อาคารสำนักงานเปิดศึกสงครามราคา! ชิงดีมานด์บริษัทข้ามชาติย้ายปักหมุดไทย

อาคารสำนักงานเปิดศึกสงครามราคา! ชิงดีมานด์บริษัทข้ามชาติย้ายปักหมุดไทย

อาคารสำนักงานระอุ เปิดศึกสงครามราคา! ชิงดีมานด์บริษัทข้ามชาติย้ายปักหมุดไทยโดยเฉพาะย่านใจกลางเมือง ส่งผลตลาดอาคารสำนักงานแข่งขันรุนแรง

KEY

POINTS

  • ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในตลาดอาคารสำนักงาน! หลังวิกฤติโควิด-19  มีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก
  • จากการที่ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แม้ธุรกิจบางส่วนปรับกลยุทธ์ให้ทำงานไฮบริด สามารถ Work from Home หรือ Work from Everywhere
  • ส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญกับ Work from Office
  • ทำให้พื้นที่อาคารสำนักงานมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะย่านใจกลางเมือง

ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ระบุว่า สำนักงานย่านศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD (Central Business District) มีการแข่งขันสูง! เนื่องจากอุปทาน “อาคารใหม่” ใช้กลยุทธ์ราคาเช่าที่ดึงดูดใจผู้เช่า ซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้เช่าในการต่ออายุสัญญาเช่า หรือการย้ายที่ตั้งสำนักงานไปยังอาคารใหม่ โดยเฉพาะอาคารสำนักงานใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว

หนึ่งในนั้น คือ ไรมอน แลนด์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี และอัลตร้าลักชัวรี ได้เปิดตัวโครงการ OCC (One City Centre) ภายใต้คอนเซปต์ “Reimagine Your World” เป็นอาคารสำนักงานที่สูงที่สุดในไทย ด้วยความสูง 275.76 เมตร ติดบีทีเอสเพลินจิต ปัจจุบันมีอัตราเช่าพื้นที่อาคารสำนักงาน 70% ค่าเช่าเฉลี่ย 1,500 บาทต่อตารางเมตร โดยผู้เช่าเริ่มย้ายเข้าพื้นที่แล้วหลายราย
 

อาคารสำนักงานเปิดศึกสงครามราคา! ชิงดีมานด์บริษัทข้ามชาติย้ายปักหมุดไทย

สำหรับผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ มีหลากหลายธุรกิจ เช่น ที่ปรึกษาระดับโลก ธนาคารระดับโลก บริษัทเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยวระดับโลก กลุ่มบริษัทชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ล่าสุด ลอว์ตัน เอเชีย อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาแล้วกว่า 25 ปี ได้เช่าพื้นที่สำนักงานบนชั้น 20 เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่

อาคารสำนักงานเปิดศึกสงครามราคา! ชิงดีมานด์บริษัทข้ามชาติย้ายปักหมุดไทย

ปัญญา เจนกิจวัฒนาเลิศ กรรมการบริหาร หัวหน้าแผนกอาคารสำนักงาน ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดอาคารสำนักงานแข่งขันกันอย่างรุนแรงเพื่อช่วงชิงลูกค้าเข้ามาเช่าพื้นที่ ก่อนที่ “วัน แบงค็อก” โครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งพัฒนาโดยกิจการร่วมทุนระหว่าง บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะเปิดโครงการเต็มรูปแบบช่วงปลายปีนี้ 

อาคารสำนักงานเปิดศึกสงครามราคา! ชิงดีมานด์บริษัทข้ามชาติย้ายปักหมุดไทย

วัน แบงค็อก ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านพระราม 4 จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ด้วยจุดขาย “ความยั่งยืน” ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ผู้เช่าโดยเฉพาะบริษัทต่างชาติให้ความสำคัญ นอกเหนือจากอาคารสำนักงานมาตรฐานสากล ออกแบบรองรับการใช้งาน สะดวก ปลอดภัย มีเทคโนโลยีทันสมัย และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้เช่า

