‘เอคเซนเชอร์’ ลุยสมรภูมิ 'ไซเบอร์ซิเคียวริตี้' ดึง GenAI สกัดภัยคุกคาม

นายวาริท นำชัยศิริ หัวหน้าฝ่ายซิเคียวริตี้ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า นักวิจัยด้านข่าวกรองไซเบอร์ของเอคเซนเชอร์ (ACI) ค้นพบว่า อาชญากรไซเบอร์ใช้ Gen AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ในด้านมืดมากขึ้น เพื่อทำการโจมตีทางไซเบอร์รูปแบบใหม่

พบด้วยว่า ปริมาณการซื้อขายเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับ Deepfake บนเว็บมืด เพิ่มสูงขึ้นถึง 223% ในไตรมาสแรกของปี 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2566

ทีม ACI คาดการณ์ว่า น่าจะมีการโจมตีทางไซเบอร์โดยใช้ AI มากขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ และเป็นสัญญาณเตือนว่าองค์กรต่างๆ จําเป็นต้องนำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ใช้ AI ขั้นสูงมาทำการตรวจจับ ตอบโต้ คาดการณ์ และป้องกันภัยคุกคามในแบบเรียลไทม์

ภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ไปจนถึงช่องโหว่ของระบบในห่วงโซ่อุปทาน

สำหรับประเทศไทยในฐานะที่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลชั้นนำทำให้เผชิญความเสี่ยงเหล่านี้มากขึ้น องค์กรจำเป็นต้องมีโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของ Gen AI ที่จะช่วยให้องค์กรรับมือกับความซับซ้อนต่างๆ ยกระดับการป้องกัน และทำให้เกิดความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัว สร้างความมั่นใจได้ว่าองค์กรจะปลอดภัยและแข่งขันได้ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

สำหรับ เอคเซนเชอร์ ล่าสุด ประกาศเปิดตัวบริการและความเชี่ยวชาญใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปฏิรูปธุรกิจและช่วยให้การปรับตัวทางไซเบอร์รวดเร็วขึ้นด้วยพลังของ Gen AI ที่ช่วยป้องกันสื่อลวงแบบ Deepfake และโซลูชันความปลอดภัยข้อมูลแบบควอนตัมเพื่อช่วยให้ลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (cyber-resilient)

นอกจากนี้ จากที่หลายองค์กร (86%) กําลังหาทางหรือวางแผนรวมระบบของเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ และสอดคล้องกับระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เอคเซนเชอร์จึงได้เสริมพลังของบริการหลักด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ด้วยชุดโซลูชันที่ช่วยดูแลสินทรัพย์ส่วนกลางที่นำ Gen AI เข้ามาผนวกในทุกบริการ

เพื่อเพิ่มความสามารถในการเตรียมตัวและตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์รอบด้าน ทั้งในห่วงโซ่อุปทาน ระบบคลาวด์ แอปพลิเคชัน ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์รวมถึงการบริหารข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล และการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้น เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว ประสิทธิภาพ และช่วยให้ลูกค้าป้องกันภัยคุกคามจากเทคโนโลยี AI ได้อย่างมั่นใจ

เอคเซนเชอร์มองว่า ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ยุคใหม่มีศักยภาพสูงมากพอในการปกป้องทุกภาคส่วนของธุรกิจตั้งแต่ระบบดิจิทัลหลัก (Digital Core) ไปจนถึงห่วงโซ่อุปทาน โดยใช้เทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์และระบบป้องกันแบบควอนตัม (Quantum-proof) ในการช่วยธุรกิจรับมือกับภัยคุกคามขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้

นอกจากนี้ มีบริการและศูนย์กลางความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถปกป้องสินทรัพย์สําคัญ เพิ่มความยืดหยุ่น และนำพาองค์กรให้อยู่รอดในสนามการแข่งขันระดับภูมิภาคในยุคดิจิทัลที่ซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ ซึ่งช่วยเร่งการสร้างนวัตกรรมและสร้างสรรค์คุณค่าด้านต่างๆ ได้เร็วขึ้น

จากรายงานของการ์ทเนอร์พบว่า ความกังวลเรื่องการโจมตีที่ยกระดับรุนแรงมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี AI ขณะเดียวกันเป็นความกังวลที่ติดอันดับท็อปจากการสำรวจเรื่องความเสี่ยงในอนาคตของการ์ทเนอร์ในไตรมาสที่สองของปี 2567