‘เลอโนโว’ เจาะ 9 เทรนด์ เทคโนโลยีทรงอิทธิพลปี 2568

‘เลอโนโว’ เจาะ 9 เทรนด์ เทคโนโลยีทรงอิทธิพลปี 2568

"เลอโนโว" เผย 9 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะเข้ามามีอิทธิพลต่อองค์กรธุรกิจในปี 2568 มาดูกันว่ามีอะไรที่ต้องเตรียมรับมือเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในโลกที่มีความผันผวนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

KEY

POINTS

  • เลอโนโว เผย9 เทรนด์ เทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทในธุรกิ

  • ธุรกิจยังต้องเดินหน้าปรับตัวเพื่อก้าวตามเทรนด์เทคโนโลยี

  • ปี 2568 จะเป็นปีที่มีการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีครั้งสำคัญจากอิทธิพลของ AI

ปี 2568 จะเป็นปีที่มีการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีครั้งสำคัญจากอิทธิพลของ AI

วรพจน์ ถาวรวรรณ ผู้จัดการทั่วไปประจำไทย และภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว กล่าว พร้อมประเมินว่า เริ่มต้นปี 2568 ธุรกิจทั้งในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิกยังคงต้องเดินหน้าปรับตัวเพื่อก้าวตามเทรนด์เทคโนโลยีที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เดินหน้า

เลอโนโว เผย 9 เทรนด์ เทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทในธุรกิจ โดยทั้ง 9 เทรนด์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอาทิ AI, การจัดการข้อมูล, กลยุทธ์การใช้งานคลาวด์, ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการสร้างความยั่งยืน

ธุรกิจเพิ่มการลงทุน AI

บทบาทของ LLMs เฉพาะทางที่จะเข้ามาพลิกโฉมการใช้งาน AI : การใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ หรือ LLM ที่เจาะจงสำหรับแต่ละอุตสาหกรรมหรือโดเมนนั้นจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการใช้งาน AI ทางธุรกิจ

เพิ่มการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ AI : ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความตื่นตัวอย่างมากในเรื่องของ AI และ Generative AI ปี 2568จะเป็นปีที่ได้เห็นการลงทุนด้าน AI เพิ่มขึ้น ทั้งมีการคาดการณ์ว่าการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ AI จะมีมูลค่าสูงถึง 1.1 แสนล้านดอลลาร์ ภายในปี 2571

AI จะเข้ามาเป็นเพื่อนร่วมงาน : Agentic AI หรือ AI เอเจ้นท์ ที่มีความสามารถในการปฎิบัติงานหรือตัดสินใจได้ด้วยตนเอง จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในอีก 2 -3 ปีข้างหน้าทั้งในแง่ของส่วนบุคคลและส่วนรวม

จะเป็นครั้งแรกที่ AI ไม่ได้มีบทบาทเพื่อตอบโจทย์การทำงานพื้นฐานทั่วไปหรือเพียงแค่การตอบแชท แต่ AI จะสามารถทำงานได้ทั้งเชิงรับเชิงรุก กล่าวคือ AI จะเป็นเพื่อนรวมงานกับมนุษย์ได้อย่างแท้จริง

การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า ภายในปี 2571 การตัดสินใจที่เกิดขึ้นในการทำงานของแต่ละวันจะมี AI เข้ามาช่วยตัดสินใจกว่า 15%

ความต้องการการใช้งาน AI ในโครงสร้างพื้นฐาน: เซิร์ฟเวอร์รองรับการใช้งาน AI นั้นได้รับการใช้งานที่แพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจหันมาใช้งาน AI และ generative AI มากยิ่งขึ้น

เลอโนโวคาดการณ์ว่าปี 2568 ความต้องการในโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งาน AI โดยเฉพาะนั้นจะเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าทำให้การออกแบบเซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับการใช้งาน AI เพิ่มขึ้นตามดีมานด์

