ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงเกือบ 100 จุด ก่อนสหรัฐเผยจีดีพีQ2/65
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 100 จุด ก่อนที่สหรัฐจะรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ในคืนนี้
เมื่อเวลา 19.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 80 จุด หรือ 0.25% สู่ระดับ 32,092 จุด
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล, แอมะซอน และอินเทล หลังจากปิดตลาดวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 400 จุดวานนี้ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามความคาดหมาย ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะลดความแรงในการดำเนินมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ตลาดจับตาการรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐในคืนนี้ ซึ่งอาจส่งสัญญาณภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับจีดีพีประจำไตรมาส 2 ในวันนี้ หลังจากเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าจีดีพีหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1
หากในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าเศรษฐกิจหดตัวในไตรมาส 2 ก็จะทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย "ทางเทคนิค" โดยเข้าเกณฑ์นิยามของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคาดการณ์ตัวเลขจีดีพี ที่แตกต่างกัน โดยเจพีมอร์แกนคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 2 ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดว่าขยายตัว 1% แต่มูดี้ส์ อนาลิติกส์ คาดว่าเศรษฐกิจหดตัว 1%
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.2% ในไตรมาส 2
อย่างไรก็ดี ในการแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินของเฟดวานนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยืนยันว่า เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตลาดแรงงาน
ที่ผ่านมา สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐ (NBER) ถือเป็นหน่วยงานที่จะตัดสินเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ โดยจะมีการพิจารณาจากหลายปัจจัย ได้แก่ การจ้างงาน การบริโภค การผลิตในภาคอุตสาหกรรม และรายได้ส่วนบุคคล ก่อนที่จะทำการประกาศอย่างเป็นทางการ