กระทรวงดีอี ตีปีกมูลค่าศก.ดิจิทัลพุ่งทะลุกราฟกว่า 4.85 ล้านล้าน

'ดิจิทัล จีดีพี' โตแรง กระทรวงดีอี คาดตัวเลขพุ่ง 4.85 ล้านล้านบาท ขยายตัว 7.3% คิดเป็น 2.6 เท่า ของจีดีพีประเทศ ส่วนการลงทุนดิจิทัลได้อานิสงส์คลาวด์-ดาต้าเซ็นเตอร์หนุน
KEY
POINTS
- คาดการณ์เศรษฐกิจดิจิทัลปีนี้พุ่ง 4.85 ล้านล้
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ เศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2568 พบว่า มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลโดยรวม จะมีมูลค่า 4.85 ล้านล้านบาท มีการขยายตัว 7.3% จากปี 2567 และคิดเป็นการขยายตัว 2.6 เท่า ของการขยายตัวของมูลค่าจีดีพีโดยรวม ที่เพิ่มขึ้น 2.8%
แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจดิจิทัลขยายตัวสูง และเป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่ สนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ ขยายตัวมาโดยตลอด
ทั้งนี้ ในด้านการลงทุน คาดว่าการลงทุนด้านดิจิทัลจะขยาย 9.9% คิดเป็น 2.7 เท่า ของการลงทุนโดยรวมที่จะขยายตัว 3.6% โดยกระทรวงดีอีเองมุ่งมั่นที่จะยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ และผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนด้านบริการคลาวด์ ด้านดาด้า เซ็นเตอร์ และด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อื่น ๆ โดยเชื่อว่าจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้เศรษฐกิจดิจิทัลขยายตัวสูงในปีนี้
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ คณะกรรมการดีอี ได้สรุป ประมาณการเศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2568 ที่จัดทำขึ้นภายใต้สมมติฐาน ปัจจัยสนับสนุน ข้อจำกัด และความเสี่ยง โดยมีผลประมาณการที่สำคัญ
ดังนี้ 1. สมมติฐานเพื่อการประมาณการเศรษฐกิจดิจิทัล 2568 เศรษฐกิจโลก ขยายตัว 3.3% เศรษฐกิจไทย ขยายตัว 2.8% การใช้จ่ายดิจิทัลภาครัฐขยายตัว 3.5% การลงทุนภาครัฐด้านดิจิทัล ขยายตัว 3.5%
ส่วนการลงทุนภาคเอกชนด้านดิจิทัล ขยายตัว 10.3% โดยมีปัจจัยสนับสนุน การลงทุนจากต่างประเทศด้านดิจิทัลอาทิ คลาวด์ และดาต้า เซ็นเตอร์ และ AI นโยบายรัฐบาล Cloud First Policy นโยบายที่จะดันไทยให้เป็นดิจิทัลฮับและการเร่งรัดสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล กระแสการใช้ AI และการปรับตัวของภาคเอกชนในการใช้ AI การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการของคนไทยและนักท่องเที่ยงต่างชาติที่ใช้การชำระเงิน ใช้บริการผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น
สำหรับข้อจำกัดและปัจจัยเสี่ยง การผันผวนทางการเมือง และการค้าโลก จะมีความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ และสงครามในภูมิภาคต่าง ๆ ข้อจำกัดในการรองรับการลงทุนของประเทศ โดยเฉพาะด้านพลังงานสะอาด ด้านบุคคลกร เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ และการแข่งขันในการดึงดูดการลงทุนด้านดิจิทัลในภูมิภาค
นายเวทางค์ เสริมว่า ด้านการบริโภคภาคเอกชนในด้านดิจิทัลในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 7.6% จากปี 2567 สูงกว่าการขยายตัวของการบริโภคโดยรวมของประเทศที่เท่ากับ 3.3% ทั้งนี้ จากพฤติกรรมของผู้บริโภค ชาวไทยที่ซื้อบริการผ่านแพลต์ฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น สำหรับการอุปโภคภาครัฐด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ขยายตัว 4.3% จากพัฒนาระบบบริหารงาน และการให้บริการผ่านแพลต์ฟอร์มและช่องทางออนไลน์มากขึ้น
สำหรับ มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการด้านดิจิทัลในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 5.5% จากปี 2567 จากการความต้องการสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในระดับสูง การเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า การปรับตัวเข้าสู่บริการดิจิทัลของภาคธุรกิจต่าง ๆ การตื่นตัวต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นิยมใช้บริการจองห้องพัก การเดินทาง และบริการด้านการท่องเที่ยวผ่านแพลต์ฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ส่วนความต้องการผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ส่งผลให้ความต้องการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำมาผลิตสินค้าภายในประเทศเพิ่มขึ้น 5.3% จากปี 2567
“ศักยภาพของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลของไทย และการดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศของรัฐบาล เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศให้ขยายตัวสูง โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่จะมีผลสนับสนุนการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยี AI ในอนาคต
จึงคาดว่า “เศรษฐกิจดิจิทัลในปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา และเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ขยายตัว” นายเวทางค์ กล่าวเพิ่มเติม