‘คลาวด์  - ไซเบอร์ซิเคียวริตี้’ ยังโต

ความต้องการใช้งานระบบคลาวด์จากหลายผู้ให้บริการ : การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและหลากหลายทำให้ธุรกิจจำนวนมากในเอเชียแปซิฟิกเริ่มพิจารณาการใช้งานระบบคลาวด์จากหลายผู้ให้บริการ หรือ multi-cloud เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น สามารถปรับขนาดการใช้งานได้ตามความต้องการ

รวมถึงป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากใช้งานคลาวด์จากผู้บริการรายเดียวต้องหยุดชะงักลง เลอโนโวคาดว่าปี 2568 จะมีความต้องการใช้งานคลาวด์เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะคลาวด์โซลูชันที่เกี่ยวกับ AI

การลงทุนใน Edge Computing จะเพิ่มขึ้นเพื่อเสริมความรวดเร็วแบบเรียลไทม์ : เลอโนโวพบว่า การใช้งาน edge นั้นเพิ่มขึ้นราว 25% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเมื่อเปรียบเทียบระหว่างปี 2566 และ 2567

โดยในปี 2568 อุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน edge ซึ่งสร้างข้อมูลได้มากกว่า รวมถึงโซลูชัน edge computing ที่ประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นตัวผลักดันที่สำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และเพิ่มประสิทธิผลให้กับงาน

ความปลอดภัยทางไซเบอร์จะยังคงเป็นเรื่องที่สร้างความกังวล  : การสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ยังคงเป็นหัวข้อที่ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิคให้ความสนใจในปี 2568 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

ปัจจุบัน ภาครัฐในหลายประเทศล้วนเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องดังกล่าวผ่านกฎหมายหรือ พรบ.ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity Act) ทำให้ธุรกิจหันมาลงทุนเรื่องความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์จะเติบโต : กลุ่มธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากสาเหตุการบริโภคข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องในปี 2568 ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชนที่ต้องบริหารการใช้พลังงานและการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น จากความต้องการโครงสร้างระบบพื้นฐานที่รองรับ AI

ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันธุรกิจ : การใช้งานบริการดิจิทัลและ AI ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ความต้องการในการใช้พลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาค คาดว่า ปี 2568 ธุรกิจจะให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีที่คำนึงถึงความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

มุ่งเป็น ‘โซลูชัน คอมพานี’

สำหรับเลอโนโว ปี 2568 ยังคงมุ่งรักษาความเป็นผู้นำตลาดพีซี ขณะเดียวกันเชื่อว่ามีโอกาสเติบโตตลาดอื่นๆ ได้อีกมาก รวมถึงกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และโซลูชันต่างๆ สำหรับองค์กรธุรกิจ วันนี้เลอโนโวไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตพีซีแต่เป็นอีโคซิสเท็มที่ครบวงจร

จากข้อมูลของ ไอดีซี พบว่า เลอโนโวสามารถครองเบอร์ 1 ในตลาดพีซีโลกมาได้มา 6 ไตรมาสติดต่อกัน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดราว 21%

อย่างไรก็ดี ด้วยสภาวะเศรษฐกิจไม่ได้ดีมากนัก ผู้บริโภคไม่ได้มีกำลังซื้อสูง เลอโนโวได้จึงจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเพื่อให้บริการโปรแกรมทางการเงินเพิ่มเติมสำหรับเอนเตอร์ไพรส์และองค์กรขนาดใหญ่ รูปแบบ “ดีไซ์ แอส อะเซอร์วิส” โดยมุ่งเป็น “Solution Driven Company”

ส่วนของกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ปีนี้ไลน์อัปสินค้าของบริษัทจะรองรับเทคโนโลยี AI ทั้งหมด หลังจากที่แข็งแรงอยู่แล้วในตลาดคอนซูเมอร์ ได้พยายามเพิ่มความแข็งแรงในตลาดโซลูชัน โดยเชื่อว่าโอกาสทางการตลาดและการเติบโตมีอยู่สูงมาก

ปัจจุบัน รายได้หลักในประเทศไทยยังคงเป็นธุรกิจพีซีที่ยังคงมีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาเป็นเซอร์วิสและโซลูชัน และอินฟสราสตักเจอร์ตามลำดับ