ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น 2.27 ดอลล์เหตุกังวลอุปทาน

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 119.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักวิเคราะห์มองว่า ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการตัดสินใจของวอชิงตันในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทต่างๆของจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอิหร่าน ที่ช่วยอิหร่านส่งออกปิโตรเคมี

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากกำลังผลิตที่ลดลงฮวบฮาบของลิเบีย เหลือแค่ระดับ 100,000 - 150,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อปีที่แล้ว และพวกนักวิเคราะห์ยังมีความกังวลว่าประเทศแห่งนี้อาจกำลังเผชิญปัญหาด้านการส่งมอบด้วย ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ

ทั้งนี้ เฟด มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537

นักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยจากการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

 นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาด หลังชาติตะวันตกประกาศคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสยังคงไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง เนื่องจากบางประเทศประสบปัญหาการผลิต