ยุคใหม่ของ ‘ธุรกิจอสังหาฯ’ เมื่อ Generative AI เปลี่ยนเกมการแข่งขัน
Generative AI จะปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไร? นายหน้าตลาดบ้านต้องปรับตัว พัฒนาทักษะ และเรียนรู้การใช้ AI ในทิศทางไหน กรุงเทพธุรกิจชวนหาคำตอบ
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ดูเหมือนจะคงรูปแบบดั้งเดิมมาอย่างยาวนาน แต่ความจริงแล้ว เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์และผู้เกี่ยวข้องมาสักระยะใหญ่
ตั้งแต่การใช้ภาพถ่ายโดรน ไปจนถึงการนำเสนออสังหาริมทรัพย์แบบเสมือนจริง (3D) ล่าสุด ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการนี้เช่นเดียวกัน
ผลวิจัยของ McKinsey คาดการณ์ Generative AI จะสร้างมูลค่า 180 พันล้านดอลลาร์ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหมายความว่า บทบาทของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และพวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะนำเครื่องมือเอไอเข้ามาผสมผสานกับการทำงานในปัจจุบัน
Generative AI กับงานของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์
สำนักข่าว Fobes ได้เขียนรายงานเรื่อง How Generative AI Will Change The Job Of Real Estate Agents โดยมีใจความว่า Generative AI สามารถเข้ามาช่วยเหลืองานประจำวันของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ได้หลายด้าน
เช่น ช่วยสร้างคำอธิบายและรายละเอียดทรัพย์สินเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์วิชั่นวิเคราะห์ภาพถ่าย แผนผัง หรือแม้กระทั่งวิเคราะห์วิดีโอที่ถ่ายจากโดรน และแปลงข้อมูลเหล่านั้นให้เป็น text ที่น่าสนใจ
นายหน้าและนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์จะได้ประโยชน์จากการใช้ Generative AI วิเคราะห์แนวโน้มตลาดและมูลค่าทรัพย์สิน โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโอกาสการลงทุนเป็นภาษาธรรมชาติ นอกจากนี้ เอไอยังสามารถวิเคราะห์เอกสาร เพื่อลดเวลาในการตรวจสอบความถูกต้องและประเมินความเสี่ยง
ผู้ที่ทำงานด้านการประเมินราคาจะใช้เวลาน้อยลงในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล เนื่องจาก Generative AI จะทำให้กระบวนการระบุทรัพย์สินที่เทียบเคียงได้และปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อราคาทรัพย์สินเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแบบจำลองการประเมินมูลค่าอัตโนมัติ (AVM) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ในส่วนของนายหน้าสินเชื่อ Generative AI สามารถช่วยตรวจสอบความถูกต้องของใบสมัครสินเชื่อ ตรวจจับการทุจริต และเสนอแพ็กเกจสินเชื่อที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
ความท้าทายด้านจริยธรรม
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการใช้ Generative AI ในวงการอสังหาริมทรัพย์นั้นจะมีประโยชน์หลายได้ หากแต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านจริยธรรม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คน เช่น การเข้าถึงที่อยู่อาศัย ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องตระหนักถึงกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และระมัดระวังในการใช้ข้อมูลที่มีอคติ
นอกจากนี้ การรักษาความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะอสังหาริมทรัพย์มักเป็นการลงทุนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้คน
บทบาทใหม่ของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์
เมื่อ Generative AI เข้ามารับหน้าที่งานประจำและการวิเคราะห์ข้อมูล ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประเมินราคา นายหน้า และนักการตลาดจะต้องปรับบทบาทไปสู่การทำงานที่มีคุณค่าที่สูงขึ้น เช่น การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การแก้ปัญหาเฉพาะเจาะจง และการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นธุรกิจที่แข่งขันสูง การใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่างและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาด
เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ แม้ว่างานบางอย่างอาจหายไป โดยเฉพาะงานบริการลูกค้าระดับเริ่มต้นที่คาดว่าจะมีความเสี่ยงสูงถูกดิสรัปสูง แต่สายงานใหม่ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น เช่น วิศวกรพร้อมท์ (prompt engineer) ที่พัฒนา Generative AI ให้ทำงานตามที่ต้องการและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ท้ายที่สุด ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงนี้ ผู้ที่สามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเอไอได้ดีที่สุด มีแนวโน้มที่จะทำงานได้รวดเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่า
อ้างอิง: Fobes