“รัสเซีย” เตือน "อังกฤษ" หลังออกตัวแรงหนุนยูเครน
"ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน" ยอมนั่งโต๊ะเจรจายาว 20 ฟุต พูดคุยกับอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ด้วยท่าทีเป็นมิตร แต่ก็แสดงท่าทีแข็งกร้าวกับตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษ ด้วยการขู่โจมตีที่มั่นของอังกฤษบนแผ่นดิน NATO หลังอังกฤษออกตัวหนุนยูเครนถล่มรัสเซีย
เจมส์ ฮีปปีย์ รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษ จุดชนวนความขัดแย้งกับรัสเซียล่าสุด หลังออกตัวแรงว่าสนับสนุนให้ยูเครนโจมตีโครงสร้างสาธารณูปโภคของรัสเซีย และอ้างว่าเป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่ยูเครนใช้อาวุธของอังกฤษในการโจมตี ทั้งยังเสนอให้ส่งทหารอังกฤษกลับไปฝึกให้ทหารยูเครน หลังการสู้รบในโดเนตสค์กับลูฮันสค์ ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครนสิ้นสุดลง
เรื่องนี้ทำให้รัสเซียมองว่าเป็น“การยั่วยุ”และสวนกลับด้วยการขู่ว่า มีศักยภาพพอที่จะถล่มที่มั่นทางทหารบนแผ่นดินอังกฤษ และในดินแดนของประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) รวมทั้งนักการทูตของอังกฤษที่กลับไปกรุงเคียฟ หลังการถอนกำลังของทหารรัสเซีย ขณะเดียวกันก็เตือนว่ากำลังเตรียมถล่ม “ศูนย์กลางการตัดสินใจ” ในกรุงเคียฟเพื่อตอบโต้ ต่อให้มีนักการทูตอังกฤษหรือชาติตะวันตกอื่น ๆ อยู่ก็ตาม
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย กล่าวเป็นนัยว่าเป้าหมายในการโจมตีอาจเป็นประเทศสมาชิก NATO ที่จัดหาอาวุธให้ยูเครน โดยเธอตั้งคำถามว่า เราเข้าใจถูกต้องหรือไม่ว่า เพื่อขัดขวางการส่งกำลังบำรุงทางทหาร รัสเซียสามารถโจมตีเป้าหมายทางทหารในดินแดนของประเทศที่จัดหาอาวุธให้รัฐบาลยูเครนได้
“ที่สุดแล้ว สิ่งที่นำไปสู่ความตายและการนองเลือดในดินแดนยูเครน เท่าที่เธอเข้าใจอังกฤษคือหนึ่งในประเทศเหล่านี้” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าว
สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดพลาดมหันต์ของรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ ซึ่งโทเบียส เอลวู้ด ประธานคณะกรรมาธิการทหาร ให้ความเห็นว่าคำพูดของฮีปปีย์คือการชักศึกเข้าหาโปแลนด์ และเตือนว่ารัสเซียอาจเล่นงานเป้าหมายนอกแผ่นดินยูเครน ก็จะเป็นการดึงตะวันตกเข้าพัวพันในสงครามตัวแทนโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้