ก่อนหน้านี้เมกะโปรเจกต์ “วัน แบงค็อก” ได้เปิดอาคารสำนักงาน “Tower 4” ริมถนนวิทยุ เริ่มให้ผู้เช่าเข้าตกแต่ง และย้ายเข้าได้ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.67ที่ผ่านมา ล่าสุดมีผู้เช่า 70-80%  ตามแผนจะมีการเปิดอาคารสำนักงานอีก 2 อาคาร ปลายปีนี้

อาคารสำนักงานเปิดศึกสงครามราคา! ชิงดีมานด์บริษัทข้ามชาติย้ายปักหมุดไทย

ทางด้าน นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงโครงการ เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ จำนวน 43 ชั้น ค่าเช่าอยู่ที่ 1,400-1,500 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูส ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่า 46,000 ล้านบาท ออฟฟิศดังกล่าว เซ็นทรัลพัฒนา เป็นเจ้าของ 100%  มีพื้นที่รวม 130,000 ตารางเมตร  เป็นพื้นที่ออฟฟิศให้เช่า 60,000 ตารางเมตร

เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส เป็นอาคารสำนักงานแห่งที่ 11 ของเซ็นทรัลพัฒนา คาดว่าปลายปีนี้จะมียอดจอง 20-40%  เตรียมเปิดบริการช่วงไตรมาส 2 ปี 2568

“เราต้องการพัฒนาเซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส ให้มีมาตรฐานระดับโลกเทียบกับ นิวยอร์ก ลอนดอน ด้วยทำเลไพร์มโลเคชั่น สีลม สาทร ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของไทย”

อาคารสำนักงานเปิดศึกสงครามราคา! ชิงดีมานด์บริษัทข้ามชาติย้ายปักหมุดไทย

สอดคล้องกับ ธิติวัฒน์ ธนาพรนิธินันท์ ผู้จัดการประเทศไทย IWG ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าแบบยืดหยุ่น (Flexible Workspace) หรือ เวิร์คสเปซภายใต้แบรนด์ Regus, Spaces และ HQ ระบุว่า ตลาดอาคารสำนักงานแข่งขันสูงจนอยู่ในภาวะ “สงครามราคา” อาคารสำนักงานบางแห่งยอมลดราคาค่าเช่าลง 25% หลังอัตราผู้เช่าลดลงเหลือ 70%

สะท้อนให้เห็นว่า เจ้าของอาคารมีความยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมที่จะเสนอเงื่อนไขพิเศษมากขึ้น เพื่อดึงดูดผู้เช่า และกระจายความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ รวมถึงมีการทำสัญญาเช่าเป็นระยะสั้นมากขึ้น ต่างจากอดีตเป็นการระยะยาวราย 3 ปี อีกทั้งมีพันธมิตรกับ Co-working Space ต่างๆ เพื่อขยายฐานไปยังกลุ่มผู้เช่าใหม่

จึงถือเป็น “โอกาสทอง” ของธุรกิจสำนักงานพร้อมใช้อย่าง IWG เข้ามาเติมเต็มความต้องการผู้ประกอบการอาคารสำนักงานให้เช่าตอบโจทย์พฤติกรรมของบริษัทยุคใหม่ ด้วยรูปแบบออฟฟิศสำเร็จรูป และพื้นที่สำนักงานแบบยืดหยุ่น สามารถทำได้หลากหลายสเกล ตั้งแต่ 2-3 ตารางเมตร ไปจนถึง 2,000-3,000 ตารางเมตร

จะเห็นว่า เวลานี้มีบริษัทข้ามชาติหลายแห่งโดยเฉพาะสัญชาติญี่ปุ่น และยุโรป เริ่มย้ายพนักงานที่ทำงานในสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคออกจากสิงคโปร์ เนื่องจากต้นทุนค่าเช่าสูงขึ้นมุ่งหน้าไปยังประเทศใกล้เคียงแทน เช่น ไทย และมาเลเซีย ส่งผลดีต่อตลาดอาคารสำนักงานในประเทศไทย

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์