ROVULA กลุ่มปตท.สผ. ส่ง ‘ยานยนต์ตรวจสอบใต้ทะเล’ รับดีมานด์บลูอีโคโนมี

ปัจจุบันการขยายตัวของเศรษฐกิจทางทะเล (Blue Economy) มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว คาดว่าสามารถสร้างมูลค่าถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 นอกจากนี้ตลาดการตรวจสอบซ่อมแซมของกลุ่มพลังงานใต้ทะเลมีมูลค่าเติบโต 72.46 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2572

ทำให้บริษัท โรวูล่า (ประเทศไทย) จำกัด ธุรกิจภายใต้ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด ของกลุ่มบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เข้ามาพัฒนา “เอ็กซ์พลอเรอร์ (Xplorer)” ยานยนต์และระบบ AI ตรวจสอบอุปกรณ์ใต้น้ำแบบอัตโนมัติ เพื่อรองรับการเติบโตกลุ่มพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานใต้ทะเล

จุดเด่นของเอ็กซ์พลอเรอร์ สามารถตรวจสอบท่อใต้ทะเลภายนอกที่ดีกว่ายานยนต์สำรวจใต้ทะเลแบบบังคับระยะไกล มีความแม่นยำในการระบุตำแหน่งที่เทียบเท่ากับ GPS ช่วยอำนวยความสะดวกการเก็บข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นในงานสำรวจและตรวจสอบท่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติใต้ทะเล

เช่น ลักษณะพื้นทะเลเหนือท่อ ระบบป้องกันการกัดกร่อนของท่อ โดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับวิธีการทำงานปกติได้ถึง 2 เท่า 

นายภัคชนม์ หุ่นสุวรรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โรวูล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมา แนวคิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใต้ทะเลมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทั้งการใช้ส่งพลังงานปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติเพื่อเป็นเชื้อเพลิงพลังงานสำหรับอุตสาหกรรม การสร้างและวางระบบเคเบิลใต้ทะเลเพื่อใช้ในการสื่อสาร หรือแม้กระทั่งสายไฟใต้ทะเลที่ใช้ในการส่งพลังงานไฟฟ้า ฯลฯ 

แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานต่างๆ นั้นก็ยังมีความท้าทาย โดยเฉพาะการนำอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีไปใช้งานในโลกใต้น้ำ ซึ่งต้องอยู่ในสภาวะที่มีแรงดันที่มากกว่าบนบกหลายเท่า จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการออกแบบอุปกรณ์ที่ใช้ใต้ทะเลลึกที่ต้องมีความแข็งแรงเพียงพอเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในขณะทำงาน

รวมทั้งทลายข้อจำกัดอื่นๆ เช่น ข้อจำกัดทางกายภาพของน้ำที่ไม่สามารถส่งผ่านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ รวมถึงเทคโนโลยีการสื่อสารและการนำทางที่ใช้ได้ดีบนบก เช่น Wifi, 4G/5G, GPS ที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมใต้น้ำได้ด้วยเช่นเดียวกัน 

“โรวูล่า จึงเข้ามาพัฒนา เอ็กซ์พลอเรอร์ (Xplorer) ยานยนต์สำรวจใต้ทะเลที่ปฏิบัติการด้วยระบบ AI ทำให้สามารถปฏิบัติการได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งออกแบบและพัฒนาด้วยทีมวิศวกรคนไทย เพื่อใช้ในภารกิจตรวจสอบโครงสร้างใต้น้ำหรือสำรวจพื้นผิวใต้ทะเล โดยสามารถตรวจสอบและเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์ ทำงานแบบอัตโนมัติไร้สาย

ไม่ต้องพึ่งพาเรือสนับสนุนขนาดใหญ่ในการปฏิบัติงาน ทำให้สามารถลดกำลังคนในการทำงาน พร้อมทั้งยังสามารถทำให้การดำเนินงานรวดเร็วขึ้น 50% รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในด้านความปลอดภัย และมีระบบนำทางอัจฉริยะที่จะเก็บข้อมูลและภาพแบบเรียลไทม์เพื่อประเมินสภาพและทำแผนการบำรุงรักษาของอุปกรณ์ได้อย่างแม่นยำ” นายภัคชนม์ กล่าว

