โอกาส’ และ ‘อุปสรรค’ อุตสาหกรรมไอทีไทยในปี 2568

โอกาส’ และ ‘อุปสรรค’ อุตสาหกรรมไอทีไทยในปี 2568

หนึ่งปีที่ผ่านมา บทความที่ผมเขียนลงในคอลัมน์ “Think Beyond” ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ มักเน้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งองค์กร และบุคคลทั่วไป เช่น การเปลี่ยนวิธีการทำงาน การปรับตัวของธุรกิจ และการสร้างโอกาสใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล

หนึ่งปีที่ผ่านมา บทความที่ผมเขียนลงในคอลัมน์ “Think Beyond” ของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ มักเน้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งองค์กร และบุคคลทั่วไป เช่น การเปลี่ยนวิธีการทำงาน การปรับตัวของธุรกิจ และการสร้างโอกาสใหม่ๆ ในยุคดิจิทัล การปรับเปลี่ยนองค์กรให้เตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาทักษะของบุคลากร ผลสำรวจและการแข่งขันด้านดิจิทัลต่างๆ ของโลก และนโยบายด้านดิจิทัลต่างๆ ของประเทศ

แต่เมื่อย้อนไปทบทวนบทความพบว่า ส่วนใหญ่จะกล่าวถึงแนวโน้มเทคโนโลยีด้านเอไอมากที่สุด รองลงมาเป็นเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งสองเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่สำคัญสุดในปีหน้า และยังจะเห็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทั้งสองเรื่องนี้ที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอีกมาก ซึ่งเราเองต้องเตรียมตัวให้รับกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เพื่อสามารถทางการแข่งขัน

ในรอบปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มสำคัญหลายประการที่กำลังหล่อหลอมอุตสาหกรรมไอทีของประเทศไทยให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ โดยประกอบไปด้วยแนวโน้ม 6 ประการ ดังนี้

1. ความต้องการบริการไอทีที่เพิ่มขึ้น : องค์กรต่างๆ มีการลงทุนในโครงการด้านไอทีเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงองค์กรให้รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

2. การเติบโตด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ : ความปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นปัญหาสำคัญในสังคมและมีผล กระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลที่รวดเร็วและภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น และมีการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้น ทั้งจากความปลอดภัยบนคลาวด์ ความปลอดภัยในเทคโนโลยี IoT และความปลอดภัยจากระบบอัตโนมัติต่างๆ จึงทำให้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เข้มงวดขึ้น และความต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะที่เพิ่มขึ้น

3. ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น : ปีที่ผ่านมามีการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงของอุตสาหกรรมไอทีมากขึ้น เช่น การลงทุนทางด้านเอไอ การวิเคราะห์ข้อมูล คลาวด์คอมพิวติ้ง ดาต้าเซ็นเตอร์ และความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่กำลังขับเคลื่อนการเติบโตในหลากหลายภาคส่วน

4. การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ : รายงานของ "e-Conomy SEA 2024 ระบุว่ามูลค่าสินค้ารวม (GMV) ของตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยคาดว่าจะเติบโต 19% เป็น 26 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของวิดีโอออนไลน์และบริการท่องเที่ยวออนไลน์

5. นโยบายของรัฐบาล : รัฐบาลมีนโยบายหลายด้านที่สนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านโครงการต่างๆ เช่น ไทยแลนด์ 4.0 และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กำลังดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และล่าสุดก็พยายามผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านเอไอหรือดาต้าเซ็นเตอร์

6. ค่าตอบแทนของผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเพิ่มขึ้น : เงินเดือนสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีในประเทศไทยยังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการทักษะด้านไอทีเฉพาะทางที่สูง แนวโน้มนี้ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในประเทศ

การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นโดยบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่: บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต่างประเทศกำลังเพิ่มการจ้างงานในประเทศไทย ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้มีความสามารถด้านไอทีของประเทศและศักยภาพการเติบโตของตลาด แต่อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมไอทีเราก็ยังมีความท้าทายหลายประการที่จะยังเป็นประเด็นในปี 2568 ได้แก่

1. ภัยคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์  อาชญากรไซเบอร์มีการพัฒนากลยุทธ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อปกป้องระบบและข้อมูล ซึ่งรวมถึงการลงทุนในการฝึกอบรมด้านความตระหนักเรื่องความปลอดภัย และการใช้โซลูชันความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อบรรเทาภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

2. การขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถ อุตสาหกรรมไอทียังคงเผชิญกับการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่มีทักษะ โดยเฉพาะในด้านเอไอ คลาวด์คอมพิวติ้ง และความปลอดภัยทางไซเบอร์ การขาดแคลนนี้เกิดจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วและสภาพแวดล้อมด้านไอทีที่ซับซ้อนมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ในการดึงดูดและรักษาบุคลากร เช่น การพัฒนาทักษะ การจ่ายค่าตอบแทนที่แข่งขันได้ และการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี

3. ข้อจำกัดด้านงบประมาณ งบประมาณที่จำกัดอาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนานวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยี ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญในการลงทุนด้านไอทีอย่างรอบคอบ ประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนของโครงการต่างๆ และหาโซลูชันที่คุ้มค่าเพื่อใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด

4. การเชื่อมโยงกับระบบไอทีเดิม การผสานเทคโนโลยีใหม่เข้ากับระบบไอทีเดิมที่ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่อาจเป็นความท้าทาย โดยระบบเก่ามักมีความซับซ้อน ล้าสมัย และขาดความยืดหยุ่นในการรองรับเทคโนโลยีและการผสานระบบใหม่ๆ ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องพัฒนากลยุทธ์ในการทำให้ระบบเก่าทันสมัย เช่น การย้ายไปใช้โซลูชันบนคลาวด์ หรือการใช้วิธีแบบไฮบริดที่ผสานระบบเก่าเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

5. กฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลและความเป็นส่วนตัว เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และ GDPR ในระดับสากล การปฏิบัติตามกฎระเบียบเหล่านี้อาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตและการพัฒนานวัตกรรม แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจธุรกิจอาจต้องมีแซนด์บ็อกซ์ด้านกฎระเบียบ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมควบคุมให้ธุรกิจได้ทดสอบเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการช่วยให้บริษัทต่างๆ รับมือกับความท้าทายเหล่านี้

โดยสรุป อุตสาหกรรมไอทีของไทยยังคงมีศักยภาพสูงสำหรับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในอนาคต อย่างไรก็ตาม ธุรกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่ม เอสเอ็มอีจำเป็นต้องเร่งปรับตัวสู่การเปลี่ยนผ่านดิจิทัล หากมีการนำเทคโนโลยีขั้นสูงและโซลูชันดิจิทัลมาใช้เพิ่มขึ้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เสริมความสามารถแข่งขัน และสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมไอทีไทยในการเติบโตในเวทีโลกต่อไป