/2567 ปรับตัวลดลง เหตุผู้ประกอบการ การบริโภคภาคเอกชนลดลง อัตราดอกเบี้ยที่สูงกระทบการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงเหตุอุทกภัยโดนกระทบ
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล (Digital Industry Sentiment Index) ไตรมาส 3 ประจำปี 2567 ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย
- กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Device)
- กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (Software)
- กลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล (Digital Service)
- กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content)
- กลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (Telecommunication)
โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ที่ระดับ 52.0 ปรับตัวลงจากระดับ 52.4 ของไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในระดับเชื่อมั่น โดยปัจจัยด้านผลประกอบการ ด้านปริมาณการผลิตฯ ด้านคำสั่งซื้อฯ ด้านการจ้างงาน และด้านการลงทุนปรับตัวลง ขณะที่ปัจจัยด้านต้นทุนประกอบการปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสภาวะหนี้ครัวเรือนและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนลดลง
อีกทั้ง กระทบการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือที่สร้างแรงกดดันต่อผู้บริโภค ในทางกลับกันเสถียรภาพทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นผู้ประกอบการและนักลงทุน ขณะที่การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจไม่ลดลงไปมาก และส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัลยังคงอยู่ในระดับเชื่อมั่น
โดยหากแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า 3 กลุ่มอุตสาหกรรมมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ สูงกว่าระดับ 50 ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะy อยู่ที่ระดับ 52.2 กลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อยู่ที่ระดับ 52.6 และกลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัล อยู่ที่ระดับ 54.1 ส่วนอีก 2 กลุ่มอุตสาหกรรมมีดัชนีความเชื่อมั่นฯ ต่ำกว่าระดับ 50 ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ อยู่ที่ระดับ 47.7 และกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม อยู่ที่ระดับ 49.5
"ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมดิจิทัลไทยคาดหวังให้ภาครัฐปรับแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัล ผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ออกมาตรการสนับสนุนสินค้าและบริการดิจิทัลไทยภายในประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถสู่ตลาดโลก"
โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี โดย ดีป้า วางแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมเกมเพื่อยกระดับการลงทุน และพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ของไทย นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยมีส่วนร่วมในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และควรตรวจสอบผู้ประกอบการต่างชาติที่ทำธุรกิจโดยไม่เสียภาษี
เขา มองว่า ในอนาคต 3 เดือนข้างหน้า คาดการณ์ว่า ดัชนีฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 52.6 ประเด็นที่ผู้ประกอบการมีความคาดหวังมากที่สุดคือเสถียรภาพทางการเมืองที่ดีขึ้นจะช่วยให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดำเนินการอย่างราบรื่นในไตรมาสถัดไป ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคเพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ ทำให้ภาพรวมการคาดการณ์ในอนาคตอยู่ในเกณฑ์ดี
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวกับสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว โดยการเร่งหาแหล่งเงินทุนและระมัดระวังค่าใช้จ่ายด้านต้นทนไม่ให้เกิดภาระหนี้สะสมจนมากเกินไป เพื่อประคับประคองธุรกิจในสภาวะที่ฐานลูกค้าน้อยลงและมีการแข่งขันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ความผันผวนของค่าเงินบาทยังมีผลต่อแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการและนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงกระทบขีดความสามารถการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลก
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจึงคาดหวังว่าทางภาครัฐจะดำเนินการนโยบายที่กระตุ้นการใช้จ่ายภาคเอกชนและช่วยลดค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการของในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีไปจนถึงช่วงไตรมาสต้นปีถัดไป โดยในภาพรวมผู้ประกอบการยังคงมีความเชื่อมั่น แม้ว่าจะมีระดับความเชื่อมั่นลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมาเล็กน้อยเมื่อวิเคราะห์สถานการณ์โดยรวมของประเทศที่คาดว่ากระทบกับปัจจัยด้านผลประกอบการ ด้านปริมาณการผลิต ด้านคำสั่งซื้อ ด้านการจ้างงาน และต้านการลงทุนเพื่อประกอบการ ที่ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า
โดยพบว่าสาเหตุสำคัญที่กระทบกับกับปัจดังกล่าว ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเนื่องจากสภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูงและราคาพลังงานมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการลงทุนภาคเอกชนลดลง คำสั่งซื้อและรายได้จึงมีการทรงตัวตัวหรือลดลงเล็กน้อย จึงต้องปรับปริมาณการผลิตให้สอดคล้องกับจำนวนลูกค้าในช่วงไตรมาสนี้
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการมีแนวโน้มที่จะปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อลดต้นทุนทุนกิจการให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่ขบเขา จึงชะลอการจ้างบุคลากรเพิ่มเติมและลงทุนแค่การบำรุงรักษาและช่อมแชมอุปกรณ์ ในขณะที่ปัจจัยด้านต้นทนประกอบการปรับตัวดีขึ้นจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาชะลอตัวในช่วงไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งช่วยลดต้นทุนการนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบจากต่างประเทศ รวมถึงการจ้างบุคลากรหรือองค์กรภายนอกจากต่างประเทศ