ด้าน นายธษภิชญ ถาวรสุข ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท โรวูล่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า เอ็กซ์พลอเรอร์สามารถลดความต้องการของเรือสนับสนุนการทำงานขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าในการเช่าต่อวันที่สูงมากถึงวันละ 1.5 ล้านบาท เป็นเรือขนาดเล็กลง ทำให้ค่าเช่าเรือต่อวันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 

ทั้งนี้ ตัวยานมีน้ำหนักในอากาศอยู่ที่ 850 กิโลกรัม และทนความลึกได้ที่ 300 เมตร ขับเคลื่อนโดยใบพัดผลักดันน้ำจำนวน 8 ตัว ซึ่งจะทำให้ยานมีความสามารถเคลื่อนที่ได้ใน 6 องศาอิสระและสามารถหยุดนิ่ง ณ จุดใดจุดหนึ่งได้

มีความสามารถในการวิ่งตามท่อแบบอัตโนมัติโดยใช้คลื่นเสียง (Sonar) กล้อง VDO ในการหาแนวท่อเพื่อให้ระบบประมวลผลสั่งการให้ยานเคลื่อนที่ไปตามแนวที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าช่วงที่ท่อถูกทรายกลบ ระบบจะใช้ตำแหน่งที่ได้มาจากงานวางท่อในการนำทางแทนจนกว่าจะเห็นท่อพ้นขึ้นมาจากทราย 

และในระหว่างที่เอ็กซ์พลอเรอร์กำลังเคลื่อนที่อยู่เหนือท่อตัวยานจะทำการเก็บข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นในงานสำรวจและตรวจสอบท่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติใต้ทะเล เช่น ลักษณะพื้นทะเลใต้ท่อ (Seabed profile) ความเข้มสนามไฟฟ้า (Electric Field Gradient) พิกัด ฯลฯ โดยหลังจากจบภารกิจ XPLORER จะมีระบบกลับเข้าสถานีชาร์จและส่งข้อมูลแบบอัตโนมัติเพียงแค่การส่งคำสั่งครั้งเดียว 

ที่ผ่านมาเอ็กซ์พลอเรอร์ถูกนำมาใช้ในโครงการสำคัญๆ ของ ปตท.สผ. ในอ่าวไทย อีกทั้งยังได้มีการดำเนินงานร่วมกับธุรกิจพันธมิตรในอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก อื่นๆ

เช่น การใช้หุ่นยนต์ตรวจสอบโครงสร้างเขื่อนหรือการจัดทำแผนที่ใต้น้ำ เป็นต้น จึงทำให้นอกจากงานในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแล้ว ยานเอ็กซ์พลอเรอร์ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นที่มีความต้องการในการสำรวจพื้นผิวหรือโครงสร้างใต้น้ำอีกด้วย 

ปัจจุบัน บริษัท โรวูล่า ยังมีเทคโนโลยีที่ได้พัฒนาร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจอื่นๆ อย่าง XGATEWAY เรือผิวน้ำไร้คนขับ, Nautilus นวัตกรรมหุ่นยนต์ ซ่อมบำรุงท่อใต้ทะเลตัวแรกของโลก, Xspector ระบบการจัดการข้อมูลการสำรวจ ตรวจสอบบนคลาวด์ และ Aquatic monitoring ระบบตรวจจับและจำแนกสิ่งมีชีวิตทางน้ำ

ทางบริษัทวางบทบาทสู่ผู้นำและผู้สร้างสตาร์ตอัปที่พัฒนาเอไอ-หุ่นยนต์ แบบครบวงจรสำหรับการตรวจสอบทางทะเลและใต้ทะเลของไทย-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่ตลาด รวมถึงขยายฐานไปสู่กลุ่มพลังงานและพลังงานทดแทนผ่านเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจชั้นนำของไทยและในระดับโลกกว่า 5 ราย โดยยังวางเป้าหมายการเติบโตตั้งแต่ปี 2565 ไม่ต่ำกว่าปีละ 90%