ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 194 จุดรับแรงซื้อหุ้นเติบโต
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(23มิ.ย.)ปรับตัวขึ้น 194 จุด รับแรงซื้อหุ้นเติบโตและหลังจากประธานเฟดแถลงว่าเฟดมุ่งมั่นควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่ก็ยอมรับว่าจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่การว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 194.23 จุด หรือ 0.64% ปิดที่ 30,677.36 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 35.84 จุด หรือ 0.95% ปิดที่ 3,795.73 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 179.11 จุด หรือ 1.62% ปิดที่ 11,232.19 จุด
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในวันนี้ว่า ความมุ่งมั่นของเฟดในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีนั้น "ไม่มีเงื่อนไข" แต่ก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่การว่างงานจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย
นายพาวเวล แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
"เราจำเป็นต้องฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคาจริง ๆ ? เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น เราก็จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดได้อย่างยั่งยืน ซึ่งภาวะนั้นจะทำให้ผลประโยชน์กระจายไปได้อย่างกว้างขวาง เป็นสิ่งที่เราต้องทำ" เขากล่าว
ทั้งนี้ นายพาวเวลแถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยเขาได้ถูกซักถามเกี่ยวกับความพยายามของเฟดที่จะควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างรุนแรงหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงอัตราการว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างมาก
เมื่อวันพุธ (22 มิ.ย.) นายพาวเวลแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาว่า เฟดพยายามจะไม่ทำให้เกิดภาวะถดถอย แต่ก็ระบุว่า อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะดังกล่าว ขณะที่สถานการณ์โลกที่อยู่เหนือการควบคุมในช่วงที่ผ่านมาทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะลดแรงกดดันด้านราคาโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
นายพาวเวลยังกล่าวในวันนี้ด้วยว่า มีความเสี่ยงที่การดำเนินการของเฟดอาจจะทำให้อัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้น โดยอัตราว่างงานอยู่ที่ 3.6% ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่าภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้มีการชะลอตัวลงบางส่วนก็ตาม
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 229,000 ราย ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย. แต่ยังสูงกว่าจำนวนที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 227,000 ราย