ถอดบทเรียนโควิด เทียบอาการ ‘ไบเดน - ทรัมป์’

ถอดบทเรียนโควิด เทียบอาการ  ‘ไบเดน - ทรัมป์’

ถึงวันนี้ดูเหมือนว่าการติดโควิด-19 คงจะเลี่ยงได้ยากเสียแล้ว เพราะแม้แต่คนที่ระมัดระวังมากอย่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐก็ยังติด ก่อนหน้านี้สมัย โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีก็เคยติดโควิดเช่นกัน ความเจ็บป่วยของสองผู้นำมหาอำนาจโลกบอกอะไรกับเราได้บ้าง

ทำเนียบขาวรายงานว่า ประธานาธิบดีไบเดน ตรวจพบติดโควิด-19 เมื่อวันพฤหัสบดี ( 21 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ไบเดนฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วสองเข็ม รักษาด้วยยาแพ็กซ์โลวิด มีอาการป่วยเล็กน้อย

 แม้การติดเชื้อของเขาอาจรุนแรง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเสี่ยงเท่ากับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ติดโควิดก่อนการเลือกตั้งปี 2563 ไม่นาน 

เว็บไซต์วิเคราะห์การเมือง politico.com รวบรวมสี่เหตุผลแสดงให้เห็นว่าการติดโควิดของไบเดนไม่เหมือนกับทรัมป์

วัคซีน

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การติดเชื้อของผู้นำทั้งสองแตกต่างกันอย่างมากเรื่องวัคซีน ตอนทรัมป์ติดโควิดยังไม่มีวัคซีน เขารักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารวอลเตอร์รีดสามคืน ส่วนไบเดนถึงขณะนี้ ฉีดวัคซีนแล้วสี่เข็ม มีภูมิคุ้มกันสูงป้องกันการเข้าโรงพยาบาล และเสียชีวิต

เมื่อเดือนม.ค. ตอนนี้โอมิครอนระบาดสูงสุด ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ (ซีดีซี) พบว่า คนไม่ฉีดวัคซีนมีแนวโน้มเข้าโรงพยาบาลมากกว่าคนที่ฉีดแล้ว 12 เท่า

“เป็นเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าจะพูดถึงการติดโควิดระหว่างคนที่ฉีดแล้วสี่เข็มกับคนที่ไม่ได้ฉีด”เซลีน กราวเดอร์ แพทย์โรงพยาบาล Bellevue และนักระบาดวิทยาวิทยาลัยแพทย์กรอสแมน มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนพ.ค.

“และฉันคิดว่าผู้คนยังไม่ตระหนักว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันการเข้าโรงพยาบาล และเสียชีวิต”

เอริก โทโพล แพทย์ อาจารย์ด้านอณูเวชศาสตร์ และผู้ก่อตั้ง Scripps Research Translational Institute กล่าวว่า เมื่อไม่ได้ฉีดวัคซีนทรัมป์จึงเสี่ยงสูงมาก “ทรัมป์น่าจะป่วยมาก อายุขนาดนี้เลย คาดว่าป่วยมาก ซึ่งเขาก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ”

การรักษา

นอกจากนี้ไบเดนยังได้การรักษาแบบใหม่ รวมถึง “แพ็กซ์โลวิด” ยาต้านไวรัสของไฟเซอร์ กราวเดอร์ยอมรับว่า แพ็กซ์โลวิดประสิทธิภาพสูงในการรักษา ช่วยให้หายป่วยได้เร็ว

ผลการทดลองที่ไฟเซอร์เผยแพร่ในเดือนธ.ค.2564 ยาเม็ดแพ็กซ์โลวิดลดความเสี่ยงเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ 89% ในกลุ่มผู้ป่วยความเสี่ยงสูงที่มีอาการไม่เกินสามวัน

แม้อาจติดซ้ำได้ ซึ่งประเด็นนี้ยังอยู่ระหว่างการวิจัย แต่แพ็กซ์โลวิดยังเป็นทางออกที่ได้ผลมาก และให้การคุ้มครองอีกระดับ

ตอนทรัมป์ติดโควิด เขาได้รับการรักษาด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดี จากบริษัทรีเจเนอรอน รวมทั้งยาเรมดิซิเวียร์

สำหรับไบเดนผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การรักษาด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดีเป็นอีกหนึ่งทางเลือกถ้าจำเป็น แต่ไม่ค่อยได้ผลเมื่อเทียบกับตอนทรัมป์ติดเชื้อ

“โมโนโคลนอลแอนติบอดีหมดโอกาสช่วยแล้ว สายพันธุ์นี้หลบภูมิได้มาก” โทโพลกล่าวถึง สายพันธุ์โอมิครอน ที่รวมถึงสายพันธุ์ย่อยอย่าง BA.2 และ BA.5

สายพันธุ์โควิด

อีกหนึ่งความแตกต่างคือ โควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ติดต่อง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวว่า ทรัมป์ติดสายพันธุ์ที่ติดต่อน้อยกว่าแต่รุนแรงกว่า ซึ่งโควิดวิวัฒนาการตลอดเวลา เกิดสายพันธุ์ย่อยทั่วโลก ไบเดนมีความเสี่ยงน้อยที่จะติดโควิดรุนแรงถึงขนาดเข้าโรงพยาบาล แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นเมื่อไวรัสวิวัฒนาการไม่หยุด

แม้การรักษาอาจได้ผลน้อยกว่ากับโควิดสายพันธุ์ใหม่ แต่สายพันธุ์ที่โดดเด่นในตอนนี้ยังไม่ทำให้เสียชีวิตมากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

โรคประจำตัว

โทโพล กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงใหญ่ของทรัมป์คือ โรคอ้วน ซึ่งทราบกันดีว่าเสี่ยงมากสำหรับโควิด

“เห็นได้ชัดว่าไม่มีปัญหานี้กับไบเดน ผมไม่เห็นโรคอื่นๆ ของไบเดนนอกเหนือจากโรคตามวัย”

ขณะที่ยังไม่มีข้อมูลสุขภาพอย่างครบถ้วน รัฐบาลทั้งสองชุดเปิดเผยข้อมูลสุขภาพบางส่วนของทรัมป์ และไบเดน ปี 2563 ก่อนทรัมป์ติดเชื้อ ทำเนียบขาวเปิดเผยข้อมูลทางกายภาพ น้ำหนัก 110 กิโลกรัม ส่วนสูง 187.5 เซนติเมตร เข้าข่ายนิยามน้ำหนักเกินทำให้เขาเสี่ยงเข้าโรงพยาบาลเพราะโควิดมากขึ้นส่วนไบเดนสูง 180 เซนติเมตร น้ำหนัก 83.4 กิโลกรัม

ตอนนี้ไบเดนอายุ 79 ปี ส่วนทรัมป์อายุ 74 ปีตอนที่ติดโควิด ซึ่งความเสี่ยงเพิ่มมากอยู่แล้วสำหรับคนวัย 50 ยิ่งสูงอายุก็ยิ่งเสี่ยงมาก ซีดีซี กล่าวว่า ประชาชนอายุตั้งแต่ 85 ปี เสี่ยงป่วยหนักมากที่สุด

ความคล้ายคลึง

ไบเดน อาจเจอลองโควิด หรืออาการหลังติดเชื้อที่ยังไม่เข้าใจกันดี เช่น อ่อนเพลียมาก มีปัญหาทางเดินหายใจต่อเนื่อง หรือความบกพร่องทางสติปัญญา หน่วยงานสาธารณสุขมีโอกาสสังเกตอาการลองโควิดได้มากขึ้นนับตั้งแต่ทรัมป์ติดโควิดปลายปี 2563 งานวิจัยชี้ว่า คนที่ติดโควิดมากถึง 30% ที่อาการยืดเยื้ออยู่ถึงเก้าเดือน

ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า ตอนนี้อาการมากมายหายไปบ้างแล้ว รวมถึงในกลุ่มคนฉีดวัคซีนแล้ว กระนั้นคนติดเชื้อส่วนน้อยยังมีอาการลองโควิด ข้อมูลเบื้องต้นเผยว่า ประชากรกว่าหนึ่งล้านคนในสหราชอาณาจักรมีอาการยืดเยื้อจากโควิด-19

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์