สามารถฯ เปิดหน้าลุย 'เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' ขอทำระบบไอที - โซลูชัน

สามารถฯ เปิดหน้าลุย 'เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' ขอทำระบบไอที - โซลูชัน

กลุ่มสามารถฯ แย้มแผนธุรกิจขอเอี่ยวทำระบบไอทีซิเคียวริตี้ โซลูชันหลังบ้าน หากรัฐแจ้งเกิด 'เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์' ปักธงปี 68 พลิกโฉมธุรกิจ สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน ตั้งเป้ารายได้ 13,500 ล้านบาท โต30% ชูธุรกิจไอซีที และ การบินมาแรง

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้วนั้น

ส่วนตัวมองว่า จะช่วยสร้างดึงดูดและสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้ครบทุกมิติมากขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มสามารถฯ เองมีความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบไอซีทีโซลูชันผ่านบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด ซึ่งได้เป็นผู้ชนะงานโครงการภาครัฐ จึงมั่นใจในศักยภาพตัวเองที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการวางระบบหลังบ้านให้กับเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 

“ตอนนี้ยังพูดรายละเอียดอะไรมากไม่ได้ เพราะยังต้องรอความชัดเจนในแง่กฎหมายที่ก่อน แต่งานในส่วนนี้สามารถฯมีการคุยเนื้องานไปบ้างแล้ว ก็มั่นใจว่าเรามีศักยภาพทำได้“

สามารถฯ เปิดหน้าลุย \'เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์\' ขอทำระบบไอที - โซลูชัน เขา กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจของกลุ่มสามารถฯในปี 2568 ว่า ที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับตัวเพื่อรองรับการเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มีการรุกไปในธุรกิจใหม่และรักษาการเติบโตในธุรกิจเดิม สร้างรายได้ผ่านโมเดลธุรกิจ B2G2C มากขึ้น ด้วยการศึกษาความต้องการของหน่วยงานภาครัฐเพื่อพัฒนาด้านการให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แล้วเข้าไปลงทุนพัฒนาและติดตั้งระบบให้ก่อน 

อีกทั้ง ยังมีการสร้างพอร์ตในหลากหลายธุรกิจ เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงและสร้างโอกาสทางธุรกิจ ดังนั้น ปีนี้จึงตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 13,500 ล้านบาท กำไรราว 690 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าโดยพุ่งเป้าในการสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งด้วยการเพิ่มรายได้ประจำขึ้นประมาณ 25% ทั้งนี้ มีปัจจัยบวกหลายอย่างมาเสริมความมั่นใจ ซึ่งมีรายละเอียดแต่ละสายธุรกิจดังนี้

สายธุรกิจดิจิทัล ไอซีที โซลูชั่น นำโดย บมจ.สามารถเทลคอม

ปีนี้จะขยายฐานลูกค้าและพันธมิตรใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง มุ่งเน้นการสร้างโครงการใหญ่ เพื่อช่วยให้ลูกค้าลดภาระด้านงบประมาณ ด้วยรูปแบบ Outsource Services สร้างรายได้ประจำระยะยาว เพื่อความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจ ปัจจุบันมีงานในมือแล้วมูลค่ากว่า 5,500 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีต่อๆไป  

โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้ อยู่ที่ 6,500 ล้านบาท มั่นใจว่าปีนี้สายธุรกิจไอซีทีจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 40% ด้วยโอกาสจากหลายโครงการที่เลื่อนมาจากปีที่แล้ว ประกอบกับโครงการใหม่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ๆ จากภาครัฐ คาดว่าในปีนี้จะมีโครงการใหม่ ที่จะเข้าร่วมประมูลทั้งโครงการรูปแบบ Outsource Services ขนาดใหญ่หลักหมื่นล้านบาท 

สายธุรกิจ Utilities & Transportations นำโดย บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น

ตั้งเป้ารายได้ที่ 6,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 9% ด้วยโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน โดยเฉพาะ บมจ.สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น ผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาภายใต้ CATS คาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 8% ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจการบินเริ่มขยายตัวเต็มที่หลังวิกฤตโควิด รัฐบาลกัมพูชามีนโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ 

โดยช่วงปลายปี 2567 ได้มีการเปิดให้บริการสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ ดาราสาคร ที่เกาะกง และภายในปีนี้จะมีการเปิดสนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่ คาดว่าปีนี้จำนวนผู้โดยสารอาจมีมากถึง 7 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเที่ยวบินโดยรวมเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 แสนเที่ยวบิน 

ธุรกิจด้าน Power Construction & Services

โดยบริษัทเทด้าและทรานเส็ค มีงานในมือปัจจุบันรวม กว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงก่อสร้างสถานีไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ยังมีแผนรุกเข้าสู่การให้บริการอัปเกรด สถานีไฟฟ้าแบบเดิมให้เป็น Digital Substation ด้วยโดยมีแผนที่จะเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆในปีนี้กว่า 3,000 ล้านบาท ด้าน โครงการ Direct Coding ปัจจุบันยังเหลือสัญญาอีก 5 ปี เฉลี่ยรายได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท

สายธุรกิจ Digital Communications นำโดย บมจ.สามารถดิจิตอล

ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนมากกว่า 50% และจะเป็นปีแรกในรอบ 10 ปีที่จะหยุดการขาดทุน และกลับมามีผลการดำเนินงานเป็น บวกจากการวางรากฐานทางธุรกิจที่เริ่มแข็งแรง เพื่อโอกาสสร้างรายได้ประจำให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในปีต่อไป โดยเฉพาะโครงการ DTRS มีการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายเครื่องวิทยุลูกข่ายและค่าใช้บริการ Air Time ประมาณ 800 ล้านบาท และพุ่งเป้าขยายจำนวนผู้ใช้บริการไปยังหน่วยงานผู้ให้บริการประชาชน ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ การปกครองส่วนท้องถิ่น, บรรเทาสาธารณภัย และการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นต้น โดยตั้งเป้าจะมีผู้ใช้บริการ 9 หมื่นรายในปีนี้ และ 1.2 แสนราย 

นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า แม้ในปีที่ผ่านมาภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจะชะลอตัว แต่ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดของกลุ่มสามารถฯในรอบ 10 ปี ทั้งการรุกไปในธุรกิจใหม่ และรักษาการเติบโตในธุรกิจเดิม และมีแผนใหญ่ขยายธุรกิจพลังงานสะอาด และสิ่งแวดล้อม รับกับเทรนด์ที่ภาคธุรกิจให้ความใส่ใจกับความยั่งยืนมากขึ้น